บทที่ 6
หากนางบอกตนดีดกู่เจิงเป็นที่สองของเมืองหลวงก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าตนเองเป็นที่หนึ่งแน่นอน
เมื่อฮ่องเต้ ฮองเฮา ไทเฮา และเชื้อพระวงศ์เข้าสู่งานแล้ว คุณหนูทั้งหายก็เริ่มลุกไปเตรียมการแสดง นางนั่งชมอย่างเพลิดเพลินมิได้สนใจรอบข้าง จะมีก็เพียงพูดคุยหัวเราะกันในครอบครัว
นางจึงไม่ได้เห็นสายตาของเซี่ยซีฮั่นที่มองนางแทบจะตลอด ไม่ใช่ว่านางไม่รับรู้แต่นางไม่อยากจะสนใจเท่านั้น รักมากแล้วยังไง นางไม่อยากให้ครอบครัวและตัวนางต้องมีจุดจบเช่นเดิมอีกแล้ว
เมื่อถึงเวลาที่นางจะต้องไปรอคิวขึ้นแสดง นางได้พบกับหลันเฟยหย่า ที่จะขึ้นแสดงก่อนนาง
"คุณหนูซู วันนี้ท่านจะดีดกู่เจิงใช่ไหมเจ้าคะ หากข้าร่ายรำแล้วมีท่านดีดกู่เจิงคงจะดีมิน้อย" นางพูดเสียงไม่ได้เบาจึงมีนางกำนัลของหลันกุ้ยเฟยได้ยินเช่นนั้นจึงเดินเข้าไปกระซิบแจ้งหลันกุ้ยเฟย
หลันกุ้ยเฟยรู้เรื่องที่น้องสาวของตนกับซูเหมยฮวา ตระกูลของนางต้องการอำนาจของจวนแม่ทัพเซี่ยนางจึงช่วยส่งเสริมน้องสาวมาตลอด
"คุณหนูซู หลันกุ้ยเฟยทรงมีรับสั่งอยากชมการแสดงของคุณหนูซูและคุณหนูหลันเจ้าค่ะ" นางกำนัลเดินเข้ามาแจ้ง
"ฝากมามาแจ้งพระสนมด้วย ข้าจะตั้งใจแสดงอย่างเต็มที่เจ้าค่ะ" ซูเหมยฮวายกยิ้มที่มุมปาก
เมื่อทั้งสองก้าวขึ้นสู่ลานแสดง เรียกความสนใจของคนทั้งหมดในงานได้เป็นอย่างดี คนหนึ่งชื่อเสียงดีงาม อีกนางชื่อเสียงย่ำแย่ แต่ทั้งคู่ชื่นชอบบุรุษคนเดียวกัน บุรุษทั้งหลายในงานจึงส่งสายตาให้ท่านแม่ทัพอย่างอิจฉา แต่ทั่วทั้งเมืองหลวงใครจะไม่รู้ว่าคุณหนูหลันเท่านั้นที่ท่านแม่ทัพพึงใจ
ซูเหมยฮวามิได้สนใจเสียงพูดคุย นางทำความเคารพ ฮ่องเต้ ฮองเฮา ไทเฮา และเชื้อพระวงค์ ทั้งหมดแล้วจึงเดินไปเตรียมตัวที่หน้ากู่เจิง นางหันไปมองโต๊ะครอบครัว ที่ทั้งสามส่งยิ้มให้กำลังใจ นางยิ้มหวานตอบกลับไป ทำให้บุรุษหลายคนแทบจะหยุดหายใจ ได้แต่เหม่อมองรอยยิ้มของซูเหมยฮวาจนหน้าแดงหูแดง
กู่เจิงตัวนี้มิใช่ของนาง เพราะนางไม่คิดจะทำการแสดงจึงไม่ได้เตรียมมา เมื่อเตรียมความพร้อมแล้ว นางส่งสายตาให้หลันเฟยหย่า ให้เริ่มการแสดง
หลันเฟยหย่าเตรียมตัวมาวันนี้อย่างดี นางอยากให้รู้ว่าตนคือสตรีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ที่เพียบพร้อมทุกด้าน นางร่ายรำอย่างอ่อนช้อย สวยงาม ทุกท่วงท่าสามารถตรึงสายตาของทุกคนคนไว้ได้
เสียงกู่เจิงที่บรรเลงอย่างพลิ้วไหว ช่วยส่งให้การแสดงของหลันเฟยหย่ายิ่งประทับใจ ซูเหมยฮวาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นิ้วมือของนางลื่นไหลดุจสายน้ำ ท่วงท่าที่สง่างามสมกับเสียงร่ำลือที่เคยได้ยิน
รอยยิ้มน้อยๆ ที่มีอยู่บนใบหน้าตลอดเวลาช่วยส่งให้ความงามของซูเหมยฮวายิ่งเปร่งประกายออกมาอย่างมากในคืนนี้
แต่กว่าซูเหมยฮวาจะรู้ว่านางโดนลอบกัดแล้ว สายกู่เจิงถูกเปลี่ยน นิ้วมือของนางโดนบาด แต่นางมิอาจหยุดการแสดงนี้ได้ มีเพียงสายตาไม่กี่คู่เท่านั้นที่รับรู้ หวังหย่งอยากจะพุ่งเข้าไปห้ามเลือดที่นิ้วมือของน้องแต่ก็ทำไม่ได้ บุรุษทั้งสามได้แต่กัดฟันข่มอารมณ์ที่คุกรุ่นเท่านั้น
เซี่ยซีฮั่นก็เห็นเช่นกัน เขาได้แต่กำมือแน่น แต่ก็ช่วยเหลือมิได้
"หยุด!!!" เสียงกู่เจิงหยุดลง หลันเฟยหย่าสะดุดตกใจเกือบจะล้ม
ซูเหมยฮวาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาห้ามเลือด และแอบเช็ดเลือดที่กู่เจิง เพราะนางรู้ว่างานมงคลนี้ไม่สมควรมีเลือดในงาน หากเป็นนางที่ทำให้ในงานหลั่งเลือด โทษนี้นางคงรับไม่ไหว
"มีอันใดหรือน้องสาม" ฮ่องเต้ที่กำลังเพลิดเพลินหันไปถามน้องชาย
"เสด็จพี่การแสดงนี้น่าเบื่อเกินไป เปิ่นหวางมิอยากชม" ฉินอ๋องปรายตามองซูเหมยฮวาแล้วหันไปสนใจแก้วเหล้าในมือต่อ
"เจ้าเด็กคนนี้" ไทเฮาแสร้งดุบุตรคนเล็กของนาง
เมื่อฉินอ๋องไม่ชอบใครจะกล้าพูดอันใด ซูเหมยฮวาลุกขึ้นทำความเคารพแล้วเดินออกจากลาน หลันเฟยหย่าเห็นรอยเลือดที่มือซูเหมยฮวาก็แย้มยิ้มแล้วเดินจากไป นางเดินขึ้นมาอยู่ด้านหน้าของซูเหมยฮวา
ซูเหมยฮวาหยิบก้อนหินเล็กขึ้นมาแล้วดีดใส่ขาของหลันเฟยหย่า การกระทำของนางไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ที่นางไม่รู้คือมีดวงตาอยู่คู่ที่จ้องมองทุกการกระทำของนางอยู่
หลันเฟยหย่าล้มลงโดยที่นางกำนัลก็เข้าช่วยเหลือไม่ทัน ด้านหลังงานจึงเกิดความวุ่นวาย
"คุณหนูหลันคงเหน็ดเหนื่อยจากการร่ายรำทำให้ขาอ่อนจนล้มลง ท่านให้นางกำนัลไปตามหมอหลวงมาดูอาการเถิด ข้าก็เหน็ดเหนื่อยเช่นกันขอตัว" ซูเหมยฮวาส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้ หากเจ้าไม่คิดร้ายกับข้าข้าจะทำเช่นนี้เพื่ออันใด
"น้องเล็ก เจ็บมากหรือไม่" หลิวเหล่ยนำผ้าเช็ดหน้าของตนออกมาช่วยเช็ดเลือดให้น้องสาว ก่อนจะเก็บผืนของนางเข้าแขนเสื้อไป
เขาตรวจดูแล้วว่าแผลมิได้ลึกเท่าใดก็วางใจ อาจจะเป็นเพราะฉินอ๋องหยุดการแสดงไว้ก่อนอย่างบังเอิญ น้องสาวตนจึงไม่ได้บาดเจ็บเท่าไหร่
"ท่านเสนาบดีซูได้โปรดรับไว้ด้วยขอรับ" องครักษ์ของเซี่ยซีฮั่นกับฉินอ๋องส่งขวดยาห้ามเลือดให้
"ขอบพระทัยฉินอ๋องที่เมตตา ขอบน้ำใจท่านแม่ทัพด้วย" ซูเหลียงรับยาสองขวดมาอย่างงงๆ
หลิวเหล่ยที่รังเกียจเซี่ยซีฮั่นหยิบขวดยาของฉินอ๋องใส่แผลให้ซูเหมยฮวาพร้อมทั้งใช้ผ้าเช็ดหน้าพันไว้ หวังหย่งหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนเช็ดเหงื่อให้น้องสาว การกระทำของคุณชายซูทั้งสองสร้างความอิจฉาให้บุรุษมากมายในงาน เพราะเขาก็อยากจะช่วยสาวงามเช็ดเหงื่อบ้าง
"ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านพ่อ พี่ใหญ่ พี่รอง"
"ใครกันที่ช่างกล้าทำเช่นนี้" เสนาบดีซูแทบอยากจะลุกขึ้นไปหาตัวคนร้าย แต่จนใจที่เป็นงานของไทเฮา
"ข้าจะสืบเรื่องนี้ดูขอรับท่านพ่อ ท่านจงวางใจ" หวังหย่งที่ไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ แต่ตนไม่รู้ว่ามีคนส่งคนไปสืบเรื่องนี้แล้ว