บท
ตั้งค่า

๙ จุดสำคัญ (๒)

อาหารตามสั่งง่ายๆ ที่จอมขวัญพาเขากินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนเขาติดใจให้เลขาไปสั่งมาให้เขาและเธอวางใส่จานอยู่ตรงหน้า

ทั้งสองกินข้าวด้วยกันจนเสร็จจึงแยกย้ายไปทำงาน ชนวีร์บอกตอนเย็นจะกลับมารับเธอเพราะว่าต้องพาไปที่หนึ่ง จอมขวัญคะยั้นคะยอให้เขาบอกแต่อีกฝ่ายก็ปิดปากเงียบ เธอเลยแกล้งงอนซึ่งก็ได้ผลเพราะชนวีร์ยอมบอกว่าจะพาไปดินเนอร์ตอนเย็นให้รอเขา เดี๋ยวเขาจะโทรหาซึ่งเธอก็พยักหน้าตอบตกลง

ชนวีร์เดินมายังรถของตนที่ให้คนขับรถไปขับออกมารอที่หน้าบริษัทใบหน้าหล่อนิ่งขรึมเมื่อขึ้นมาบนรถ เขาคิดว่ามันผ่านเวลามามากพอสมควรแล้วแผนของเขาควรจะถึงจุดจบแล้วเพราะเธอก็หลงเขาเรียกได้ว่าหัวปักหัวปำแล้ว เหลือขั้นสุดท้ายคือการที่ให้เธอบอกรักเขา

ใช่..มันจะเป็นจุดจบของเรื่อง บอกรัก จบบนเตียง พรุ่งนี้เช้าก็เหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน เธอก็จะอับอายและก็ยิ่งเสียใจไปอีกเมื่อเขาเปิดตัวแฟนของตัวเอง

เขาคิดไว้แค่นั้น คิดไว้เพื่อความสะใจของตัวเองล้วนๆ โดยไม่ได้ล่วงรู้เลยว่ามันจะกลายเป็นหนามแหลมมาทิ่มอกเขาในอนาคต

“ครับน้ำ ผมออกไปแล้ว รู้แล้ว ไว้เจอกันครับ” วางโทรศัพท์ได้เขาก็หันไปสั่งคนขับให้ออกรถพร้อมบอกที่หมายนั่นก็คือสนามบินสุวรรณภูมิ

ใช่..เขาจะไปรับแฟนของเขานั่นเอง

“เกมมันใกล้จบแล้ว จอมขวัญ”

ถึงเวลาเลิกงานจอมขวัญก็โทรหาชนวีร์ ชายหนุ่มบอกเธอว่าตอนนี้เขาอยู่ข้างล่างแล้วให้ลงมาได้เลย ร่างบางเลยรีบเร่งฝีเท้าลงไปเพราะไม่อยากให้เขารอนาน ด้วยเป็นเวลาเลิกทำให้ภายในลิฟต์เต็มจนหายใจแทบไม่ออก คนเบียดและแออัดกันกว่าจะฝ่าออกมาได้เธอก็แทบเป็นลม ปกติจอมขวัญจะรอให้คนน้อยกว่านี้จึงจะกลับบ้าน

“รอนานไหมคะ” เดินออกมาก็เห็นเข้านั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ไม่นานเท่าไหร่ เราไปกันเลยดีกว่า” ว่าจบร่างสูงก็จูงมือเธอเดินออกไปจากบริษัทโดยมีสายตานับสิบคู่มองอยู่ด้วยความสงสัยใคร่รู้

“ดูสิ ทำเสน่ห์ใส่คุณวีร์แน่เลย ติดกันขนาดนั้น” ประชาสัมพันธ์สาวเอ่ยกับเพื่อนร่วมงานในขณะที่กำลังเก็บของจะกลับบ้านและเห็นเหตุการณ์พอดี

“เธอก็ดูสิยิ้มหวานหยดย้อยอ่อยขนาดนั้น ไม่หลงก็ให้มันรู้ไป ฉันว่านะคงติดใจในร่างกายอันเน่าเฟะของแม่นั่นมากกว่า” คำนินทาถูกพูดต่อๆ กันไปโดยไม่ได้สนใจที่จะหาความจริงเลยสักนิด พูดเพียงเพราะสนุกปากเท่านั้น

ณัฐนิตาที่เดินออกมาก็ได้ยินบทสนทนาเธอจึงเข้าร่วมวงเม้าธ์ด้วยก่อนจะขอตัวก่อนเพราะพ่อหนุ่มหล่อหัวหน้าแผนกบัญชีเดินออกมาจากลิฟต์

“พี่ปันขา รอนิต้าด้วยค่ะ”

เสียงเรียกดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ปนิธิหยุดแล้วหันมามองพบรุ่นน้องที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาเขา

“ครับ?”

“คือพอดีว่าวันนี้นิต้าขอกลับด้วยได้ไหมคะพี่ปัน รถนิต้าเสียค่ะ สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด นี่ก็เรียกช่างแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่รอช่างเป็นเพื่อนดีไหม” ปนิธิถามขึ้นทำเอาณัฐนิตารีบส่ายหน้าพัลวันมือก็จับแขนเขาไว้แน่น

“ไม่ดีกว่าค่ะ มันคงนาน แม่นิต้าจะรอกินข้าว พี่ปันไปส่งนิต้าหน่อยนะคะ” ออดอ้อนตามประสาผู้หญิงจนชายหนุ่มพยักหน้ายอมไปส่งเธอ

ณัฐนิตาก็กอดแขนเขาแล้วเดินออกไปข้างนอกด้วยกัน

“พี่ปันได้ยินข่าวลือเรื่องของจอมขวัญไหมคะ นิต้าว่าขวัญไม่น่าจะทำอย่างนั้นเลย” เธอพูดพร้อมกับสังเกตปฏิกิริยาของคนข้างกาย

แต่ปนิธิก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเขาทำหน้านิ่งและเปิดประตูรถให้เธออย่างสุภาพ

“นิต้าบอกเส้นทางพี่แล้วกันนะครับ”

“ได้ค่ะ”

เขาตัดบทจบไม่พูดเรื่องของจอมขวัญอีกทำเอาเธอขัดใจไม่น้อยเพราะต้องการมาใส่ไฟผู้หญิงอีกคนให้เขาฟังเต็มที่แต่ดูเหมือนปนิธิจะไม่สนใจเลย หรือว่าเขาจะไม่สนใจจอมขวัญแล้ว

เป็นไปไม่ได้! เธอคิดว่าไม่ควรไว้ใจว่าเขาจะตัดใจจากผู้หญิงคนนั้นได้ ก็ต้องรอดูกันต่อไปแล้วละ

ด้านจอมขวัญที่ขึ้นรถมากับชนวีร์ เขาก็เงียบไม่ได้ชวนเธอคุยเพราะยังต้องดูงานที่เอาขึ้นมาบนรถด้วย ช่วงนี้ชายหนุ่มงานหนักแต่ก็ยังมีเวลาให้เธอตลอดทำให้จอมขวัญรู้สึกดีที่เขาให้ความสำคัญกับเธอมากขนาดนี้

ใช้เวลาไม่นานรถคันหรูก็มาจอดเทียบโรงแรมห้าดาวที่เขาได้จองห้องเอาไว้ ชนวีร์หันมายิ้มให้จอมขวัญก่อนจะจูงมือเธอลงมาจากรถ เขาหันไปสั่งกับคนขับรถเพียงเล็กน้อยก่อนจะพาร่างบางเดินเข้ามาในโรงแรม

“คุณเปิดห้องหรือคะ” เมื่อเห็นเขาเดินเลยห้องอาหารมาเธอจึงถามขึ้น

ชนวีร์ไม่ตอบเพียงแค่ยิ้มแล้วโอบเอวบางไปยังลิฟต์ ชนวีร์กดชั้นบนสุด ภายในลิฟต์ที่มีแค่ชายหนุ่มกับหญิงสาวทำให้เขาอดใจไม่ไหว ร่างสูงหันไปมองกล้องก่อนจะดันเธอให้ไปยืนฝั่งที่กล้องส่องไม่ถึงแล้วจัดการปิดปากเธอด้วยปากของเขา

ทั้งสองแลกจูบกันจนมาถึงชั้นบนสุด ชนวีร์ถอนริมฝีปากออกมาก่อนจะปาดน้ำลายที่ไหลออกมาให้เธอ

“รู้ไหม ขวัญหวานมากเลยนะ” กระซิบเสียงแผ่วและจับมือนิ่มเดินมายังห้องที่จองไว้

จอมขวัญแก้มแดงด้วยความเขิน เดินตามชนวีร์มา พอเปิดเข้ามาในห้องเธอก็ต้องตะลึงเมื่อพบกับดอกกุหลาบสีแดงที่เต็มห้อง มีทั้งเป็นแจกันและเป็นกระถาง ตามทางเดินโรยกลีบกุหลาบไว้ไปจนถึงโต๊ะดินเนอร์สุดหรูที่เขาสั่งให้คนมาจัดเอาไว้ก่อนหน้า

“สวยไหม”

“สวยมากค่ะ” ร่างบางมองอย่างตกตะลึง ยิ่งวิวด้านนอกก็ทำให้เธอต้องตาค้างเพราะมันสวยมาก ในตอนเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแบบนี้ยิ่งสวยแต่ถ้าตอนที่พระจันทร์มาแทนที่และตึกสูงต่างพากันเปิดไฟมันก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เข้าไปอีก

“ชอบไหมครับ”

“ชอบมากๆ ค่ะ” เธอหันมามองเขาที่ส่งยิ้มให้อยู่ก่อนแล้ว

ชนวีร์เดินเข้ามาสวมกอดจอมขวัญเอาไว้

“พี่ทำเพื่อขวัญนะรู้ไหม”

จอมขวัญกอดตอบเขาด้วยความรัก เธอสูดกลิ่นกายเขาเข้าไปเต็มปอดชอบอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขาแต่กลับไม่รู้ว่ามันเต็มไปด้วยเพลิงที่ร้อนแรงและแผดเผาเธอให้มอดไหม้

“ขวัญรู้ค่ะ ขวัญขอบคุณพี่วีร์มากค่ะ” ชายหนุ่มผละออกมายิ้มให้เธอก่อนจะจูงมือไปยังเก้าอี้แล้วเลื่อนให้เธอนั่งอย่างสุภาพบุรุษ

ทั้งสองนั่งรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุขโดยที่มีสายตาหวานของชนวีร์ส่งมาให้จอมขวัญตลอด เธอเขินอายหลบสายตาเขาบ่อยครั้งจนรับประทานอาหารเสร็จและมีของหวานมาเสิร์ฟถึงที่ ท้องฟ้าเริ่มมืด ไฟในห้องค่อยๆ ลดแสงลงเหลือเพียงแสงสีนวล ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบโรแมนติกมากขึ้นไปอีก

“อิ่มแล้วใช่ไหมครับ” เมื่อร่างบางเช็ดปากเสร็จเขาก็ถามขึ้น

เธอพยักหน้าแล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำล้างมือ ร่างสูงรีบลุกขึ้นจัดเตรียมของที่เขาจะเอามาเซอร์ไพรส์เธอเต็มที่

เสียงกีต้าร์ที่ดังขึ้นดึงความสนใจของจอมขวัญที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำได้ทันที เธอเดินมาที่ห้องโถงกลางที่รอบข้างเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ ใบหน้าหวานยิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มสุดหล่อนั่งดีดกีต้าร์อยู่ตรงกลางดอกกุหลาบมากมาย

I remember what you wore on the first day

You came into my life and I thought hey

You know, this could be something

ชนวีร์มองจอมขวัญพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เธอ

เสียงนุ่มที่ไพเราะขับร้องไปพร้อมกับมือที่ดีดกีต้าร์อย่างชำนาญ ร่างบางยืนมองนิ่งไม่คิดว่าเขาจะร้องเพลงเพื่อเธอ

'Cause everything you do and words you say

You know that it all takes my breath away

And now I'm left with nothing

So maybe it's true that I can't live without you

And maybe two is better than one

But there's so much time to figure out the rest of my life

And you thought that it got me coming undone

And I'm thinking two is better than one

น้ำตาไหลลงด้วยความตื้นตัน เธอเคยคิดว่าจะเขาจะทำแบบนี้ให้ ฝันเหมือนผู้หญิงทั่วไปอยากให้คนที่เราแอบชอบร้องเพลงให้แบบนี้และในที่สุดฝันที่เธอเคยคิดว่าเป็นได้แค่ฝัน วันนี้มันกลับเป็นจริง

I remember every look upon your face

The way you roll your eyes, the way you taste

You make it hard for breathing

'Cause when I close my eyes and drift away

I think of you and everything's okay

I'm finally now believing

Then maybe it's true that I can't live without you

Maybe two is better than one

But there's so much time to figure out the rest of my life

And you thought that it got me coming undone

And I'm thinking two is better than one

I remember what you wore on the first day

You came into my life and I thought, hey (hey, hey)

Maybe it's true that I can't live without you

Maybe two is better than one

There's so much time to figure out the rest of my life

And you thought that it got me coming undone

ร่างสูงวางกีตาร์ไว้บนเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาหาจอมขวัญในขณะที่เขายังร้องเพลงอยู่ เธอมองชายหนุ่มตรงหน้านิ่งราวกับอยากจะจดจำเวลาที่แสนหวาน ซึมซับว่ามันคือความจริง เขาร้องเพลงนี้เพื่อเธอ

And I'm thinking, ooh, I can't live without you

'Cause, baby, two is better than one

There's so much time to figure out the rest of my life

But I'll figure out with all that's said and done

Two is better than one, two is better than one

“ฮึก ขวัญรักพี่วีร์”

ชนวีร์เช็ดน้ำตาที่ไหลเปื้อนแก้มนวลอย่างอ่อนโยนก่อนที่จอมขวัญจะสะอื้นและบอกรักเขา รอยยิ้มของหนุ่มหล่อทำให้เธอยิ่งร้องไห้เข้าไปอีก แล้วเขาก็โอบกอดเธอไว้อย่างมั่นคงและอบอุ่น จอมขวัญกอดตอบเขาด้วยความรัก ดวงตากลมโตหลับลงอย่างมีความสุข

“ครับ พี่รู้” เขากอดตอบก่อนจะแสยะยิ้ม

..ใช่แล้วละแผนเขาสำเร็จแล้วไม่เสียแรงที่ลงทุนไปเยอะ วันนี้มันก็จะจบและเริ่มต้นความเจ็บปวดของเธอแล้วจอมขวัญ

เขาผละออกก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าลงไปจูบที่แก้มนวล เลื่อนมายังริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน เขาเล่นได้อย่างสมบทบาทจนจอมขวัญเคลิ้มตอบสนองเขาไปอย่างน่ารัก ชนวีร์พาเธอเข้ามาภายในห้องที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม เขาพาเธอลงนอนบนเตียงก่อนที่จะเริ่มบรรเลงเพลงรักให้เธอมิรู้ลืม

..ไม่รู้ว่าครั้งนี้ใครกันแน่ที่หลงในรสรักซึ่งยากจะลืม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel