๕ แผนการ (๒)
เมื่อถึงบริษัทชนวีร์ก็ให้จอมขวัญขึ้นไปก่อน เขาจะไปจอดรถโดยที่ไม่ลืมบอกให้เธอกลับพร้อมเขาตอนเย็นนี้อีกด้วย
จอมขวัญยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงานแต่กลับไม่มีใครยิ้มตอบเธอเลยสักคนแถมมีหลายคนมองเธอแล้วหันไปซุบซิบกันจนหญิงสาวเริ่มใจเสีย เธอเดินขึ้นมายังแผนกของตนเองในขณะที่ทุกคนไปกินข้าวกันที่แคนทีน
“ขวัญ พี่นึกว่าจะไม่มาเสียอีก” ดาหวันขึ้นมาเป็นคนแรกเอ่ยทักรุ่นน้อง
จอมขวัญยิ้มให้พร้อมกับสวัสดี
“ตอนแรกก็ว่าจะไม่มาแหละค่ะ พอดีเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน” หล่อนไม่ได้ต่อความให้ยาวและดาหวันก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออีกจอมขวัญจึงค่อนข้างสบายใจ
“อ้าว ขวัญสวัสดีจ้ะ” สองสาวคู่หูเดินยิ้มมาแต่ไกลทักทายจอมขวัญ แล้วรีบลากเก้าอี้ของตนเองมานั่งขนาบข้างจอมขวัญทั้งสองข้างทันที
“ขวัญจ๋า พี่ได้ข่าวมาว่าวันนี้ขวัญมากับท่านประธานเหรอ”
“แล้วท่านประธานสุดหล่อของเราไปรับขวัญที่หอด้วยจริงไหม”
คำถามนั้นทำเอาจอมขวัญอึ้ง เธอไม่คิดว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้ และรู้สึกละอายเป็นอย่างยิ่งที่ทำเรื่องไม่สมควรแบบนี้ขึ้นในบริษัท
“พี่ๆ รู้มาจากไหนคะ”
“ก็เขาเล่าต่อๆ กันมา ว่ามีคนไปเห็นท่านประธานไปรับขวัญช่วงเที่ยงที่หอ แถมมีรูปด้วยนะ เดี๋ยวพี่เปิดให้ดู”
รูปในจอโทรศัพท์ก็ทำเอาเธอพูดไม่ออกเพราะมันเป็นความจริง จอมขวัญมองพี่ทั้งสามก่อนจะพยักหน้า
“คือว่าเรื่องทั้งหมดมันแค่เรื่องบังเอิญนะคะ ขวัญไม่อยากให้พี่ๆ เข้าใจผิดแต่ก็ไม่อยากแก้ตัวว่ามันไม่ใช่ขวัญ”
รุ่นน้องพูดจบวานิสาและอพิญญาต่างก็ร้องกรี๊ดด้วยความดีใจเพราะเธอเชียร์ให้น้องสาวคนสวยรักกับท่านประธานหนุ่มสุดหล่อแบดบอย
“พี่ว่านะ ท่านประธานต้องชอบขวัญแน่เลยละ”
ทั้งสองฟันธงจนจอมขวัญเขินอายแก้มแดงไปหมดยิ่งสร้างความเอ็นดูให้ทั้งสามยิ่งนักจนกระทั่ง
“ได้เวลาทำงานแล้วครับ” ปนิธิเดินเข้ามาเอ่ยเสียงเข้มไม่มองหน้าใครก่อนจะผลักประตูเข้าห้องไปแล้วปิดเสียงดังทำให้สาวทั้งสี่มองหน้ากันด้วยความงงงวยก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
จอมขวัญมองเข้าไปในห้องของหัวหน้าแผนกอย่างปนิธิแล้วถอนหายใจก้มดูเอกสารของตัวเองต่อ
ตอนเที่ยงจอมขวัญได้รับโทรศัพท์จากชนวีร์ว่าเขาต้องไปหาลูกค้าตอนเย็นอาจจะอยู่ถึงดึกเลยบอกให้เธอกลับเอง ซึ่งตัวจอมขวัญก็ไม่ได้ขัดข้องอยู่แล้วเธอบอกให้เขาทำงานให้เต็มที่ก่อนจะลา มิวายที่ชายหนุ่มจะหยอดคำหวานให้คนร่างบางเขินอาย
“ขวัญ เย็นนี้ไปบ้านพี่ไหม” ดาหวันเดินมาที่โต๊ะทำงานของจอมขวัญแล้วเอ่ยชวน
“บ้านพี่ดาหรือคะ ไปค่ะ ขวัญอยากไป” รอยยิ้มหวานส่งให้รุ่นพี่ก่อนที่ดาหวันจะพยักหน้าแล้วบอกว่าเดี๋ยวตอนเย็นแฟนเธอจะมารับ
ทั้งสองแยกย้ายกันไปทำงานจนกระทั่งถึงตอนเย็น
“ไปกันเถอะขวัญ” เก็บของเสร็จดาหวันก็เอ่ยชวนจอมขวัญที่เก็บของเสร็จพอดีจึงพยักหน้าส่งยิ้มให้
แต่ก่อนที่สองสาวจะออกไปปนิธิก็เดินออกมาสมทบพอดี
“จะกลับบ้านกันแล้วเหรอ” น้ำเสียงติดแววขรึมใบหน้าหล่อก็เรียบตึงไม่ยิ้มแย้มเหมือนเคยจนจอมขวัญอดกลัวไม่ได้
“ใช่ค่ะ แต่ขวัญจะไปบ้านพี่ดาก่อน” คำบอกเล่านั้นสร้างความสงสัยให้กับชายหนุ่มที่มาใหม่
“คุณปันไปด้วยกันไหมคะ” ดาหวันเอ่ยชวนทันทีเพราะดูเหมือนบรรยากาศอึมครึมของเจ้านายตนเองวันนี้ อาจจะมีรุ่นน้องสาวสวยคนข้างเธอเป็นเหตุก็ได้
“ไปได้เหรอ ถ้าอย่างนั้นผมก็ไปด้วยนะ” และแน่นอนว่าดาหวันไม่ปฏิเสธทั้งสามเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกันในเวลาเลิกงาน
คนเต็มลิฟต์จนเบียดกันจอมขวัญอยู่ใกล้ปนิธิและถูกเบียด ดีที่เขาจับไหล่เธอไว้ประคองไม่ให้ร่างบางล้มไปเพราะแรงเบียดเสียก่อน ถึงชั้นล่างคนก็ออกมากันเยอะ
“ขวัญไปกับพี่นะ” เพราะเห็นว่าจอมขวัญจะเดินไปกับดาหวันร่างสูงเลยพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้เดินไปกับรุ่นพี่ในแผนก
“ก็ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณปันก็ขับรถตามมานะคะ”
ปนิธิโค้งรับแล้วพาจอมขวัญเดินไปยังที่จอดรถทันที เขาเปิดประตูให้เธอก่อนจะอ้อมมาทางคนขับ บรรยากาศบนรถเงียบจนจอมขวัญอึดอัด ปนิธิขับรถตามหลังรถของดาหวัน เขาไม่พูดอะไรและใบหน้าก็เคร่งขรึม
“ขวัญขอเปิดเพลงได้ไหมคะ” เอ่ยเสียงกล้าๆ กลัวๆ
ปนิธิเปิดเพลงให้เธอทำให้บรรยากาศไม่อึดอัดจนเกินไป
“เอ่อ ขวัญไม่รู้ว่าขวัญคิดไปเองหรือเปล่า แต่ว่าพี่ปันมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ” เมื่อทนไม่ไหว รุ่นน้องร่วมสถาบันจึงเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างติดไฟแดง
“พี่ก็ปกติ”
“ไม่ค่ะ พี่ปันไม่ขรึมขนาดนี้ พี่ปันโกรธขวัญหรือเปล่า ขวัญไปทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่าคะ” ถามไปแบบนั้นเธอก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน
ปนิธินิ่งเงียบก่อนจะถอนหายใจออกมาราวกับยอมจำนนต่อคำพูดของจอมขวัญ
“ปล่อยพี่ไว้แบบนี้สักพักเถอะ เดี๋ยวพี่ก็หาย พี่แค่คิดไปเอง” รุ่นพี่หนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วแล้วตั้งใจขับรถต่อไป
จอมขวัญเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกจนมาถึงยังบ้านจัดสรรขนาดกลางที่บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยไม้ดอกและไม้ประดับดูร่มรื่น
“ยังไม่ได้แนะนำเลย นี่คุณสินธร สามีของพี่เอง” หญิงสาวแนะนำสามีของตนเองที่ยืนยิ้มอยู่ข้างกายให้ทั้งสองคนรู้จัก
“คุณธรคะ นี่คุณปันเจ้านายของฉันเอง ส่วนนี่น้องขวัญเป็นน้องในแผนก” ทั้งสามทำความรู้จักกันสักพัก ก่อนที่ดาหวันเชิญทั้งสองคนเข้าบ้านพอดีกับที่ลูกชายคนโตวิ่งมากอดมารดาของตนเอง
“แม่ฮับบบบบ นายวาดฮารูโตะสวยไหมฮับ” ยังไม่ทันที่จะถึงตัวบ้านเด็กผู้ชายตัวเล็กก็วิ่งเข้ามากอดแม่เสียก่อนพร้อมยื่นสมุดวาดรูปให้ดู
“อวดแต่คุณแม่ไม่อวดคุณพ่อหรือครับ” ชายร่างอวบถามลูกชายเหมือนน้อยใจแต่แววตาแฝงไปด้วยความเอ็นดู
“คุณพ่อออ น้องนายวาดรูปสวยไหม” เด็กน้อยประจบพ่อตัวเองทันทีก่อนที่จะหันมาเจอแขกใหม่สองคน ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองพี่สาวอย่างเขินอายก่อนจะหยิบสมุดแล้ววิ่งมาหลบข้างหลังคุณแม่ แก้มยุ้ยของเด็กน้อยออกสีแดง
“เป็นอะไรครับเจ้านาย”
ร่างเล็กส่ายหัวแอบอยู่หลังแม่แล้วโผล่หัวออกมาดู พอสบสายตากับพี่สาวเข้าก็รีบหลบสายตาแล้วอยู่ข้างหลังคุณแม่อีก
“ฮ่าๆ เขินพี่ขวัญเขาหรือลูกชาย” คุณสินธรถามลูกแล้วเข้ามาอุ้มเอาเจ้าตัวเล็กเข้าไปในบ้าน
จอมขวัญมองอย่างยิ้มๆ แล้วเดินเคียงคู่ไปกับปนิธิ บ้านของดาหวันภายในคล้ายกับบ้านจัดสรรทั่วไป มีรูปครอบครัวเต็มไปหมดและการจัดบ้านก็เน้นธรรมชาติเป็นส่วนมาก
จอมขวัญเข้าไปเล่นกับลูกคนเล็กของดาหวันซึ่งเป็นเด็กตัวน้อยยิ้มง่ายและหัวเราะเก่งที่นอนหัวเราะเอิ้กอ้ากให้เธออยู่ในเปล กลางวันที่ดาหวันและ สินธรไม่อยู่จะมีป้าของสินธรมาเลี้ยงให้เพราะเธอว่างและอยู่ซอยถัดไปเท่านั้นเอง
“เจ้าตัวน้อยน่าชังจังเลยค่ะ” ร่างบางเอ่ยชมเมื่อเล่นกับเด็กน้อยเสร็จ
“ค่ะ แกเลี้ยงง่ายด้วย ตัวอ้วนจ้ำม่ำ ผิวก็ข๊าวขาว” อวดลูกตัวเองแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ดาหวันหันไปกอดลูกชายคนโตเมื่ออีกฝ่ายนั่งเกาะแม่ไม่ปล่อยแล้วมองพี่สาวคนสวยตาเยิ้ม
ตอนนี้สินธรกับปนิธิเดินออกไปดูต้นไม้กัน ปนิธิชอบต้นกล้วยไม้ที่สินธรปลูกจึงเดินไปดูวิธีการปลูกและเลี้ยงดู
“เจ้านายครับ มาหาน้าขวัญเร็ว” จอมขวัญมองดูหนุ่มน้อยแล้วเรียกอย่างเอ็นดู แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ส่ายหน้าแล้วกอดแขนคุณแม่ไว้อย่างเขินอายเท่านั้น
“ไปหาน้าขวัญเร็วลูก”
“มาครับ เดี๋ยวน้าขวัญจะพาไปทำขนม ไปไหม” จอมขวัญคุยกับรุ่นพี่แล้วว่าจะทำเค้กกล้วยหอมให้กินและพอดีกับที่บ้านของดาหวันมีอุปกรณ์ทำขนมหญิงสาวจึงไม่พลาดที่จะขอทำ
“นายชอบกินฮับ ชอบกินเค้กกล้วยหอม” เด็กน้อยออกจากคุณแม่แล้ววิ่งมาหาพี่สาวคนสวย
“โอเคครับ งั้นเราไปทำเค้กกันเนอะ” จอมขวัญจูงมือลูกชายของดาหวันเข้ามาภายในครัว เธอจัดการหาของโดยมีดาหวันมาช่วย
ทั้งสามช่วยกันทำขนมเค้กกล้วยหอมอย่างพิถีพิถัน เจ้านายไม่ห่างน้าสาวคนสวยที่เพิ่งสนิทกัน มักจะเดินไปกอดแขนหรือไม่ก็อยู่ใกล้จอมขวัญเสมอ
ปนิธิยืนมองคนที่ตนแอบรักมานานด้วยแววตาเอ็นดู รอยยิ้มของจอมขวัญเขาชอบยิ่งนักมันช่างอ่อนหวานจนอยากจะเก็บเอาไว้ดูคนเดียวแต่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์และเขาก็ได้แค่คิดและเพ้อฝันไปเท่านั้นเอง
ร่างสูงยืนพิงประตูเหม่อมองคนทั้งสามก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงหวานของรุ่นน้อง
“พี่ปันเสร็จพอดีเลย มาชิมไหมคะ”
เขาไม่ปฏิเสธ เดินไปชิมเค้กกล้วยหอมแล้วก็ชมเปาะทันที จอมขวัญกับเจ้านายช่วยกันยกเค้กกล้วยหอมออกมานั่งกินกันไปคุยกันไปโดยที่เจ้านายอยู่ติดน้าขวัญคนสวยตลอดเวลา แถมยังหวงมากอีกด้วยเมื่อมีใครมาแย่งตนเองคุยกับน้าขวัญ
จอมขวัญและปนิธิอยู่กินข้าวกับครอบครัวของดาหวันจนเสร็จจึงขอตัวกลับบ้าน เจ้านายงอแงไม่อยากให้ไปแต่น้าขวัญคนสวยก็บอกจะมาหาอีกบ่อยๆ เด็กน้อยเลยจำต้องพยักหน้าอย่างเหงาหงอย ก่อนกลับจอมขวัญก็หอมแก้มนิ่มแล้วยิ้มลาทำเอาเด็กน้อยยิ้มร่าเริงและโบกมือหย่อยๆ พลางกระโดดส่งจอมขวัญ
ระหว่างทางกลับหอจอมขวัญ ปนิธิก็ชวนเธอคุยบรรยากาศกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งจนถึงหอพักของเธอ
“ขอบคุณมากนะคะพี่ปันที่มาส่ง เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” จอมขวัญโบกมือลาแล้วลงจากรถไป
“เดี๋ยวก่อนขวัญ” ร่างสูงเปิดประตูแล้ววิ่งลงไปหาจอมขวัญอย่างรวดเร็วเมื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
ร่างบางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“คือพี่” มองใบหน้าหวาน ความกลัวก็เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย ทั้งที่เมื่อกี้ตัดสินใจจะบอกอยู่แล้วเชียว
“มีอะไรคะ”
“พี่.. พี่จะบอกว่า... พี่รัก.. รักน้องเจ้านายเหมือนกันนะ แกน่ารักพี่จะบอกแค่นี้แหละ” บอกไปก็หัวเราะแห้งๆ
จอมขวัญอมยิ้มอย่างขำขันกับความตลกของพี่ชายร่วมสถาบันคนนี้ เธอพยักหน้าเข้าใจ
“ค่ะ ขวัญรู้ขวัญก็เอ็นดูแกเหมือนกัน”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ไปแล้ว เจอกันพรุ่งนี้” ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเขาหันหลังกลับเดินไปขึ้นรถที่จอดไว้ทันที โดยมีจอมขวัญยืนส่งอยู่
เมื่อเข้ามาในรถได้ปนิธิก็โมโหตัวเองที่ขี้ขลาดอีกแล้ว ไม่กล้าที่จะบอกว่าตัวเองรักเธอมากแค่ไหน
..แค่บอกรักเขายังทำไม่ได้เลย เขามันขี้ขลาดเกินไปจริงๆ
ภายในห้องรับแขกสุดหรูของบ้านหลังใหญ่ในย่านคนรวยบุษบามินตรากำลังนั่งรอพี่ชายอยู่แม้ว่าในขณะนี้จะเป็นเวลากว่าหกทุ่มแล้วก็ตาม พี่ชายเธอมักจะกลับบ้านค่ำและเมื่อวานก็ไม่ได้กลับมาเป็นห่วงก็เป็นห่วงแต่อีกฝ่ายกลับปิดมือถือตัดขาดการติดต่อเสียอย่างนั้น
วันนี้เธอจึงต้องมานั่งรอถามว่าไปไหนมาและข่าวลือที่บริษัทนั้นจริงแค่ไหน
“มินทำไมยังไม่นอน” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้พี่ชาย
“ก็รอพี่ชายน่ะสิคะ กลัวว่าวันนี้จะไม่กลับอีก”
ร่างสูงถอดเน็กไทออกแล้ววางเสื้อสูทพาดไว้ที่ผนักโซฟาแล้วเดินมานั่งข้างน้องสาว
“เมื่อคืนพี่วีร์ไปไหนมาคะ”
“พี่ติดธุระนิดหน่อย”
“ไม่จริงหรอก แต่ช่างเถอะสิ่งที่มินอยากรู้คือเรื่องที่พนักงานเขาลือกันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
ชนวีร์มองน้องสาวแล้วเอามือลูบหัวเธอแผ่วเบา
“ดึกแล้วไปนอนเถอะ พี่ก็จะขึ้นนอนแล้วเหมือนกัน” อีกฝ่ายตัดบทไม่ตอบและหยิบเสื้อสูทลุกขึ้น
“เดี๋ยวสิคะ ตอบก่อนว่าเรื่องที่เขาลือว่าพี่วีร์กำลังจีบพี่ขวัญเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” รั้งแขนเขาเอาไว้พลางถามเสียงออดอ้อนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“ไม่รู้สิ พี่ง่วงแล้ว ขอตัวนะ” เขาปลดมือน้องออกอย่างสุภาพแล้วเดินขึ้นห้องไปโดยมีสายตาไม่พอใจของบุษบามินตรามองตาม
..ไม่มีคำตอบอะไรจากพี่ชายของเธอเลย ถ้าอย่างนั้นเธอควรทำอย่างไรดีล่ะ คงต้องถามจากอีกคนแล้วสินะคิดแล้วเธอก็กดโทรศัพท์โทรออกทันที
“ฮัลโหล”
ชนวีร์เดินขึ้นมาบนห้องของตนเอง เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ชีวิตแสนน่าเบื่อของเขาไม่มีอะไรมาเป็นสีสันเลยสักนิด ร่างสูงนั่งนิ่งคิดไปถึงเมื่อเช้าที่ได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่มของจอมขวัญ มันรู้สึกดีแปลกๆ
“ไม่มีทาง แกไม่มีทางรู้สึกดีกับผู้หญิงมารยาแบบนั้นหรอก” เขาบอกตัวเองแล้วเข้าห้องน้ำเพื่อดับอารมณ์ เขาต้องทำให้เธอรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้น รักจนสุดหัวใจหลังจากนั้นเขาก็จะทิ้งเธอไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย และตอนนี้เขาก็เริ่มทำสำเร็จแล้วด้วยเพราะดูเหมือนว่าจอมขวัญจะรักเขามาแล้วแสนนานและยังคงรักอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
“หึ! เธอจะรู้จักคำว่าตกนรกทั้งเป็นอีกไม่นาน จอมขวัญ”