ตอนที่ 2
ทิพย์ธัญญาพูดจบก็หายเข้าไปในห้องน้ำกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ออกมาแต่งตัวอย่างสวยงาม ก่อนจะเดินมาหาเขาที่เตียงกว้างก้มลงฝังริมฝีปากเคลือบลิปสติคอย่างดีลงที่ริมฝีปากได้รูปของเขาหนัก ๆ แล้วก้าวออกจากคอนโดหรูของเขาตรงไปยังแท็กซี่คันหนึ่ง
แล้วมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางของหล่อนท่ามกลางเสียงผ่อนลมหายใจของวีรภาพที่รู้สึกหนักอึ้งในหัวใจทุกครั้งที่ต้องยอมให้หล่อนก้าวจากไปซบอกของผู้ชายคนอื่น ซึ่งมีมากมายจนเขาจำหน้าแทบไม่ได้
จากวันนั้นดูเหมือนทิพย์ธัญญาจะหายเงียบไปนานกว่าสามอาทิตย์ทำให้วีรภาพต้องขับรถมาหาหล่อนที่บ้านเพราะโทรศัพท์ติดต่อเท่าไหร่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
“คุณวี..มาหาหนูทิพย์หรือคะ..ขอโทษด้วยนะคะ ไม่อยู่ค่ะ เพิ่งออกไปเมื่อตอนสิบโมงเช้านี่เอง..”
คุณอัมพกา ซึ่งเป็นน้าของทิพย์ธัญญารีบเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มดังเช่นเคย
“ทิพย์เปลี่ยนเบอร์มือถือหรือครับคุณน้า..”
“เอ..ไม่ทราบนะคะคุณวี เอาไว้น้าจะถามให้ก็แล้วกันนะคะ..”
เขานิ่งไปชั่วขณะพลางขบฟันแน่น น้าของหล่อนคงไม่โกหกเขา เพราะว่าคุณอัมพกาพึงพอใจและชื่นชอบเขามาก หล่อนต้องการได้เขามาเป็นหลานเขยจึงพยายามสนับสนุนและเปิดทางให้เขาทุกครั้งที่มาหาทิพย์ธัญญาจนทำให้เขาทั้งสองสนิทสนมกันมาจนถึงทุกวันนี้
“ไปที่บริษัทหรือเปล่าครับคุณน้า..”
“ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ น้าก็ไม่ได้ถามคุณพี่ว่าหนูทิพย์ไปที่บริษัทหรือเปล่า แต่ก็เห็นคุณพี่เปรย ๆ ว่าหมู่นี้หนูทิพย์เที่ยวเก่ง น้ายังนึกว่าไปกับคุณเสียอีก..”
คุณอัมพกาพูดพลางยิ้มน้อย ๆ เมื่อพิศมองเครื่องหน้าที่หล่อเหลาหมดจดดูคมคายของเขาอย่างชื่นชมและเอ็นดู
“อยู่ทานอาหารกลางวันกับน้าก่อนนะคะ..”
“ครับ..”
เขารับปากพร้อมกับเดินตามคุณอัมพกาไปนั่งคุยในห้องนั่งเล่นและอยู่ทานอาหารกลังวันกับหล่อนก่อนจะเดินตรงไปที่รถเก๋งคันหรูของเขาแล้วเลี้ยวออกจากบ้านของหล่อนไปด้วยความเร็วสม่ำเสมอ
“คุณจงใจหลบหน้าผมหรือเปล่านะทิพย์..”
เขาอดคิดถึงจุดนี้ไม่ได้เมื่อขับรถมาได้สักพัก
“คงไม่..ขออย่าให้เป็นเช่นนั้น..”
เขาถอนใจยาวก่อนจะเร่งความเร็วรถหมายจะไปที่ทำงานต่อ แต่ทว่าเมื่อขับมาได้สักพัก ก็ต้องชะลอความเร็วเมื่อรถติดไฟแดง สายตาคมตวัดมองผ่านไปยังศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งที่มีผู้คนมากมายต่างมาเดินหาจับจ่ายใช้สอยเลือกหาของที่ถูกใจ
“ทิพย์นี่ทิพย์มาเดินซื้อของแถวนี้ด้วยหรือ”
เขาคิดในใจก่อนจะรีบตบไฟเลี้ยวเข้าไปยังลานจอดรถแล้วกดเบอร์โทรของหล่อนหากแต่กลับไม่มีเสียงสัญญาณตอบรับเขาจึงวิ่งกลับมายังที่ที่เขาเห็นหล่อน
“หายไปไหนนะ”
เขาเหลียวมองไปรอบตัวแต่แล้วก็ต้องรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่อเขามองเห็นผู้หญิงที่เขาคิดว่าต้องเป็นทิพย์ธัญญากำลังหิ้วถุงมากมายเดินตรงไปที่ถนน คงจะกำลังรอรถแท็กซี่สักคัน
“ทิพย์”
วีรภาพเดินแกมวิ่งตรงไปยังร่างบางระหงในชุดเสื้อเนื้อดีสีขาวแขนยาวกับกางเกงผ้าขายาวสีครีมนวล
แต่ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปถึงร่างของเธอ ทำให้เธอเผลอจ้องมองเขาด้วยหัวใจที่สั่นระรัวอย่างไม่เคยเป็น เธอมองเห็นแววตาที่เขาจ้องมองมาฉายแววยินดีอย่างเห็นได้ชัด
“ทิพย์คุณหายไปไหนครับ”
“เอ่อ..คือว่า..”
พิมพ์พิศา พยายามจะอธิบายว่าเธอคือใคร แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรสักคำ
เขาก็รวบมือบางของเธอจับจูงให้ตรงไปยังรถของเขาพร้อมกับรวบถุงสัมภาระที่เธอหาซื้อมาไปถือไว้ก่อนจะนำไปวางไว้ในเบาะหลังแล้วเปิดประตูดันร่างของเธอเข้าไปนั่งเคียงข้างเขาก่อนจะขับรถออกมาจากที่นั่นด้วยความเร็วสูง
“คุณคะ..”
เธอหันไปหาเขามองเครื่องหน้าด้านข้างที่คมชัดของเขาด้วยหัวใจที่สั่นไหว เธอมั่นใจว่าเขาจะต้องคุ้นเคยกับพี่สาวฝาแฝดของเธอเป็นอย่างดีไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกชื่อเล่นของหล่อนได้ถูกต้องและยังสามารถเข้าถึงเนื้อตัวโดยไม่ต้องขออนุญาตแบบนี้
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นนะครับทิพย์ ผมจะเปิดโอกาสให้คุณพูดเมื่อถึงที่หมาย..”
“แล้วคุณจะพาฉันไปไหนคะ..”
เขาเหยียบเบรกแทบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ก่อนจะหันหน้ามามองจ้องเครื่องหน้าที่เนียนสะอาด มองพวงแก้มที่อิ่มระย้าของเธอนิ่ง ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก