[4] เริ่มแผนการ
"คุณเฉินจะเฝ้าดูฉันอีกนานไหมคะ?"
ม่านมัสลินเอ่ยลอยๆ เธอนั้นยืนอยู่คนเดียวในสวนสาธารณะใกล้คอนโดมิเนียมขนาดกลางของเธอเอง วันนี้เป็นวันหยุดเพียงวันเดียวของสัปดาห์ หนักไม่เบากับงานบริการ เธอมีเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันกับแขกที่มาเยือน
บ้างก็เพื่อนร่วมงานที่ไม่ยอมเลิกลากับเธอ
ทว่านิสัยของเจ้าหล่อนนั้นแอคทีฟเกินกว่าจะนอนพัก หากเธอไม่ได้มาออกกำลังกายเธอรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปอย่างไงอย่างงั้น และในขณะที่ยืนยืดเส้นยืดสายอยู่นั้น สัญชาตญาณที่ถูกฝึกมาอย่างดีมีหรือจะไม่รู้ว่ามีคนกำลังถ้ำมอง ทว่าเธอรู้ว่าเป็นใคร...
"คุณน้ำตาลเก่งมากครับที่รู้ว่าผมแอบตาม!"
หนุ่มหล่อชาวไต้หวันปรากฏตัวขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ คุณเฉินคือบอดิการ์ดมือดี เป็นมือขวาของเอเดนพี่ชายบุญธรรมของเธอเอง
"พี่เอเดนสั่งมาเหรอคะ น้ำตาลบอกไปแล้วไงว่าไม่ต้องการ"
"เปล่าครับ ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมญาติที่นี่เลยเป็นห่วงคุณน้ำตาล ผมขอโทษครับที่ทำเกินหน้าที่ที่นายไม่ได้สั่ง"
ก้มศรีษะคำนับเล็กน้อย ฉันยกมือขึ้นปรามอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร
"ไม่เป็นไรค่ะ ครั้งหน้าอย่าให้มีแบบนี้อีกนะคะ"
"ครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อน หากมีอะไรก็โทรมาที่เบอร์ของผมนะครับ!"คุณเฉินพยักใบหน้าหล่อและยังไม่เลิกเป็นห่วงเป็นใยฉัน
"ค่ะ!"
จากนั้นร่างหนาก็เดินจากไป ฉันมองแผ่นหลังของบอดี้การ์ดแล้วก็อดคิดถึงคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมและพี่ชายไม่ได้ ฉันสลัดความคิดและกลับมายืดเส้นยืดสายก่อนที่จะวิ่ง
และในขณะที่วิ่งอยู่นั้น ฉันไม่ได้ปล่อยให้เวลาเปล่าประโยชน์ไป
ใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตที่โฉบเฉี่ยวมองไปยังผู้หญิงอีกคนที่กำลังวิ่งอยู่ก่อนหน้าเธอและฟังเพลงอย่างสบายใจ ม่านมัสลินเร่งฝีเท้าให้เข้าใกล้อีกคนและมาหยุดให้วิ่งเสมอกัน ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของอีกคนหันมายิ้มให้ โชว์ฟันขาวจนแทบครบสามสิบสองซีี่ ใบหน้ามีลักยิ้มและสดใสเป็นอย่างมาก
"สวัสดีค่ะ ขออนุญาตวิ่งด้วยได้ไหมคะ?"
"ได้สิคะ ฉันก็กำลังเหงาเลย คุณชื่ออะไรเหรอคะ?"คนตรงหน้าเป็นมิตรกับเธอดีมากแถมยังถามชื่ิอเธอกลับอีกต่างหาก
"ชื่อน้ำตาลค่ะ แล้วคุณหล่ะคะ?"
"ลูกเอ๋ยค่ะ หรือเรียกว่าเอ๋ยก็ได้!"เป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกัน เธอก็รับรู้ได้ถึงความเป็นมิตรของเจ้าหล่อน
ลูกเอ๋ยนำผ้าเช็ดหน้าผืนสีขาวขึ้นมาซับใบหน้าที่มีแต่เหงื่อของตนเองจากนั้นก็ค่อมจังหวะเปลี่ยนเป็นเดิน
"ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย ปกติฉันก็ไม่ได้อยู่ที่ไทยซะส่วนใหญ่ด้วย!"
"คุณเป็นลูกครึ่งหรือเปล่าคะ?"
ด้วยความที่เป็นคนพูดเก่ง ลูกเอ๋ยก็รีบโพร่งคำถามตามประสาคนต่อยหอย สงสัยอะไรก็ถามและรู้สึกถูกชะตากับน้ำตาลมากๆด้วย รู้สึกดีที่มีเพื่อนวิ่งและรักสุขภาพเหมือนๆกัน เพื่อนของเธอส่วนมากไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย ชอบช้อปปิ้งและทานโอมากาเสะอะไรทำนองนั้น มีคอนเทนต์เป็นกิจวัตร ทว่ากับการออกกำลังกายไม่แยแสเลยสักคน เธอไม่ได้ว่าความชอบของเพื่อนสนิท
แต่แอบหวังดีอยากจะให้เพื่อนออกกำลังกายบ้างก็เท่านั้น หรือมาเป็นเพื่อนวิ่งสักรอบก็ยังดี...
"เปล่าค่ะ! เราพักจิบน้ำสักครู่ไหมคะ?"เมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มหอบเหนื่อยเธอก็ชวนเข้าไปนั่งที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ในทันที
"ก็ดีนะคะ!"
.
.
"คุณน้ำตาลทำงานที่ผับของเชนนี่คะ ฉันรู้จักพวกเขาค่ะ เป็นเพื่อนพี่ชายฉันเองค่ะ"ลูกเอ๋ยนั่งคุยสบายใจไม่สนใจจะวิ่งต่อ และรู้สึกว่าโลกกลมดีที่น้ำตาลทำงานที่ผับของเพื่อนพี่ชาย และเธอก็รู้ว่าเธออายุมากกว่าน้ำตาล1ปี
"โลกกลมจังเลยนะคะ"
"แล้วนี่คืนนี้ไม่ไปทำงานใช่ไหมค่ะ วันมะรืนฉันจะไปเที่ยวที่นั่นพอดี แล้วเจอกันนะคะ ขอช่องทางติดต่อเอาไว้หน่อยได้ไหมคะ?"
"ได้ค่ะ!"
คุยกันถูกคอและจวบจนแยกย้ายกัน
.
.
วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าทานและโทรหาคุณแม่บุญธรรมบ้าง รอไปทำงานในช่วงบ่ายแก่ๆ เวลานี้ก็เป็นวันที่ฉันรอคอย ตลอด1เดือนมานี้ วันนี้เป็นวันที่เหมาะที่สุดที่ฉันจะเข้าถึงตัวของเขาได้
22.00น.
เสียงเพลงในผับดังสนั่นหวั่นไหว ผู้คนโยกย้ายส่ายสะโพกกำลังออกสเต็ปแด๊นซ์กันอย่างเมามันในช่วงเวลาสี่ทุ่มตรง
ร่างเล็กในชุดรัดรูปสุดเซ็กซี่ที่เป็นยูนิฟอร์มสำหรับเด็กดริ้งด์ เป็นชุดกระโปรงสีดำที่รัดติ้วจนแทบเห็นแก้มก้นก็ไม่ปาน เธอเดินสับสะโพกกลมงอนสะกดสายตาของแขกผู้มาเยือนนับร้อย สองมือถือถาดที่มีน้ำสีอำพันและมิกเซอร์ของโต๊ะวีวีไอพี แขกขาประจำของที่นี่
"น้ำตาลมานั่งนี่มา!"
เธอได้เข้ามาในห้องวีวีไอพีที่มีหนุ่มหล่อนั่งกันอยู่ถึงสี่คน เชนเจ้าของผับเอ่ยเรียกเธอด้วยความสนิทสนม ม่านมัสลินหย่อนสะโพกลงข้างๆชายหนุ่มในทันที
พาดแขนเรียวไปกอดแขนทำทีออดอ้อน เอนเตอร์เทให้สมหน้าที่ เชนปรายตามองเล็กน้อย เธอส่งยิ้มให้เล็กน้อยและชงเหล้าให้
จนกระทั้งเวลาผ่านไป ฉันคุยกับชายอีกคนที่ซื้อวินเซอร์ และเขาต้องการให้ไปนั่งด้วย ทว่าในตอนที่กำลังจะเดินไปหาวินเซอร์ ก็มีมือดีเข้ามาบีบที่แก้มก้นของฉัน
ฉันลืมตัวไปเล็กน้อยว่านี่เป็นสัญญาณที่ดี จึงเสนอให้อีกฝ่ายเล่นเกมส์บางอย่างเพื่อที่จะได้ให้เธอมาเอนเตอร์เทนตลอดหนึ่งเดือน ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ได้สนใจ
"ไม่หล่ะ ข้อเสนอไม่คุ้มค่าเลยสักนิด อีกอย่างฉันก็ไม่ได้มีเวลามาเล่นกับเธอหรอกนะ"
"แต่กูจะเล่น...น้องน้ำตาลลองปรับเปลี่ยนข้อเสนอให้น่าสนุกขึ้นมาหน่อยได้ไหมครับ เผื่อว่าจะน่าสนใจขึ้นมาหน่อย?....อย่างเช่น"
วินเซอร์ว่าต่อในขณะที่สายตาก็จ้องมองมาที่ขาอ่อนของฉันด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์
ใบหน้าสวยหวานจึงยิ้มร้ายขึ้นมา พร้อมกับสาวเท้าไปนั่งบนตักของวินเซอร์เอาดื้อๆ พาดเรียวแขนเข้าที่ลำคอแกร่ง ซบใบหน้าลงที่อกแกร่งอย่างออดอ้อนให้คริสเตียนเจ็บใจเล่นๆ
"ไม่เอาหล่ะค่ะ ไม่มีเวลามาเล่นก็ไม่เล่นมันแล้ว คืนนี้หนูจะเอนเตอร์เทนพี่วินเซอร์สุดหล่อคนเดียวก็พอนะคะ!"ว่าต่ออย่างฉอเลาะ เยาะเย้ยอีกคนที่นั่งจ้องเธอตาไม่กระพริบ
"อ๊ะ! ช่วยด้วย อุ้ปปป!!!"