สงสารไม่ลง
อัยวา....
"เอินว่าให้อัยวาไปตรวจร่างกายดีมั้ยคะว่าพี่ภูล่วงเกินจริงหรือเปล่าบางทีอัยวาอาจจะคิดไปเองก็ได้"
"ไม่ต้องหรอกจ้ะน้องเอินแต่ป้าก็ขอบใจนะที่ช่วยออกควรเห็น^^" ฉันสะใจมากที่ป้าพิมพ์ตอบนังเอินไปแบบนั้นฉันรู้ว่ามันไม่เชื่อแต่แล้วไงในเมื่อป้าพิมพ์เข้าข้างฉัน
"เอาเป็นว่าทางเราจะหาฤกษ์หมั้นให้เร็วที่สุดส่วนเรื่องงานแต่งไว้รอน้องอัยเรียนจบก่อนค่อยแต่งเนอะ^^" ป้าพิมพ์บอกกับทุกคนในห้อง พ่อของฉันท่านก็พยักหน้าตอบรับส่วนสองลองแม่ลูกนั่นฉันรู้ว่ากำลังโกรธและไม่พอใจที่ในที่สุดฉันก็จะได้หมั้นกับพี่ภู
"เรื่องสินสอดต้องการเท่าไหร่บอกมาได้เลยนะครับคุณพจน์" ลุงกิตติถามพ่อเรื่องค่าสินสอด
"เห็นตามสมควรก็แล้วกันครับผมไม่เรียกร้องอะไร"
"เอาเป็นว่าทางเราจะให้สินสอดเป็นเงินสดยี่สิบล้านบาทไม่รวมเครื่องเพชรกับที่ดินที่ทางเราจะจัดเตรียมไว้ให้อีกต่างหาก" พอสองแม่ลูกได้ยินค่าสินสอดก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันทีก่อนจะหันมามองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชังแล้วถามว่าฉันต้องใส่ใจไหมไม่เลยสักนิด
และหลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้วป้าพิมพ์ก็เรียกฉันเข้าไปคุยตามลำพังในห้องทำงานของคุณลุง
"สบายใจแล้วนะลูก"
น้ำเสียงอ่อนโยนของท่านทำให้ฉันน้ำตาคลอป้าพิมพ์ลูบผมฉันสายตาของท่านมองฉันอย่างรักใคร่เอ็นดู อยากจะบอกว่าก่อนที่ป้าพิมพ์จะเรียกพ่อมาคุยเรื่องสินสอดฉันได้สารภาพความจริงกับท่านไปแล้วว่าระหว่างฉันกับพี่ภูมันไม่ได้มีอะไรเกินเลยฉันแค่สร้างสถานการณ์ขึ้นมาเท่านั้นส่วนสาเหตุก็มาจากเรื่องที่เกิดขึ้นในงานวันเกิดพี่ภูเมื่อคืนนี้ ป้าพิมพ์บอกกับฉันว่าท่านเข้าใจฉันดีทุกอย่างเพราะท่านรู้ว่าฉันรักพี่ภูมากแค่ไหนท่านบอกว่าถ้าเป็นท่านๆก็จะทำแบบที่ฉันทำ ป้าพิมพ์ยังบอกอีกว่าของๆเรามันก็ต้องเป็นของๆเราจะให้คนอื่นได้ไปมันไม่ใช่เรื่องที่ฉันทำมันถูกต้องแล้วเราต้องรักษาสิทธิ์ของเราให้ถึงที่สุดฉันดีใจที่ป้าพิมพ์เข้าใจและไม่โกรธในสิ่งที่ฉันทำแม้จะรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันไม่ถูกต้องก็ตาม ส่วนรอยที่คอป้าพิมพ์ถามว่าเกิดขึ้นได้ยังไงถ้าพี่ภูไม่ได้เป็นคนทำฉันก็เลยสารภาพไปตามความจริงว่าฉันเป็นคนทำขึ้นมาเองโดยใช้เครื่องสำอางทำให้เกิดเป็นรอยตามที่ทุกคนเห็นโชคดีที่พี่ภูไม่ทันสังเกตว่ารอยนั้นไม่ใช่รอยจริงๆไม่อย่างงั้นเขาคงอาละวาดบ้านแตกแล้วก็ไม่ยอมหมั้นกับฉันแน่ๆถ้าเขารู้ว่าฉันโกหกสร้างเรื่อง
"อัยขอโทษนะคะที่ทำอะไรโดยไม่คิดอัยแค่กลัวจะเสียพี่ภูไปให้ยัยนั่น"
"ป้ารู้ว่าอัยไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ถึงอัยไม่ทำแบบนี้ยังไงตาภูก็ต้องหมั้นกับอัยอยู่ดี"
"ป้าพิมพ์ไม่โกรธอัยใช่มั้ยคะ"
"ไม่เลยลูกป้ารู้ว่าอัยทำเพราะอัยรักตาภู"
"ถ้าพี่ภูรู้ความจริงพี่ภูคงเกลียดอัยมากกว่าเดิมแน่ๆ" ฉันรู้ความจริงข้อนี้ดีถ้าวันหนึ่งพี่ภูรู้ความจริงว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นฉันเป็นคนจัดฉากเองฉันเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าเขาต้องโกรธต้องเกลียดฉันหนักกว่าเดิม แต่ตอนนี้ฉันขอแค่ได้หมั้นกับพี่ภูเพราะมันจะทำให้ฉันมีสิทธิ์ในตัวพี่ภูได้อย่างเต็มที่ ใครจะมองว่าฉันร้ายนิสัยไม่ดีฉันก็ยอมแต่ฉันจะไม่ยอมเสียพี่ภูไปเป็นอันขาด ถ้าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นฉันพร้อมจะรับมือกับมัน
ภูผา...
ผมยืนกอดอกรอคนบางคนออกมาจากห้องด้วยใจที่เต็มไปด้วยความโกรธ ผมรู้ดีว่าเมื่อคืนมันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับยัยเด็กเลี้ยงแกะนั่น ยัยนั่นสร้างสถานการณ์ขึ้นมาแต่ไม่มีใครเชื่อผมเลยโดยเฉพาะแม่ที่เอาแต่เข้าข้างให้ท้ายทั้งที่ผมเป็นคนเสียหายไม่ใช่ยัยนั่น
แกร๊ก แอ๊ดดดด
ประตูห้องเปิดออกมาพร้อมกับใครบางคนที่ผมยืนรออยู่นานหลายนาที
"มานี่ยัยตัวแสบ" ผมคว้าแขนยัยขี้โกหกแล้วลากไปที่สวนหลังบ้านทันที
"พี่ภูจะพาอัยไปไหน ป้าพิมพ์ขาช่วยอัยด้วย" ยัยอัยวาตะโกนเรียกแม่ผมให้มาช่วยแต่คิดเหรอว่าแม่จะช่วยอะไรได้ถ้าผมเอาจริงขึ้นมา
"จะพาน้องไปไหนห๊ะตาภูหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ" แม่เดินตามพร้อมกับถามผมด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"ถ้าแม่ยังอยากให้มีงานหมั้นเกิดขึ้นแม่ก็ห้ามตามมาผมมีเรื่องจะคุยกับยัยนี่ให้รู้เรื่อง" ผมลากแขนยัยอัยวามาจนถึงสวนหลังบ้านแล้วผลักเข้ากำแพงเอามือกักตัวไว้เพราะกลัวว่ายัยนี่จะหนี
"พี่ภูจะทำอะไร" ยัยอัยวาถามผมเสียงสั่น
"กลัวอะไร"
"เปล่ากลัวซะหน่อย"
"หึไม่กลัวแล้วทำไมเสียงสั่น"
"ก็...."
"ฉันรู้ว่าเมื่อคืนมันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น"
"พี่รู้ได้ไงว่าไม่มีพี่เมานะอย่าลืม" พูดกับผมแต่ไม่กล้าสบตาหึยัยนี่คิดว่าตัวเองฉลาดมากหรือยังไง
"ฉันเอาผู้หญิงมาตั้งเท่าไหร่ถ้าฉันเอากับเธอฉันต้องรู้สึกอะไรบ้างแต่นี่ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เธอบอกความจริงกับฉันมาซะดีๆ" ผมขู่ยัยนี่ให้รับสารภาพแต่ก็นั่นแล่ะนิสัยอย่างอัยวาถ้าจับไม่ได้ก็ไม่มีทางยอมรับความจริง
"ความจริงก็คือพี่ล่วงเกินอัยอัยเป็นของพี่แล้วยังไงพี่ก็ต้องรับผิดชอบด้วยการหมั้นกับอัย"
"ได้ถ้าเธออยากให้ฉันรับผิดชอบเธอด้วยการหมั้นฉันก็จะหมั้นแต่หลังจากนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นเธออย่าหาว่าฉันใจร้ายในเมื่อเธอเลือกที่จะให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เอง"
"พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง" ผมไม่ตอบก่อนจะปล่อยยัยนี่ให้เป็นอิสระแล้วเดินหันหลังออกมา ถามว่าที่ผมพูดไปผมพูดจริงหรือแค่ขู่คนอย่างผมไม่เคยขู่ใครผมพูดจริงทำจริงเสมอ
"ตาภูมาคุยกับแม่ที่ห้อง" พอผมเดินเข้าบ้านมาแม่ก็เรียกผมเข้าไปคุย
"แม่มีอะไรจะคุยกับผมอีก" ผมถามอย่างเซ็งๆ
"แม่มีเรื่องจะถาม"
"เรื่อง??"
"เมื่อคืนเราทำไมถึงชวนเอินไปงานวันเกิดแทนที่จะชวนน้องอัย" ผมถึงกับถอนหายใจแรงกับคำถามของแม่ ยัยอัยวาคงจะมาฟ้องแม่ผมเรื่องนี้ด้วยสินะ
"ก็งานวันเกิดผมผมจะชวนใครไปมันก็เรื่องของผมหรือเปล่าแม่"
"แต่เราทำแบบนี้มันเหมือนไม่ให้เกียรติน้องเลยนะแถมยังไล่น้องออกจากงานอีก"
"ก็ยัยนั่นทำร้ายเอินแม่จะให้ผมทำยังไง"
"ถามจริงนะเราชอบเอินเหรอตาภู"
"เปล่าผมไม่ได้ชอบ" ผมบอกแม่ไปตามตรงผมไม่ได้คิดอะไรกับเอินทั้งนั้นส่วนเรื่องเมื่อคืนที่เอินกับน้าเพ็ญไปงานวันเกิดผมผมก็ไม่รู้ว่าไปได้ไงเพราะผมไม่ได้เอ่ยชวนแล้วก็ไม่ได้บอกสถานที่ด้วยมารู้ตัวอีกทีการ์ดก็เดินมาบอกว่าสองแม่ลูกนั่นยืนรออยู่หน้างานแล้วผมจะไล่ให้กลับก็ดูจะไร้มารยาทก็เลยยอมให้เข้ามาในงาน
"ดี แล้วต่อไปนี้ก็หัดใจดีกับน้องอัยบ้างเข้าใจหรือเปล่าตาภู"
"ผมชักจะสงสัยแล้วว่าใครกันแน่เป็นลูกแม่ผมหรือยัยอัยวากันแน่ทำไมแม่ถึงเข้าข้างยัยนั่นจัง"
"น้องน่าสงสารภูก็เห็นอยู่"
"เหอะแม่สงสารไปคนเดียวเถอะผมสงสารไม่ลงหรอก"
...............................