๙ จุดสำคัญ (๑)
๙
จุดสำคัญ
รถคันหรูขับเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้เปิดไฟไว้เพียงหน้าบ้านเท่านั้น ภายในตัวบ้านถูกปิดไว้แต่ไม่ได้ลงกลอน ชนวีร์ลงจากรถไปประเปิดประตูให้หญิงสาวที่ตอนนี้หลับอยู่ในรถด้วยความเพลีย ร่างบางถูกเขาอุ้มขึ้นเพราะไม่อยากจะรบกวน
“ตายแล้วคุณวีร์นั่นใครเป็นอะไรคะ” แม่บ้านที่นั่งรอเจ้านายเดินออกมาจากห้องพักหลังบ้านเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดและเสียงรถ “ตายแล้ว! นี่มันคุณขวัญนี่คะ” เมื่อมองดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นจอมขวัญเพื่อนสนิทของคุณหนูทรายทิพย์ที่ลาจากโลกนี้ไปแล้วนั่นเอง
ชนวีร์ไม่พูดอะไรมากเขาหันมาสั่งให้แม่บ้านเตรียมน้ำใส่กะละมังเล็กและผ้าขนหนูขนาดเล็กเพื่อไปเช็ดตัวให้เธอ ซึ่งคุณแม่บ้านคนเก่าแก่ก็รีบทำตาม
เมื่อมาถึงชั้นสองของบ้านชนวีร์ก็พาร่างบางไปนอนยังห้องของตัวเอง ไม่นานนักคุณแม่บ้านคนเก่าแก่ก็ตามขึ้นมา ชนวีร์จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหล่อนในการดูแลเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวเพราะว่าถ้าเป็นเขาคงไม่ควรเท่าไหร่นัก
“พี่วีร์ พี่ขวัญเป็นอย่างไรบ้างคะ” บุษบามินตรามาถึงบ้านพร้อมกับพีรยศก็ถามถึงพี่สาวคนสนิททันที ชนวีร์เลยบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรแล้วตอนนี้ป้าหอมจันทร์ก็กำลังดูแลอยู่ น้องสาวคนสวยจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วขอขึ้นไปดูพี่สาวเสียหน่อย
ลับหลังร่างเล็กสองหนุ่มก็เดินไปนั่งกันที่ห้องรับแขกเพราะต้องการรู้เรื่องคนร้าย
“ฉันเดินลงมากะจะเอาของไปให้น้องมินแต่พอดีเจอคนร้ายมันกำลังจะพาคุณขวัญขึ้นรถ” พีรยศเล่าเหตุการณ์ที่เขาไปเห็นให้เพื่อนฟัง
“แล้วไงต่อ”
“มันเอามีดจ่อคอคุณขวัญตอนแรกฉันก็ว่าจะเจรจาแต่พอมันได้ยินเสียงยามก็ปล่อยตัวคุณขวัญแล้วรีบหนีไป” เล่าจบสองหนุ่มก็เงียบไป
ชนวีร์นิ่งไปอย่างใช้ความคิดส่วนพีรยศคิดว่ามันแปลกมาก สำหรับเขาแล้วถ้าลักพาตัวมาถึงขนาดนี้มันสามารถพาหญิงสาวขึ้นรถได้ด้วยซ้ำเพราะอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงรถแล้ว แต่เหมือนมันเป็นโจรหัดใหม่ที่ยังไม่รู้เรื่องและตัดสินใจยังไม่เด็ดขาด มันดูลังเลและกลัว เหมือนกลัวกับการทำผิดอย่างนั้น
“ฉันจะส่งเรื่องนี้ให้ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดเพราะดูแล้วฉันว่ามันอาจจะต้องการชีวิตของจอมขวัญมากกว่าเรื่องอื่นแล้วละ”
..เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับจอมขวัญ จะว่าเขาห่วงก็ใช่แต่ที่ห่วงก็เพราะไม่ได้แก้แค้นเธอต่างหาก ไม่ใช่ว่าพิศวาส
ชนวีร์คิดแก้ตัวในใจ
“พี่วีร์คะ มินว่าสัปดาห์นี้ให้พี่ขวัญนอนบ้านเราดีไหมคะ” ขึ้นไปดูแล้วก็อดห่วงพี่สาวคนสวยไม่ได้เธอจึงลงมาตกลงกับชนวีร์ซึ่งเขาก็คิดเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว
“พี่ว่าก็ดีนะ ให้ขวัญนอนห้องเราแล้วกันจะได้ช่วยกันดูแล”
เมื่อตกลงกันได้แล้วพีรยศจึงขอตัวกลับ
“มินไปส่งไอ้พีร์หน่อย” ครั้งแรกพีรยศก็ขอให้สาวน้อยไปส่งแล้วแต่เธอก็อิดออดจนพี่ชายต้องช่วยพูดให้อีกแรง บุษบามินตราจึงลุกขึ้นเดินไปส่งชนวีร์ที่หน้าบ้าน
“ขับรถกลับบ้านดีๆ นะคะ”
“ครับผม เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปหาอีกนะ” เธอทำได้แค่ยิ้มก่อนจะโบกมือลาเขาเท่านั้น
เมื่อรถวิ่งออกจากบ้านหลังใหญ่ไป ร่างบางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เข้ามาภายในบ้าน สองพี่น้องก็เข้าห้องนอนโดยที่ป้าหอมจันทร์เป็นคนปิดประตูจนเรียบร้อยแต่เธอไม่ได้สังเกตว่าหน้าต่างห้องครัวนั้นไม่ได้ถูกล็อกและเพราะความมืดจึงมองไม่เห็นคนใส่ชุดดำที่เคลื่อนตัวเข้ามาภายในบ้านด้วยความเงียบ มันตรงขึ้นไปห้องด้านบนทันทีและหลบเมื่อเห็นชนวีร์เดินออกมาจากห้องของสองสาว มันแสยะยิ้มรอเวลาเกือบชั่วโมงที่มันมองบริเวณโดยรอบที่ไฟเริ่มหรี่ลง
ชายชุดดำเดินมายังประตูที่ถูกล็อกอย่างแน่นหนา มันหยิบกุญแจที่ไปขโมยมาจากห้องของแม่บ้านขึ้นมาแล้วไขเข้าไป เมื่อเข้ามาภายในห้องนอนขนาดใหญ่มันก็มองไปที่เตียงขนาดคิงไซ้ซ์เห็นหนึ่งสาวสวยนอนหลับอยู่ มันยิ้มร้ายออกมาก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เธอมากยิ่งขึ้นจนมาหยุดอยู่ข้างเตียงที่มีคนนอนหลับพริ้มอยู่ราวกับอยู่ในห้วงแห่งสวรรค์
“แล้วเจอกันในนรก” พูดจบมันก็คว้ามีดขึ้นเหนือศีรษะเตรียมที่จะแทงเธอแต่แล้วดวงตากลมโตกลับเบิกกว้างขึ้นเห็นเงาจากมีดเธอรีบกรีดร้องทันทีอย่างตกใจพร้อมกับเขยิบหนีจนคนร้ายที่คิดว่าเธอหลับรีบหาทางหนี มันมองไปยังประตูระเบียงแล้วเปิดออกไปพอดีกับที่บุษบามินตราออกมาจากห้องน้ำ
“พี่ขวัญ! เกิดอะไรขึ้นคะ”
“มีอะไร เกิดอะไรขึ้น!” ชนวีร์เปิดประตูเข้ามาก็ชะงักเพราะล่าสุดที่เขาออกไปก็จำได้ว่าตนล็อกประตูให้สองสาวแล้ว จอมขวัญกอดบุษบามินตราไว้แน่นจนคนเป็นน้องต้องกอดตอบแล้วลูบหัวพี่สาวให้ใจเย็น
“พี่ขวัญใจเย็นนะคะ เกิดอะไรขึ้นค่อยๆ เล่าให้มินกับพี่วีร์ฟังนะคะ” ชนวีร์เดินมาหาเธอก่อนที่จะนั่งลงข้างกายของหญิงสาวที่กอดน้องเขาแน่น
จอมขวัญผละออกมาใบหน้าหวานเต็มไปด้วยน้ำตา ดีที่ก่อนหน้าบุษบามินตราลบเครื่องสำอางให้แล้วไม่อย่างนั้นน้ำตาที่ไหลลงมาคงเป็นสีดำเป็นแน่
“เมื่อกี้ มีคนเข้ามา มันจะแทง ฮือ” ยังเล่าไม่จบเธอก็ร้องไห้ออกมาจนไม่สามารถเล่าต่อได้อีก
ชนวีร์เห็นก็รีบคว้าร่างบางมากอดไว้ด้วยความสงสาร
“ไม่เป็นไรนะ เธอปลอดภัยแล้ว ปลอดภัยแล้ว” เขาลูบหัวเธอแผ่วเบาเนิ่นนานโดยมีสายตาของน้องสาวมองอยู่
“มินเดี๋ยวคืนนี้พี่นอนเป็นเพื่อนแล้วกันนะ” บุษบามินตราพยักหน้าเห็นด้วย
ชนวีร์นั่งปลอบจนจอมขวัญหลับลงอีกครั้ง น้องสาวของเขาก็นอนลงข้างเธอส่วนร่างสูงเองก็เดินไปนอนที่โซฟาพร้อมกับผ้าห่มที่มีสำรองในห้องของบุษบามินตรา
..หวังว่าคืนนี้มันคงไม่ย้อนมาอีกหรอกนะเพราะไม่อย่างนั้นมันจะไม่ได้ออกไปแบบมีลมหายใจแน่นอน
เพราะเหตุการณ์ที่น่ากลัวเกิดขึ้นกับจอมขวัญแม้กระทั่งในบ้านของเขา ชายหนุ่มจึงให้เธอมาพักที่ห้องของเขาโดยมีระบบล็อกห้องอัตโนมัติต้องใส่รหัสผ่านก่อนถึงจะเข้ามาได้ ทางตำรวจที่เขาได้ไปแจ้งความไว้ก็เร่งดำเนินการแต่ก็ยังไม่พบตัวคนร้ายอยู่ดี ทำให้ทุกวันนี้เธอยังนึกกลัวอยู่ตลอดเวลาว่ามันจะมาหาเธอเมื่อไหร่
นี่ก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้วที่จอมขวัญไปทำงานพร้อมชนวีร์และกลับมาพร้อมเขา พนักงานในบริษัทต่างพากันลือว่าเธอกับท่านประธานเป็นแฟนกันแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากทั้งสองฝ่าย
“เที่ยงนี้มากินข้าวกับพี่นะ” อยู่ในลิฟต์กันสองคนชนวีร์จึงเอ่ยชวนในขณะที่ยังโอบเอวบางไว้หลวมๆ
“ได้ค่ะ”
เมื่อถึงชั้นทำงานของจอมขวัญเธอก็เดินออกไปไม่วายโบกมือลาเขาด้วยก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด ร่างบางหันหลังยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะชะงักเมื่อเจอปนิธิเดินสวนไปเหมือนกับไม่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้น อันที่จริงก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้มาสองสัปดาห์แล้วที่รุ่นพี่คนสนิทของเธอไม่พูดคุยกับเธอเลย เขานิ่ง เคร่งขรึม พูดกับเธอก็มีแต่เรื่องงาน พักนี้บรรยากาศของแผนกเลยมาคุแปลกๆ
“พี่ๆ สวัสดีค่ะ” เข้ามาภายในเธอก็กล่าวทักทายพี่ร่วมงานทันที
สาวๆ พูดคุยกันสักพักแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานในหน้าที่ของตัวเอง จวบจนเที่ยงตรงต่างพากันเดินไปกินข้าวแต่จอมขวัญขอแยกตัวออกมา สองสาวขาเม้าธ์จึงมิวายแซ็วรุ่นน้องให้ได้อายเล่นๆ
จอมขวัญเดินมารอลิฟต์
“ตายแล้ววววว ผู้หญิงบางคนนะเธอ หวังรวยทางลัด ใช้เต้าไต่ไปหาความสำเร็จ โอ๊ยยยหน้าไม่อายเลยเนอะ” วาจาเชือดเฉือนพร้อมกับสีหน้าเยาะเย้ยหันมาทางจอมขวัญ ณัฐนิตาเดินมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงานสองคน
“อุ๊ยตายแล้วขวัญ ไม่เจอเสียนานเลย นิต้าคิดถึ๊งคิดถึง นี่ขนาดอยู่บริษัทเดียวกันนะเนี่ย สงสัยว่าขวัญคงไปแต่ชั้นผู้บริหารใช่ไหมพวกเราเลยไม่เห็นจริงไหมเธอ”
“ใช่” สองเสียงตอบรับอย่างพร้อมเพรียงแล้วหัวเราะด้วยกัน
จอมขวัญยืนกัดปากนิ่งไม่โต้ตอบ เธอพยายามข่มใจให้เย็น ถ้ายิ่งพูดมากก็จะมากเรื่องไปเสียเปล่า
“แล้วนี่จะไปไหนจ๊ะ ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอ”
“ตายแล้วนิต้า ไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร ขวัญเขาก็ต้องไปดินข้าวกับคุณชนวีร์สิ ก็เขาเป็นคู่ขา เอ๊ย คนรู้ใจกันนี่นา” ชลธิชาเอ่ยเสริม
“จริงด้วยๆ นิต้าลืมไปเลย ขอบใจมากนะที่บอกเพื่อนรัก” ณัฐนิตาหันไปยิ้มให้เพื่อน
“พวกเธอควรรีบไปกินข้าวดีกว่านะ เดี๋ยวข้าวจะหมดเอา หรือบางทีอาจจะปากแตกจนกินข้าวไม่ได้” พูดจบจอมขวัญที่ไม่เคยพูดจาว่าใครก็เดินขึ้นลิฟต์ไปเมื่อเห็นว่าลิฟต์เปิดแล้ว จนสามคนที่เหลือมองกันอย่างอึ้งๆ
“นี่ นี่เธอกล้าแช่งฉันเหรอ!” ประตูลิฟต์ปิดณัฐนิตาก็ฟึดฟัดด้วยความโกรธ
“หึ! ฉันจะรอให้คุณวีร์เขี่ยแกทิ้งนังจอมขวัญ!” อาฆาตจบเธอก็เดินนำเพื่อไปยังแคนทีนทันที
ส่วนจอมขวัญที่เข้าลิฟต์มาได้ก็ถอนหายใจด้วยความหนักใจ ข่าวเธอกับชนวีร์แพร่ไปทั่วบริษัทและส่วนมากก็เป็นข่าวที่เธอเสียหายบ้างก็ว่าเธอไต่เต้าไปหาชนวีร์ บ้างก็ว่าขายตัวให้เขา บ้างก็ว่าหวังจะเป็นคุณนาย คำนินทาของทุกคนบั่นทอนจิตใจของเธอ แต่ก็ยังดีที่ชนวีร์ทำให้เธอมีความสุขเวลาอยู่กับเขาทำให้คำนินทาต่างๆ มลายหายไปจากใจของเธอ
“สวัสดีค่ะคุณวิไล ขวัญมาหาคุณวีร์ค่ะ”
“เชิญเลยค่ะ รอรับประทานอาหารอยู่พอดี”
จอมขวัญยิ้มรับก่อนจะเปิดประตูเข้าไปภายในก็เจอชนวีร์นั่งเปิดไอแพดเล่นระหว่างที่รอเธออยู่
“ทำอะไรอยู่คะ” เขาเงยหน้าขึ้นมาจากจอสี่เหลี่ยมแล้ววางมันลงเมื่อร่างบางเดินมานั่งข้างๆ
“พอดีพี่ดูหุ้นอยู่น่ะ กินข้าวกันเลยดีกว่าตอนบ่ายพี่จะออกไปข้างนอก”
“จริงหรือคะ แล้วทำไมพี่วีร์ไม่กินก่อนขวัญล่ะคะ มารอทำไม เสียเวลาแย่เลย” ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วเอามือข้างหนึ่งจับมือจอมขวัญส่วนอีกข้างก็จับแก้มนิ่ม
“ไม่หรอก สำหรับขวัญนานแค่ไหนพี่ก็รอได้” ว่าจบใบหน้าคมก็เลื่อนเข้าไปหาใบหน้าหวานทันที เขาจูบเธออย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความหวานด้วยการส่งลิ้นเข้าไปชิมความหวานภายในแล้วเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นเรียวที่พยายามเกี่ยวตอบอย่างไม่ประสา ทั้งสองจูบกันจนจอมขวัญแทบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมปล่อย
“ไม่ให้ขวัญหายใจเลย”
“ฮ่าๆ ทีหลังไปฝึกหายใจให้ดีสิครับ” สายตาหวานเยิ้มนั้นทำให้เธอมือไม้อ่อน ใบหน้าหวานก็ขึ้นสีแดงเรื่อ
“ไหนว่าจะรีบไปทำงานไงคะ รีบกินเถอะค่ะ”