งานหมั้น
อัยวา....
"ขอบคุณนะคะป้าพิมพ์"
"ไม่เป็นไรจ้ะสบายใจแล้วเนอะเรื่องเอินกับพี่ภู"
"ค่ะ"
"ตอนนี้ก็ทำใจให้สบายไม่ต้องคิดอะไรมากเดี๋ยวป้าจะรีบไปหาหลวงพ่อให้หาฤกษ์หมั้นให้ก่อน ไว้ค่อยคุยกันนะลูก"
"ค่ะป้าพิมพ์"
หลังจากวางสายจากป้าพิมพ์ฉันก็รู้สึกสบายขึ้นมานิดนึงเรื่องพี่ภูกับนังเอินสรุปก็คือมันโกหกเรื่องที่พี่ภูชวนมันไปงานวันเกิดแล้วก็โกหกเรื่องที่พี่ภูขอมันเป็นแฟน
หลายอาทิตย์ต่อมา....
วันนี้เป็นวันหมั้นของฉันกับพี่ภูอยากจะบอกว่าฉันตื่นเต้นจนนอนไม่ค่อยหลับดีที่มีย่ามานอนเป็นเพื่อน และตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่องฉันก็ไม่ได้เจอหน้าพี่ภูอีกเลยป้าพิมพ์บอกว่าพี่ภูไม่กลับบ้านแต่ไปอยู่คอนโดแทนฉันรู้ว่าเขาไม่อยากเจอหน้าฉันแต่แล้วไงยังไงวันนี้เราก็ต้องเจอกันอยู่ดีเขาจะหลบหน้าฉันไปตลอดไม่ได้หรอก
ฉันมาแต่งตัวแต่งหน้าที่บ้านป้าพิมพ์แทนบ้านตัวเองเพราะเบื่อที่จะต้องโดนว่าโดนแซะจากสองแม่ลูกนั่นวันนี้ฉันไม่อยากให้ตัวเองอารมณ์เสียหรือด่าใคร
"ทำไมตาภูยังไม่มาอีกก็ไม่รู้นี่ก็จะใกล้ได้เวลาแล้วด้วย" ฉันแอบได้ยินป้าพิมพ์กับลุงกิตคุยกันอยู่หน้าห้อง
"ใจเย็นๆสิเดี๋ยวลูกก็มาเหลือเวลาตั้งเกือบชั่วโมง"
"พิมพ์จะไม่บ่นเลยค่ะพี่ถ้าตาภูไม่ปิดเครื่องพิมพ์โทรหาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็โทรไม่ติด" ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่ภูปิดเครื่องทำให้ป้าพิมพ์ไม่สามารถโทรตามได้ แล้วถ้าพี่ภูไม่มางานหมั้นล่ะถ้าเขาอยากหักหน้าฉันอยากทำให้ฉันอายฉันจะทำยังไง ตอนนี้ฉันเริ่มใจไม่ดีแล้ว
เวลาต่อมา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"น้องอัยป้าเข้าไปนะลูก"
"ค่ะ" ป้าพิมพ์เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"น้องอัยคือว่าตอนนี้...."
"ตอนนี้พี่ภูยังไม่มาใช่มั้ยคะ"
"ใช่ลูกแต่น้องอัยไม่ต้องห่วงนะยังไงป้าก็จะตามตาภูมาให้ได้"
"ถ้าพี่ภูไม่อยากหมั้นกับอัยก็ไม่เป็นไรค่ะ" ถ้าเขาไม่มาจริงๆฉันก็ควรจะต้องยอมรับความจริง
"ไม่ได้ป้าไม่ยอมเด็ดขาดน้องอัยเป็นผู้หญิงมีแต่เสียกับเสียยังไงตาภูก็ต้องรับผิดชอบงานหมั้น น้องอัยเตรียมตัวนะลูกอีกครึ่งชั่วโมงป้าจะให้คนขึ้นมาตามลงไป"
"ค่ะป้าพิมพ์"
หลังจากที่ป้าพิมพ์เดินออกไปจากห้องยัยสองแม่ลูกนั่นก็เดินเข้ามาพร้อมด้วยสีหน้าเยาะเย้ยขั้นสุดพวกมันคงรู้แล้วว่าพี่ภูยังไม่มาก็เลยเข้ามาหาเรื่องฉัน
"เป็นไงล่ะจนถึงตอนนี้พี่ภูก็ยังไม่มา55555สมน้ำหน้า!!!!"
"แม่ว่าตาภูไม่น่ามาแล้วล่ะใครจะไปอยาหมั้นกับคนนิสัยแย่ๆแบบนี้ เสียใจด้วยนะจ้ะคุณลูกเลี้ยงสุดท้ายผู้ชายเค้าก็ไม่รับผิดชอบ555555"
"พี่ภูเกลียดมันยังกับอะไร พี่ภูไม่มีวันยอมหมั้นกับมันหรอกค่ะถ้าเป็นเอินก็ว่าไปอย่าง"
"ใช่ลูกลูกเอินของแม่ทั้งสวยทั้งนิสัยดีใครเห็นก็ต้องหลงรักไม่เหมือนแกนังอัยไปที่ไหนก็มีแต่คนเกลียดเพราะนิสัยแย่ๆของแก" ฉันนั่งกำหมัดแล้วนับหนึ่งถึงสิบในใจ
"วันนี้แกได้อายขายขี้หน้าคนทั้งงานแน่นังอัยวา!!!"
"พวกแกจะหุบปากกันได้หรือยัง"
"ทำไม รับความจริงไม่ได้สินะ5555"
"พวกแกจะไม่หยุดพูดใช่ไหม"
"ฉันมีปากฉันก็พูดสิทำไมแกจะทำไมพวกฉันห๊ะนังอัยวานังเด็กเหลือขอ"
"ก็ไม่ทำอะไรหรอกก็แค่..." ฉันลุกขึ้นยืนแล้วก้มตัวลงหยิบกะละมังแช่เท้าจากนั้นก็สาดน้ำใส่หน้าสองแม่ลูกนั่นจนหมดด้วยความสะใจ
"เป็นไงโดนน้ำล้างเท้าเข้าไปทีนี้จะหุบปากได้รึยังถ้ายังฉันจะได้เอาน้ำมนต์มาสาดใส่พวกแก!!!" เสียงร้องของสองแม่ลูกทำให้คนด้านล่างวิ่งตามขึ้นมารวมถึงพ่อของฉันด้วย
"กรี๊ดดดดนังอัยแกเป็นบ้าอะไรเนี่ย"
"อ๊ายยยย แม่ขาชุดเอินเปียกหมดเลย ฮือออ"
"เกิดอะไรขึ้นห๊ะ" พ่อถามสองคนแม่ลูกนั่นแทนที่จะถามฉัน
"ก็ยัยอัยน่ะสิจู่ๆก็เอาน้ำล้างเท้ามาสาดใส่หน้าเพ็ญกับลูกดูสิเปียกหมดเลย"
"ใช่ค่ะคุณลุงเอินกับแม่แค่จะมาแสดงความยินดีแต่อัยวากลับไม่พอใจหาว่าเอินกับแม่อิจฉาแล้วก็เอาน้ำสาดพวกเรา"
"แสดงละครเก่งตอแหลเก่งไม่เหนื่อยบ้างหรือไงห๊ะ!!!" ฉันตะคอกใส่หน้าสองคนแม่ลูกนั่นโดยไม่สนหน้าใครทั้งนั้น
"ยัยอัยแกเป็นบ้าอะไรอีกห๊ะทำไมพูดถึงทำตัวแบบนี้ฉันชักจะไม่ไหวกับแกแล้วนะ"
"อัยก็ไม่ไหวกับเมียใหม่พ่อเหมือนกันตั้งแต่เล็กจนโตพ่อเคยเข้าข้างอัยบ้างมั้ยสองคนนี้พูดอะไรพ่อก็เชื่อหมดแต่อัยที่เป็นลูกพูดอะไรพ่อไม่เคยฟังเลย"
"อัยใจเย็นๆลูก ตาพจน์แกก็รู้ว่าเมียใหม่แกเกลียดยัยอัยทำไมแกถึงดูไม่ออกห๊ะ" ย่าเดินขึ้นมากอดฉันแล้วหันไปต่อว่าพ่อ
"ที่ยัยอัยมันนิสัยเสียแบบนี้ก็เพราะคุณแม่เอาแต่เข้าข้างคอยให้ท้ายเพ็ญเค้าจะเกลียดยัยอัยทำไมเพ็ญก็รักอัยเหมือนลูกตัวเองมีแต่ยัยอัยที่ตั้งแง่ไม่ยอมรับความหวังดีจากเพ็ญ"
"อย่าเถียงคุณแม่เลยค่ะพี่พจน์เพ็ญผิดเองที่ไม่สามารถชนะใจยัยอัยได้เพ็ญผิดเองค่ะ" ยัยแม่เลี้ยงทำหน้าเศร้าได้น่าหมั่นไส้มากไม่รู้ทำไมพ่อถึงดูไม่ออกว่ามันตอแหลเสแสร้งเก่ง
"คุณแม่เห็นไหมเพ็ญเค้าโดนขนาดนี้เค้ายังไม่โกรธยัยอัยเลย"
"ฉันว่าแกให้สองคนนี้กลับบ้านไปเถอะไม่ต้องมาร่วมงานหรอก"
"คุณแม่ไล่พวกเราสองคนเหรอคะ"
"ใช่ฉันไล่พวกหล่อน ทำไมมีอะไรไม่พอใจอะไร ในเมื่อนี่มันงานหมั้นหลานสาวเพียงคนเดียวของฉันเพราะฉะนั้นฉันย่อมมีสิทธิ์ที่จะให้ใครอยู่ร่วมงานก็ได้"
"พี่พจน์คะ"
"คุณแม่ให้เกียรติเพ็ญด้วยเพ็ญเค้าเป็นภรรยาผมเป็นลูกสะใภ้คุณแม่นะครับ"
"ลูกสะใภ้เพียงคนเดียวที่ฉันยอมรับคือแม่ของยัยอัยเท่านั้นส่วนคนอื่น...." ย่าใช้หางตามองยัยแม่เลี้ยงนั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า
"คุณแม่!!!!" พ่อคงจะไม่พอใจที่ย่าใช้สายตาแบบนั้นกับเมียตัวเองแต่ฉันรู้สึกสะใจ
"แกด้วยอีกคนถ้าไม่รักลูกก็ไม่ต้องมาร่วมงานส่วนของหมั้นวันนี้ทั้งหมดก็ไม่ต้องเอานะฉันจะเก็บไว้ให้ยัยอัยเอง"
"ไม่ได้นะคะคุณแม่" ยัยแม่เลี้ยงใจร้ายรีบโพล่งออกมาสงสัยจะลืมตัว
"เธอมายุ่งอะไรด้วยไม่ทราบ อ่อหรือโลภมากอยากได้สินสอดของหลานฉัน"
"ป่ะเปล่าค่ะคุณแม่"
"ถ้างั้นก็กลับไปกันได้ละงานนี้มีแค่ฉันคนเดียวก็พอ"
หลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านไปพ่อกับยัยสองคนนั้นก็ยอมกลับแต่โดยดีเพราะโดนย่าไล่กลับ ทำให้ตอนนี้แขกฝั่งฉันมีแค่ย่าเพียงคนเดียวแต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะฉันก็ไม่ได้ต้องการให้สองแม่ลูกนั่นมาร่วมงาน
ตอนนี้ใกล้จะได้เวลาแล้วฉันใจตุ้มๆ ต่อมๆเพราะพี่ภูยังไม่มาจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายพี่ภูก็เดินเข้างานมาในสภาพเหมือนเพิ่งตื่นโดยมีพี่กายกับพี่บาสเดินตามมาด้วย พอป้าพิมพ์เห็นสภาพพี่ภูก็รีบขอให้พี่บาสกับพี่กายพาพี่ภูไปเปลี่ยนชุดเพื่อจะเข้าพิธีเพราะใกล้จะได้เวลาแล้ว
"อย่าหวังเลยว่าเธอจะมีความสุขฉันจะทำให้เธอเป็นฝ่ายถอนหมั้นเองไม่เชื่อคอยดู" นี่คือคำพูดของพี่ภูระหว่างที่เรากำลังนั่งรอถ่ายรูป
..................................