๕ แผนการ (๑)
๕
แผนการ
“คุณวีร์!” ใบหน้าคมเข้มที่คุ้นเคยตอนนี้มีเลือดไหลลงมาเป็นทาง
จอมขวัญมองเขาอย่างเป็นห่วง พยายามประคองให้ร่างสูงไปนอนข้างเตียงของเธอ ร่างบางวิ่งวุ่นหาผ้าขนหนูขนาดเล็กและกะละมังใส่น้ำเพื่อมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา จอมขวัญเช็ดหน้าที่มีเลือดเปื้อนให้ชนวีร์ก่อนจะเห็นว่าแผลไม่ใหญ่ถึงขั้นต้องเย็บแต่ที่เลือดไหลเยอะอาจเพราะโดนฝนด้วยก็เป็นได้
“หนะ หนาว” เสียงเข้มเอ่ยแผ่วเบาเต็มที
“ทนหน่อยนะคะ”
ฝนยังคงตกไม่หยุด ร่างบางเข้าไปเปลี่ยนน้ำแล้วมาถอดเสื้อให้ชายหนุ่มทันที แม้ใจจะเต้นแรงแต่ถ้าให้เขานอนเปียกแบบนี้ก็กลัวว่าจะเป็นปอดบวมไปเสียก่อน เมื่อเสร็จที่ท่อนบนท่อนล่างยิ่งสร้างความกังวลใจให้เธอเข้าไปอีก
“ขอโทษนะคะ ขวัญทำด้วยใจบริสุทธิ์นะ” ก่อนจะถอดกางเกงให้เขาจอมขวัญก็บอกก่อน กลั้นใจรูดซิปแล้วพยายามดึงลงมาแต่มันค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควร
“คุณวีร์ช่วยยกสะโพกขึ้นหน่อยได้ไหมคะ” ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินหรือเปล่าที่เธอพูดแต่ก็บอกไปแล้ว ดูเหมือนว่าชนวีร์จะรู้ว่าเธอพูดอะไรเพราะเขายกสะโพกขึ้นทำให้ผ่านช่วงทุลักทุเลไปได้ ตอนนี้ทั้งร่างหนาจึงมีเพียงแค่กางเกงบ๊อกเซอร์เท่านั้น
จอมขวัญพยายามไม่มองแล้วหากางเกงขนาดใหญ่ให้เขาแต่ค้นทั่วตู้ก็ไม่พบ เธอจึงตัดสินใจให้เขาใส่เพียงเสื้อยืดของพ่อเธอที่ทิ้งไว้เพราะลืม
“หนาว” ปากของชนวีร์ตอนนี้ซีดจนเธออดเป็นห่วงไม่ได้
จอมขวัญเช็ดตัวให้เขาแล้วใส่เสื้อพร้อมกับพันผ้าขนหนูให้ก่อนจะพยายามอุ้มร่างสูงให้ขึ้นไปนอนบนเตียง
“คุณลุกไหวไหมคะ” ไร้เสียงตอบรับจากเขา เธอจึงต้องพยุงเขาลุกขึ้นให้ได้ ชนวีร์ก็ช่วยเธอโดยไม่ทิ้งน้ำหนักใส่เธอมากนัก จนเขาขึ้นมานอนบนที่นอนของเธอได้สำเร็จแต่ก็ทำเอาจอมขวัญถึงกับหอบ
“ถอด ให้ หมด” เหมือนไร้เรี่ยวแรงแต่เขาก็พยายามพูดออกมา
จอมขวัญฟังแล้วถึงกับตาโตกับสิ่งที่เขาบอก
..ถอดให้หมดของเขาคงไม่ได้หมายความว่าให้เธอถอดชั้นในของเขาออกหมดหรอกนะ
“แต่ว่า”
“ฉันอึดอัด” เขาพยายามสื่อสารออกมาแม้ไม่ลืมตาก็ตาม
จอมขวัญทำสีหน้าลำบากใจแต่ก็ต้องทำตาม ร่างบางมองไปทางอื่นแล้วสอดมือเข้าไปถอดกางเกงบ๊อกเซอร์ให้เขา พยายามอย่างยิ่งไม่ให้มือสัมผัสโดนแก่นกลางของร่างกายหนา
“ให้ตายเถอะ มันลำบากจริงๆ นะคะ” บ่นพึมพำแต่ก็ต้องถอดให้เขา จอมขวัญพยายามทำให้ดีที่สุดก่อนที่ปราการชิ้นสุดท้ายจะหลุดออกจากตัวเขา เธอถึงกับต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อเสร็จภารกิจไปจอมขวัญก็ห่มผ้าให้เขาแล้วเก็บกวาดห้อง เธอเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อแขนยาวใส่พร้อมกับหยิบประเป๋าเพื่อจะไปซื้อยามาทำแผลให้เขา ดีที่ตอนนี้เลือดหยุดไหลไปแล้ว
จอมขวัญตรวจดูเขาก่อนจะออกไปซื้อของข้างนอกโดยไม่ลืมพกร่มไปด้วย เมื่อลงมาข้างล่างเธอก็พูดคุยกับเจ้าของหอพอไม่ให้เป็นที่ผิดปกติก่อนจะเดินเข้าอีกซอยเพื่อซื้อยา
ได้ของครบจอมขวัญก็กลับทันที เธอซื้อยาทำแผลและยาลดไข้ด้วย แม้จะสงสัยว่าเขาไปโดนอะไรแต่ห่วงอาการเจ็บของเขามากกว่าเธอจึงไม่อยากจะถามเขาตอนนี้รอให้อาการดีขึ้นเสียก่อนถามตอนนั้นก็ไม่เสียหาย
ถึงหอร่างบางก็เดินขึ้นห้องไปหาเขาที่ยังคงนอนเหมือนก่อนที่เธอจะออกไป
ใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียว เท้าของเขาเกินเตียงของเธอออกมานิดหน่อยก็เพราะเขาตัวสูงมากนั่นเอง ขนาดว่าเตียงเธอยาวมากแล้วก็ตาม ร่างบางวางยาไว้ข้างหัวเตียงแล้วนั่งทำแผลให้เขาก่อนจะติดพลาสเตอร์ให้เสร็จแล้วก็ไปที่ครัวทำโจ๊กให้เขาก่อนกินยา
“กินสักคำสองคำนะคะ จะได้กินยา” กลัวเขาไม่มีแรงจะลุกขึ้นกินก็กลัวแต่ดีที่ชนวีร์อ้าปากรับโจ๊กที่เธอป้อนเสียก่อน เขากินไปสามคำก็หยุด จอมขวัญจึงป้อนยาให้เขาแล้วเก็บของทั้งหมด ช่วงเย็นเธอยังไม่ได้กินข้าวจึงทำโจ๊กกิน
กินเสร็จแล้วจอมขวัญก็ล้างจานก่อนจะมาปูที่นอนข้างเตียงเพื่อเฝ้าเจ้านายของหล่อนเอง ดีที่แม่บอกให้ซื้อเครื่องนอนไว้อีกชุดเธอจึงปูนอนได้จอมขวัญไม่ได้ถอดเสื้อแขนยาวเพราะคิดว่าใส่เสื้อกล้ามอยู่กับผู้ชายสองคนไม่เหมาะสมแม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอก็ตาม
ก่อนนอนร่างบางก็มองหน้าของคนที่เธอแอบรักมานาน ตอนเขาหลับดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกำลังนิทรา เธอไม่อาจถอนสายตาจากเขาได้เลย เขาหล่อตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเจอจนกระทั่งวันนี้ เธอจำเขาได้แต่เขากลับจำเธอไม่ได้แถมยังรังเกียจอีกต่างหาก เขาเกลียดผู้หญิงอย่างเธอที่สุดเธอรู้ เกลียดจนไม่อยากมองหน้าแต่ทำไมตอนนี้เขากลับหวานใส่เธอ มันกะทันหันจนบางครั้งเธอก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ฝันไปหรือไม่ ถ้าเป็นฝันเธอก็คงไม่อยากตื่น แต่มันไม่ใช่เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือความจริง เขาคือความจริง
“คุณหลอกขวัญหรือเปล่าคะ หลอกขวัญหรือเปล่า” สมองยังคงกังวลแต่ใจของเธอกลับบอกว่ายอมให้เขาหลอก เพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขาเท่านั้น เธอรักเขา รักเสียจนไม่คิดว่าจะรักใครคนหนึ่งได้ขนาดนี้ เขาคือรักแรกและอาจจะเป็นตลอดไป เธอพยายามตัดใจจากเขาแล้วแต่ดูเหมือนยิ่งทำเธอก็ยิ่งเจ็บเอง
“ฝันดีนะคะ” บอกเสร็จเธอก็ล้มตัวนอนพยายามหลับตาก่อนจะหลับไปในที่สุดด้วยความเพลีย
โดยไม่รู้เลยว่าดวงตาที่หลับสนิทของชายหนุ่มบนเตียงเมื่อกี้ค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ ชนวีร์แสยะยิ้มมุมปากเหมือนวายร้ายในตัวละครไม่มีผิด ดวงตาของเขาเต็มไปความเย้ยหยัน
..นี่แค่แผนการเล็กน้อยเท่านั้น เขาจะทำให้เธอเหมือนเจ้าหญิงที่อยู่ในปราสาททองก่อนจะผลักให้เธอลงมาสู่โคลนตมอย่างไม่ปรานีเชียวละ!
วันต่อมา
จอมขวัญตื่นแต่เช้า เธอเอามืออังหน้าผากชนวีร์ ระดับความร้อนลดลงแล้วแต่ยังตัวรุมๆ อยู่ เธอลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วซื้ออาหารเช้ามาให้เขาโดยไม่ได้แวะไปที่สวนสาธารณะเพื่อออกกำลังกายเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
กลับเข้ามาภายในห้องยังคงเห็นร่างสูงนอนเหยียดตัวยาวอยู่บนเตียงเธอเดินเข้าไปเอามืออังหน้าผากเขาดูอีกครั้งและแปลกที่ตัวกลับร้อนขึ้นมากกว่าเดิมอีก จอมขวัญตกใจวางของไว้บนโต๊ะอาหารเข้าไปภายในห้องน้ำเพื่อเอากะละมังขนาดเล็กและผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้เขา
“ไม่เอา” ผลักมือเธอออกแล้วตะแคงตัวไปอีกทางทันที
“ถ้าไม่เช็ดตัวจะร้อนมากกว่านี้นะคะ” พยายามกล่อมเขาแต่ดูจะไม่นำพาเพราะอีกฝ่ายไม่พูดจาอะไรเลย ไม่ตอบรับเธอสักนิด
“คุณวีร์คะ” จอมขวัญจับแขนเขากลับแปลกที่ดูเหมือนว่าแขนเขาจะไม่ร้อนสักเท่าไหร่ เธอเอามืออังหน้าผากมันกลับร้อนจนรู้สึกแปลกใจ
“อื้อ” ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวเขาหันหน้ากลับมาแล้วรวบเอวบางเข้ามากอดทันทีจนเธอไม่ทันจะได้ตั้งตัว
“นอนด้วยกันนะ” น้ำเสียงออดอ้อนนั้นทำเอาใจเธอสั่นไหว อยากจะผลักใสแต่ใจกลับค้าน ความคลางแคลงใจเมื่อครู่ดูเหมือนจะมลายไปสิ้น
“ไม่ได้นะคะ”
“ฉันไม่อยากนอนคนเดียว” เอ่ยเสียงอู้อี้ก่อนจะกระชับกอดเอวบางแน่นขึ้น เขาเอาหัวมาหนุนที่ตักเธอแทนหมอน
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ มองหน้าคมสันที่สองตาหลับพริ้มแต่ยังคงน่ามอง
“นอนด้วยกันนะ”
น้ำเสียงของเขาที่ทำเอาใจเธอแทบละลายนั้น ทลายกำแพงที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากเขาให้ทลายลงไป
จอมขวัญกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะตัดสินใจขึ้นไปนอนเคียงข้างเขาในที่สุด
ชนวีร์ลืมตาขึ้นมายิ้มมุมปากให้เธอก่อนจะกอดกระชับร่างบางเข้าหาตนเอง ลมหายใจร้อนเป่ารดศีรษะของหล่อนจนใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
ในอ้อมกอดแข็งแรงนี้ช่างอบอุ่นยิ่งนัก เธอเฝ้ารอคอยมาแสนนานว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นระหว่างเธอกับเขา มันอาจจะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวแต่ว่าเธอรักเขา อยากให้เขากอด เป็นที่รักของเขา ซึ่งตอนนั้นเธอก็ได้เพียงแค่คิดต่างจากตอนนี้ยิ่งนัก ใบหน้าหวานอมยิ้มก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ต่างจากชนวีร์ที่ตายังคงลืมอยู่ แววตานิ่งลึกที่ไม่อาจคาดเดาก่อนที่เขาจะหลับตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกคน
จอมขวัญตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเที่ยง ร่างบางพยายามเอามือของชนวีร์ออกก่อนจะลุกขึ้นไปอุ่นอาหารแล้วล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำแต่งตัวออกมาจัดสำรับกับข้าวโดยไม่ลืมเก็บของให้เข้าที่ แม้ตอนนี้ร่างสูงยังคงหลับสนิทแต่เขาก็มีอาการดีขึ้นมากแล้วเพราะตัวไม่ร้อนเท่าเมื่อเช้า จนเธอเบาใจได้ว่าเขาคงจะหาย ร่างบางสำรวจดูที่บริเวณศีรษะก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรแล้วแต่เธอก็ดึงพลาสเตอร์ออกพยายามเบามือที่สุด
“ตื่นแล้วเหรอคะ” จอมขวัญถาม อีกฝ่ายรู้สึกตัวจอมขวัญจึงเอามือออกมา
ร่างสูงชันตัวขึ้นนั่งมองไปรอบห้องอีกครั้ง
“ฉันมานอนห้องเธอเหรอ” ดูเหมือนจะหายป่วยแล้วเพราะอาการเขาตอนนี้แทบจะเป็นปกติทุกอย่าง ชนวีร์มองสำรวจตัวเอง เมื่อพบว่าทั้งตัวมีแค่เสื้อยืดและผ้าเช็ดตัวพันบริเวณด้านล่างเท่านั้นเอง
“ชุดของคุณฉันเอาไปซักแห้งให้แล้วนะคะ ถ้าดีขึ้นแล้วก็อาบน้ำแล้วมากินข้าวเถอะค่ะ” เห็นเขาสำรวจร่างกายตัวเองแล้วจึงบอกขึ้น
“โอ๊ย!” มือหนาจับที่ศีรษะตัวเองจนร่างบางต้องรีบเข้าไปดู ใบหน้าเรียบนิ่งแสดงความเจ็บออกมา
“ทำแผลใหม่อีกไหมคะ” ไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน จอมขวัญจึงเอาอุปกรณ์ทำแผลมาทำให้เขาใหม่อีกรอบ โดยที่มีสายตาคมมองอยู่ตลอดเวลาจนเธอมือสั่นทำอะไรแทบไม่ถูก เมื่อทำเสร็จก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก “คุณวีร์เข้าไปอาบน้ำเถอะค่ะ จะได้มากินข้าว”
เขาพูดง่ายเมื่อหล่อนพูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าตัวเองที่วางไว้ตรงชั้นวางเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำทันที รอเพียงไม่นานร่างสูงก็ออกมาด้วยชุดเมื่อวานนี้
จอมขวัญเรียกให้เขามานั่งกินข้าวที่โต๊ะขนาดพอดีมีเก้าอี้สองตัว
“ทำไมคุณถึงเจ็บตัวคะ ไปทำอะไรมา” เริ่มลงมือรับประทานอาหาร จอมขวัญก็ถามขึ้น
“ฉันขับรถไปแล้วมีคนวิ่งตัดหน้ารถเสียหลักนิดหน่อย ขับรถกลับบ้านไม่ไหวเลยมาหาเธอที่ห้อง ไม่รู้จะให้ใครช่วยแถมตอนนั้นฝนก็ตก เลือดก็ไหล ฉันเลยอ่อนแอไปหน่อย” น้ำเสียงอ่อนนั้นเหมือนอ้อนอยู่ในที
จอมขวัญพยักหน้าเข้าใจกับสิ่งที่เขาพูด
“ขวัญแค่ตกใจน่ะค่ะ นึกว่าโจรขึ้นมาเสียอีก”
“ฉันก็เป็นโจรนะ”
ร่างบางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามก่อนที่ชายหนุ่มจะยักคิ้วให้เธอ
“โจรขโมยหัวใจน่ะ”
คำตอบนั้นทำเอาหล่อนไปไม่เป็น จอมขวัญก้มหน้ากินข้าวด้วยใบหน้าแดงซ่าน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะไม่คิดว่าเขาจะรุกเธอได้รวดเร็วแบบนี้
“ฉันจะออกไปทางหน้าต่าง เจอกันข้างล่างนะ ไปทำงานพร้อมกัน” ที่จริงวันนี้เธอคิดว่าจะลา
“แต่ขวัญว่าจะลา”
“ไม่อนุญาต ออกไปพร้อมกัน เปลี่ยนชุดซะ ฉันจะลงไปรอข้างล่าง” กินข้าวเสร็จเขาก็บังคับเธอแล้วออกไปทางระเบียงโดยที่มีจอมขวัญลุ้นช่วยให้เขาหลบไปได้
เมื่อชนวีร์ถึงข้างล่างเธอก็รีบเปลี่ยนชุดแต่งหน้านิดหน่อยแล้วลงไปหาเขาที่รถด้านล่างทันที
..ทำไมเธอไม่สังเกตเห็นรถของเขาเลยนะ
“ไปกันเถอะ”
สองคนนั่งรถออกไปด้วยกันโดยไม่รู้เลยว่ามีพนักงานของบริษัทที่ออกมาทำธุระแถวนั้นเห็นพอดี และสองสาวก็ถึงกับควักโทรศัพท์ออกมาเก็บภาพเมื่อจอมขวัญขึ้นรถไปกับท่านประธานไว้ได้ด้วย เรื่องนี้มีให้คุยต่ออีกยาวแน่โดยที่จอมขวัญไม่รู้เลยว่าชื่อเสียงของเธอเสียไปแล้ว