[1] ชีวิตพลิกผัน
Hrrrrrrr!
"ฮัลโหลค่ะพี่เอเดน!"
ใบหน้าสวยหวานยิ้มร่าและกดรับสายพี่ชายที่แสนดีของเธอ ม่านมัสลินรักและเคารพเอเดนเสมือนพี่ชายแท้ๆที่คลานตามกันมา
"ตอนนี้น้องตาลทำอะไรอยู่คะ?"เสียงทุ้มจากปลายสายที่อยู่อีกซีกโลกเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
"กำลังจะแต่งตัวไปที่ผับค่ะ"ม่านมัสลินว่าในขณะที่กำลังใส่เครื่องประดับ ตรวจเช็คความเรียบร้อยของใบหน้าคร่าตาตัวเอง
"ราบรื่นหรือเปล่าคะ มีปัญหาอะไรรีบบอกพี่นะคะ!?"
"ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แล้วนี่คุณแม่ทำอะไรอยู่คะ สบายดีหรือเปล่า?"
เธอว่าอย่างรีบๆ ชำเลืองมองนาฬิกาจากนั้นสาวเท้าไปที่กระเป๋าสะพายใบโปรด
"คุณแม่สบายดี แต่ก็ยังไม่หายโกรธพี่เลย"
"อืม...งั้นเอาไว้ค่อยคุยกันนะคะ เดี๋ยวตาลจะช่วยคิดหาวิธีทำให้คุณแม่หายโกรธให้นะคะ บ๊ายบายค่ะ!"
"ค่ะน้องตาล ขอบคุณนะคะ น้องพี่น่ารักที่สุดเลย!"
เอเดนมาเฟียผู้มีอิทธิพลที่ไม่เคยพูดจาอ่อนหวานกับใครเลยยกเว้นกับครอบครัว เธออยากจะคุยด้วยแต่จำใจต้องตัดสายไปก่อนเพราะใกล้เวลาที่จะเข้าทำงานแล้ว
ม่านมัสลินลงลิฟท์มาถึงข้างล่างคอนโด เป็นคอนโดราคาขนาดกลางไม่หวือหวา เธอรีบเรียกรถแท็กซี่ เมื่อรถเข้ามาจอดเทียบท่าก็รีบเข้าไปนั่งด้วยความเร็วไว
@ย้อนกลับไปเมื่อ18ปีที่แล้ว
เด็กสาวอายุ7ขวบนั่งก้มหน้าก้มตาคุยเล่นกับตุ๊กตาตัวโปรดอยู่ที่ม้านั่งตัวยาว กำลังมีสมาธิขึ้นมาเชียว เป็นเด็กที่สดใสไม่ได้เศร้าหมองแต่อย่างใด มักจะเป็นตัวแทนในโอกาสต่างๆในการดำเนินกิจกรรม
ม่านมัสลินในวัยเด็กฉายแววอนาคตไกล หัวไวและฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างมาก หน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโต ผิวขาวอมชมพูนุ่มนิ่มแลดูสุขภาพดี หากใครได้พบเห็นเข้าแล้วก็ต้องเป็นอันตกหลุมรักเข้าจังๆและวันนี้ราวกับมีปาฏิหาริย์
หญิงวัยกลางคนผู้ดูแลบ้านเด็กกำพร้าอุ่นอารี สาวเท้าไวๆเข้ามาใกล้เด็กน้อยที่กำลังใจจดจ่ออยู่กับตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวโปรด น้ำตาล ม่านมัสลิน ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น คุณแม่สายใจท่านนี้เป็นคนตั้งให้ทั้งหมด
หญิงวัยกลางคนนั่งลงข้างเด็กน้อย จากนั้นส่งมือเข้าไปลูบที่ศรีษะเล็ก เรือนผมนุ่มลื่นไม่ได้สกปรกมอมแมมเหมือนเด็กคนอื่นๆ แถมกิริยามารยาทยังน่ารักไม่แพ้หน้าตาอีกด้วย
"น้ำตาลลูก วันนี้มีคนใจดีเขาอยากจะรับหนูไปเลี้ยง เขาใจดีมากและตามหาเด็กดีแบบหนูมานานมากแล้ว ไปอยู่กับเขาเถอะนะน้ำตาล"
"หนูไม่อยากไปค่ะแม่สายใจ"
เสียงเล็กเอ่ยตอบสั่นเครือให้อีกคนปวดใจด้วยความคิดถึง น้ำตาลเป็นเด็กดีและต้องมีใจหายเป็นธรรมดา ทว่าในโอกาสนี้ไม่มีเวลามานั่งคิดอะไรให้มาก ผู้อุปการะท่านนี้เป็นคุณหญิงคุณนายใจดีที่คอยช่วยเหลือบ้านเด็กกำพร้าหลังนี้มานมนาน
ต้องการมีลูกสาวสักคน ทว่ามีแต่ลูกชายทั้งนั้นและจวบจนเวลานี้ก็ไม่สามารถตั้งท้องได้อีก
"นี่จะเป็นโอกาสดีให้หนูมีชีวิตที่ดี เขามีสตางค์ส่งเสียเลี้ยงดูหนูจนจบปริญญา น้ำตาลยังเด็กอาจจะยังคิดไม่เป็น ถ้าหากหนูเรียนจบแล้วกลับมาเยี่ยมพวกเราที่นี่ วันนั้นน้ำตาลจะรู้ว่าตนเองมีความสามารถในด้านไหนที่จะช่วยเหลือน้องๆได้!"
"..."
"ไม่จำเป็นต้องเป็นทรัพย์สินเงินทอง แค่ความรู้แค่นั้นพวกเราก็พอใจแล้ว!"
"ฮึกค่ะ แม่สายใจ น้ำตาลจะไปอยู่กับเขาเพื่อน้องๆและเพื่อนๆ!"
"ดีมากจ่ะ ไปเตรียมตัวกันเถอะ อีก1หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่ต้องร้องไห้เสียใจนะน้ำตาล แม่สายใจเลือกสิ่งที่ดีให้กับหนูอย่างแน่นอน และขอให้หนูโชคดีจ่ะ!"
"ค่ะแม่สายใจ"
เวลาต่อมาเด็กสาวเก็บข้าวของที่เป็นเอกสารส่วนตัวเท่านั้น ส่วนเสื้อผ้าคนรวยเขาคงจะซื้อให้ใหม่ แม่สายใจบอกแบบนั้น เด็กสาวยืนยิ้มทั้งน้ำตาข้างๆแม่สายใจ
คอยแหงนมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนที่เลี้ยงตนเองมา ปฏิญาณกับตนเองว่าจะจดจำใบหน้าสวยๆของเธอคนนี้เอาไว้ คนที่เธอเรียกว่าแม่เป็นคนแรก...
รถตู้คันสีขาวหรูเข้ามาจอดเทียบท่า คุณหญิงคุณนายก้าวลงมาจากรถตู้ด้วยใบหน้าระรื่น ยังคงสระสวยไม่ได้มีอายุมากนัก มีเด็กชายที่เป็นบุตรเดินตามคุณหญิงมาติดๆ
"สวัสดีค่ะ!"
เด็กสาวประนมมือสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่โดยไม่ต้องเสียแรงบอกเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ใบหน้าของคุณหญิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"คนนี้น้องสาวของเอเดนใช่ไหมครับคุณแม่?"
เด็กชายที่เป็นลูกเดินเข้ามาดูหน้าเด็กสาวให้ชัด จากนั้นก็เข้าไปจับมือเด็กสาวขึ้นไปบนรถ
"ใช่จ่ะลูก เป็นไงน้องน่ารักไหม?"
"น้องของเอเดน งั้นรีบขึ้นรถเร็ว!"
ยื้อแย้งกันอยู่อย่างนั้น เด็กสาวยังไม่อยากขึ้นรถและจะกอดแม่สายใจก่อน ก่อนไป
"แม่สายใจหนูอยากกอดแม่สายใจก่อนไป!!!"
เด็กสาวน้ำตาคลอเบ้า ยิ่งเป็นที่น่าสลดใจให้กับทั้งคุณหญิงและแม่สายใจของเธอ
"อย่าเพิ่งครับลูก เอเดนปล่อยน้องก่อน!"
เด็กชายเอเดนยอมปล่อยแขนป้อมๆ ที่รอยแดงเป็นจ้ำๆด้วยความที่เด็กชายมือหนักไปหน่อย
เด็กสาวรีบวิ่งเข้าไปกอดผู้มีพระคุณ สายใจคุกเข่าลงกอดตอบและลูบแผ่นหลังเล็กปลอบใจ
"หนูจะกลับมาหานะคะ ลาก่อน!"
ฟอดดดด!!!
คุณแม่สายใจของเธอก้มลงหอมที่แก้มซาลาเปานุ่มๆนั้นเป็นครั้งสุดท้าย
"จ่ะ แม่รักหนูนะ รีบไปเถอะลูกเดี๋ยวคุณเขารอนาน!"
หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยอีกเลย ราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ ชีวิตพลิกผันอย่างน่าอิจฉา