ตอนที่7 พร้อมค่ะ ☺️
พอพี่เป้เข้าไปก็โทรเข้ามาหาฉันและฉันก็กดรับสายเอาไว้ ฉันคิดว่าเขาก็คงห่วงฉันแหละ เเต่ก็ห่วงเล่นด้วย ในระหว่างที่ฉันกำลังเคลิ้มหลับ ก็ดันมีแสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งที่เคลื่อนเข้ามาช้าๆก่อนจะจอดสนิท ก็คงจะเป็นรถพวกที่มาเล่นพนันกันตอนกลางคืนน่ะแหละ ฉันคิดในใจกับตัวเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนเพลง เชื่อไหมว่าในภาพพักหน้าจอของฉันนั้นตั้งรูปของพี่ไทเกอร์ไว้อย่างกับดาราในดวงใจ แต่ในระหว่างสายตาฉันไปโฟกัสที่ชายคนที่ลงมาจากรถ นั่นมันชั่งคุ้นตาเหลือเกิน จากที่ง่วงๆ กลับต้องขยี้ตาอีกครั้งจนตาสว่าง
“พี่ไทเกอร์” ฉันมองชายคนนั้นที่คิดว่าเป็นพี่ไทเกอร์นั้นเดินเข้าไปในตึกจนสุดสายตา ฉันว่ายังไงก็ต้องใช่เขาแน่ๆ ถึงมันจะมืดก็เถอะ ฉันว่าต้องจำไม่ผิดหรอก
“นี่พี่เกอร์เล่นพนันด้วยหรือนี่” ฉันคิดไปต่างๆนาๆ จนกึ่งหลับกึ่งตื่นด้วยความกังวลใจและหลับไม่สนิท เวลาผ่านไปไม่นานชายคนนั้นก็เดินออกมา ครั้งนี้ชัดเลย ว่าเป็นพี่ไทเกอร์แน่นอนแล้ว เขากำลังมุ่งหน้ามายังรถของเขา ฉันไม่รอช้ารีบลงไปถามไถ่เขาทันทีเพราะความสงสัย แต่ก็ไม่ลืมจะเอาโทรศัพท์ไว้ในรถนะ เพราะกลัวพี่เป้จะได้ยินในสาย ฉันรีบลงเเละลงปิดประตูให้เงียบที่สุด
“พี่เกอร์”
“เฮ้ยหญ้า มานี่ได้ยังไงอ่ะ” พี่ไทเกอร์ดูตกใจไม่น้อยที่เห็นฉัน
“ก็มาเหมือนพี่นั่นแหละ พี่มาทำอะไรอ่ะ”ฉันออกอุบายหลอกถามเขาไป เพราะความอยากคุยด้วยกับเขา
“ห๊ะ... มาทำเหมือนพี่ที่นี่เนี่ยนะ” พี่ไทเกอร์ดูงงไปใหญ่เลย เอ๊ะหรือฉันโกหกไม่เนียน
“อ่ะ อ่าา” ฉันคิดคำตอบไม่ทันและยังไม่ได้ตอบอะไรเขาไปมากมาย
“ถามเราดีกว่า เรามาทำอะไรในที่แบบนี้เนี่ย แถมมาอยู่คนเดียวมืดๆอีกรู้ไหมที่นี่มันอันตราย ผู้ชายก็เยอะพวกกินเหล้าเมายามาเจออยู่คนเดียวดึกๆดื่นๆแบบนี้มันจะทำยังไง” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินพี่ไทเกอร์พูดเยอะขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเจตนาอะไรหรอกนะแต่ฉันนั้นยิ้มจนแก้มแทบแตกไปเเล้ว
“เป็นห่วงหนูหรอคะ” ฉันถามพี่เขากลับพร้อมกับสายตาที่หวานย้อย
“อืม พี่ก็ห่วงแหละ แต่เราบอกพี่มาเลยนะว่ามาทำอะไรที่นี่” พี่ไทเกอร์ตอบด้วยน้ำเสียงค่อยๆ แถมยังหลบสายตาของฉันก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“เอ่อ คือว่า หญ้ามาเป็นเพื่อนพี่น่ะ พี่เขามาเล่น..ที่นี่ หญ้าไม่ชอบข้างในเลยขอออกมารอข้างนอก”
“แล้วมาบ่อยไหม ทำไมไม่เคยเห็น”
“พี่ถามแบบนี้เเสดงว่าพี่มาบ่อย”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องน่ะ พี่ถามก็ตอบให้หมดสิ”อารมณ์คุณชายนั้นชั่งแปรปรวนจริงๆ ฉันล่ะตามไม่ทันอยู่ๆก็ดีอยู่ๆก็ดุ เดี๋ยวหญ้าจะจับทำผัวซะเลยฉันได้แต่คิดในใจตัวเอง
“ไม่เคยมาค่ะเพิ่งมาครั้งแรก”
“ทีหลังไม่ต้องมาแล้วนะ”
“ค่ะงั้นหญ้าไปชวนพี่กลับก่อนนะ” ฉันตัดบทง่ายๆก่อนจะเดินไปข้างหน้า
“เดี๋ยวสิ” ฉันอมยิ้มและหันกลับมาด้วยสีหน้าปกติ
“มีไรคะ”
“คนเล่นอยู่อ่ะ ไม่ต้องไปชวนเขาหรอกบางทีอาจจะขัดโชคขัดลาภเขา งั้นก็รอที่รถนี่แหละ” โถ่ฉันก็นึกว่าอะไร ฉันนึกอะไรบางอย่างออกแล้ว
“ค่ะ” ฉันเดินกลับมาอย่างว่าง่ายและเดินออกไปยังโต๊ะนั่งมืดๆ พี่ไทเกอร์ไม่ทันเห็นฉันตอนมาหรอกว่าฉันมารถคันไหน
“หญ้า หนูเป็นอะไรเนี่ย ทำไมมานั่งตรงนี้มันมืดนะ” เอาแล้วสิ มารยาหญิงนี่มันใช้ได้จริงๆ คำว่าหนูก็มา
“ก็หญ้าไม่มีกุญแจอ่ะ เลยเดินเล่นไปมาแถวนี้ ยุงก็กัดแย่ละเนี่ยโอ๊ย” ฉันทำท่าปัดยุงไปมา พี่เกอร์ก็มองฉันด้วยหน้านิ่งๆกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
“งั้นไปกับพี่” เห้ยจริงหรอนี่ นี่พี่เกอร์ชวนฉันไป...ตอนนี้เลยหรอมันเร็วไปไหม แต่ก็เหอะโอกาสมีแล้วฉันจะไม่รอช้า ฉันคิดแต่เรื่องแบบนี้ได้ยังไงกันนะเห้อ
“ไปค่ะ” พี่เกอร์มองหน้าฉันพร้อมกับส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินมาที่รถฉันก็เดินตามอย่างว่าง่าย เขาเปิดประตูรถเก๋งคันหรูเข้าไปนั่งที่ฝั่งคนขับ ก่อนจะลดกระจกลงเรียกฉัน
“ขึ้นมาสิ” ฉันนั้นยืนคิดตัดสินใจอีกครั้ง ถ้าเป็นคนอื่นฉันจะขัดขืนแต่นี่พี่ไทเกอร์เชียวนะ ฉันอุตส่าห์รักของฉันมาคนเดียวตั้งหลายปี ครั้งนี่แหละอืม เอาก็เอาวะ
“พร้อมค่ะ” ฉันเปิดประตูเข้ามานั่งข้างคนขับเข้ามานั่ง
“พร้อมอะไรกัน” พี่เกอร์หันมามองหน้าฉันอีกครั้ง แล้วฉันจะตอบเขาไปตรงๆได้อย่างไรเพราะความคิดของฉันนั้นมันบัดสีเหลือเกิน!
“ก็พร้อมไง....”
“อืม พร้อมก็พร้อม” ฉันนั้นยิ้มแทบไม่หุบอะไรจะเขินขนาดนี้ นี่ขนาดเขาไม่ค่อยได้พูดนะเนี่ย ใจหนึ่งก็ยังกังวลๆเล็กน้อยเพราะนี่จะเป็นครั้งแรก!
“อ่ะนี่” พี่ไทเกอร์นั้นยื่นผ้าห่มมาให้ฉันภาพคุ้นๆเหมือนตอนที่พี่เป้ทำให้ฉันเลย !!
“ห้ะ ผ้าห่ม”
“ใช่ ปรับเบาะเองนะ นอนรอในรถพี่ไปก่อน” ความคิดของฉันนั้นตรงกันข้ามกับพี่ไทเกอร์โดยสิ้นเชิง เขานั้นไม่ได้คิดจะทำอะไรฉันเลย ได้แต่คิดทบทวนและขำในใจฉันเองแหละที่เข้าใจไปเรื่องแบบนั้นเอง โล่งใจไปทีอย่างน้อยฉันก็ยังไม่ทันได้เสียตัวอย่างกระทันหันเห้อ...!!
“ค่ะ” ฉันรับผ้าห่มมาจากมือเขาและปรับเบาะเอนลง และพลิกตัวหันหลังให้เขาเชิงนอนตะแคง คิดไรไปเรื่อยเปื่อย สูดดมกลิ่นน้ำหอมอ่อนในรถพี่ไทเกอร์จนหลงเขาแล้วหลงอีก
“หญ้า”ภายในรถบรรยากาศเงียบสงัดมีแค่เสียงห้องเครื่องของรถที่ติดอยู่เท่านั้น มันเงียบจนได้ยินเสียงหายใจของเขา ลมแอร์ก็ตีกลิ่นน้ำหอม กลิ่นบุหรี่จากตัวเขาจนใจของฉันนั้นอยากจะดึงเขามาหอมสักทีให้รู้แล้วรู้รอดไป
“ว่าไงคะ” ฉันตอบแต่ไม่ได้หันไปมองเขาหรอกนะ เพราะกลัวใจตัวเองจริงๆ
“เราชอบพี่จริงๆหรอ” ฉันได้ยินคำนี้หูฉันผึ่งหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ถึงฉันจะแซวและจีบเขาอยู่ฝ่ายเดียวแต่ได้ยินแบบนี้แน่นอนฉันเขินขึ้นมาเองจริงๆ
“ก็ชอบนะ”
“ชอบพี่ตรงไหนอ่ะ”
“พี่ไม่ได้ชอบหญ้าอย่ามาถามเลย”
“แล้วรู้ได้ไง ก็ตอบพี่มาก่อนสิ”
“ค่ะ คืออะไรรู้ได้ยังไง”
“เปล่า ตอบพี่มาสิว่าชอบพี่ตรงไหน”ในเมื่อฉันเป็นคนที่ตรงๆแบบนี้ฉันจึงไม่รอช้าก่อนจะตอบคำถามไปแบบไม่อ้อมค้อม
“ชอบที่พี่หล่อ และเท่ ชอบหมดทั้งคิ้ว ปาก จมูก ผม หน้า ขา แขน ดวงตาของพี่ เล่นกีฬาก็เก่งดนตรีก็ได้” ฉันไม่ใช่เพียงแต่พูดนะ มือของฉันนั้นจับและสัมผัสไปในทุกๆส่วนที่ฉันพูดออกมาจนพี่ไทเกอร์นั้นมองหน้าฉันเหวอไปเลย
“แล้วพี่เป็นสเป็คของผู้หญิงคนอื่นอีกบ้างไหม”
“อืม” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป เพราะสเป็คของผู้หญิงคนอื่นที่เขาอยากให้เป็นนั้นคงไม่ใช่ฉัน ฉันดึงตัวเองออกจากภวังค์ตรงนั้นก่อนมันจะรู้สึกแย่ไปกว่านี้ ทั้งที่รู้ตัวอยู่เสมอว่าฉันนั้นไม่คู่ควรกับเขาสักนิดเลย แต่พอมาเจอคำพูดเข้าจริงกลับรับไม่ได้
“ขอบคุณนะ”
“ค่ะ หญ้าไปแล้วนะขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนหนูนะ” สายตาฉันนั้นเหลือบไปเห็นพี่เป้กำลังเดินออกมาพอดี ฉันเลยตัดบทไป
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“คะ มีอะไรหรือเปล่า” ฉันหันมามองหน้าเขาและเผลอไปมองสบตาอีกครั้ง
“อย่ามาที่นี่บ่อยนะมันไม่ดีพี่เป็นห่วง” ฉันยิ้มตอบและเดินออกมา นี่ฉันน้อยใจเขาเฉยเลยบ้าไปแล้ว และไม่รีรอรีบสาวเท้าเดินขึ้นรถและเข้าที่ก่อนพี่เป้จะมาถึง เขามองไม่เห็นฉันหรอกเพราะมันมืด
“หญ้าหลับหรือเปล่า” เขาเคาะกระจกเรียกฉันอยู่ข้างๆ
“หาววว” ฉันทำท่าหาวก่อนจะโบกมือและปลดล็อคให้พี่เป้ขึ้นมาขับ
“อื้ม ดึกมากเลยเดี๋ยวพี่รีบไปส่งนะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
“อืม จ้ะ” จากนั้นพี่เป้ก็ขับรถมาส่งฉันถึงหน้าบ้านพอเข้าห้องภาพฉันก็ตัดไปสภาพแบบนั้นน้ำท่าก็ไม่ได้อาบ