๒ แสนดี (๒)
จอมขวัญมองตามเสียงเรียกก็อึ้งเมื่อเจอกับรุ่นน้องที่เธอสนิทด้วยเพราะไปหาทรายทิพย์ที่บ้านเป็นประจำ บุษบามินตรานั่นเอง เมื่อก่อนเธอสนิทกับหญิงสาวมากเพราะบุษบามินตราเป็นคนร่าเริงอัธยาศัยดีทำให้เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ยกเว้นเสียแต่ทรายทิพย์เท่านั้นที่ดูเหมือนจะเข้ากับน้องคนนี้ไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ในความคิดของจอมขวัญ
“มิน” เธอกำลังจะเอาเอกสารมาให้ท่านประธานใหญ่เซ็นแม้จะกลัวแต่ก็ต้องมาเพราะหน้าที่
“ไม่คิดว่าจะเจอพี่ขวัญที่นี่ พี่ขวัญสบายดีไหมคะ” ร่างบางเดินตรงมาหาจอมขวัญด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตามปกติ
“พี่สบายดีค่ะ พอดีว่าพี่ได้งานที่นี่”
คำตอบของจอมขวัญก็สร้างความฉงนให้เธอไม่น้อยเพราะเมื่อย้อนไปสามปีก่อนพี่ชายของเธอเกลียดจอมขวัญมากเสียด้วยซ้ำไป
งานศพของทรายทิพย์
จอมขวัญเดินเข้ามาภายในศาลาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยเพราะเสียเพื่อนรักไป บริเวณศาลาเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่มาเคารพศพของผู้ตายเพราะรู้จักกับบิดาของชนวีร์ เพื่อนของชนวีร์ และเพื่อนของทรายทิพย์ทุกคนล้วนอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ
ร่างบางเดินเข้ามาโดยมีสายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่เธอ เพราะเมื่อไม่นานชนวีร์แจ้งความจับจอมขวัญเรื่องที่เธอวางยาทรายทิพย์ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมขึ้นศาลเพื่อไต่สวนความผิด
“ออกไป!! ใครให้เธอเข้ามา!” เมื่อหันมาเห็นผู้หญิงคนนี้ ชนวีร์ก็ตวาดไล่เธอไปอย่างใจร้ายโดยไม่คำนึงถึงเรื่องใดทั้งสิ้น ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจร้ายที่มาพรากคนที่เขารักให้จากไป
“ขวัญขอเคารพศพทรายได้ไหมคะ” ร่างบางถามเสียงสั่นน้ำตาไหลออกมาเมื่อมองความเกรี้ยวกราดของผู้ชายตรงหน้าเธอ ยิ่งมองยิ่งเจ็บปวดที่หัวใจ
“ไม่! เธอมันฆาตกร เธอฆ่าทรายฉันจะเอาเธอเข้าคุกให้ได้”
“ขวัญไม่ใช่ ไม่ได้ทำ ฮึก” ร่างนั้นดูเปราะบางราวกับจะแตกหักได้ ทุกเมื่อ
เธอสะอื้นตัวโยนแต่เขากลับไม่สงสารสักนิด ร่างสูงเกือบจะกระโจนไปหาเมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธ โชคดีที่เพื่อนของเขามาจับไว้ได้เสียก่อน บิดาของชนวีร์ก็เข้ามาบอกให้ลูกชายสงบสติอารมณ์
“พี่ขวัญคะ เดี๋ยวค่อยมาใหม่นะ ถ้าพี่วีร์กลับมินจะโทรหานะคะ” สาวน้อย เดินเข้ามาบอกกับจอมขวัญ เธอร้องไห้ก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินออกไปกับบุษบามินตราที่ประคองเธออยู่ด้วยความสงสาร
“มินขอโทษแทนพี่วีร์ด้วยนะคะ และมินเชื่อใจพี่ขวัญว่าไม่ได้ทำอะไรพี่ทรายแน่นอน สู้ให้ถึงที่สุดนะคะพี่สาวของมิน” เธอสวมกอดเพื่อนรักของพี่สาวและผละออกมา เดินขึ้นไปบนศาลา
จอมขวัญนั่งร้องไห้อยู่ที่ใต้ต้นไม้ข้างศาลา เสียงสะอื้นที่อ่อนแรงทำให้คนมาใหม่สงสาร
“ขวัญ กลับกันเถอะ” ปนิธินั่นเอง
จอมขวัญเงยหน้ามองเขาแล้วลุกขึ้นโดยมีชายหนุ่มประคองอยู่ เธอจะกลับมาหาเพื่อนอีกครั้งแน่นอน
‘ทรายจ๋า ขวัญขอโทษนะที่คงทำตามคำขอของทรายไม่ได้ เขาเกลียดขวัญเหลือเกิน’ จอมขวัญเดินไปกับปนิธิโดยไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังของเธอมีสายตาอาฆาตจ้องมองอยู่
..จากนี้ไปเธอจะไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขแน่จอมขวัญ
วันเวลาผ่านไปจอมขวัญถูกศาลตัดสินว่าไม่ผิดเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ชนวีร์นิ่งเงียบ เขาไม่ได้โวยวายอย่างที่คิดแต่เดินออกไปหลังจากนั้นทันที ชายหนุ่มไปหาทรายทิพย์ที่วัดและนั่งลงร้องไห้ต่อหน้าหลุมศพของเธอ
“พี่ขอโทษที่เอาคนผิดมาลงโทษไม่ได้ ยกโทษให้พี่นะครับคนดี” เขานั่งคุยกับทรายทิพย์มองรูปเธอที่ส่งยิ้มมาให้เขาแล้วพลันน้ำตาก็ไหลลงมา
..เธอจากเขาเร็วเกินไป งานแต่งที่คิดไว้ก็ล่มไม่เป็นท่าเพราะเจ้าสาวต้องลาจากไปในที่ที่แสนไกล
“แต่พี่สัญญาว่าจะไม่ปล่อยเขาไปแน่นอน หลับให้สบายนะครับ”
มองดูนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเขาอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วจึงลุกขึ้นเดินไปที่รถขับกลับบ้าน
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะทำให้กิจการของเขารุ่งเรืองและเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะเอาโทษกับผู้หญิงคนนั้นเอง
และเมื่อกลับมาถึงบ้านชนวีร์ก็เข้าไปยังห้องของทรายทิพย์ ชายหนุ่มดูรอบห้องก่อนจะนั่งลงบนเตียง มือหน้าเอื้อมไปลูบหมอนใบเดิมที่หญิงสาวนอนอยู่ประจำ กลิ่นของเธอจางหายไปพร้อมกาลเวลา เมื่อไม่มีคนอยู่แต่เขากลับรับรู้ได้ถึงตัวตนของเธอที่อยู่รอบห้อง
‘พี่วีร์คะ ทรายถักเสื้อตัวใหม่ให้พี่วีร์ด้วย ลองใส่ดูสิคะ’
เขาหันไปมองยังหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะรำลึกไปถึงครั้งก่อน เธอถักเสื้อสเวตเตอร์ให้ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศ
‘พี่วีร์! ทำไมไม่อาบน้ำก่อนคะ มานอนบนเตียงคนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเหม็นได้ยังไง’ มือน้อยจับมือเขาแล้วพยายามดึงขึ้นมาจากเตียงของเธอ แต่เพราะแรงอันน้อยนิดทำให้ดึงเขาไม่ขึ้น ชายหนุ่มจึงได้โอกาสดึงร่างบางลงมาบนเตียงแล้วกอดทันที
‘พี่วีร์! ปล่อยทรายนะ’
‘ฮือ ไม่เอาหรอก กำลังสบายเลย’
ชนวีร์เอามือลูบที่นอนเมื่อคิดถึงวันเวลาในอดีตที่ผ่านมา
..ความทรงจำของเขาและทรายทิพย์จะฝังอยู่ในหัวใจของเขาตลอดไปแม้ใครอีกคนจะจากไปในที่แสนไกลแล้วก็ตาม
ชายหนุ่มมองไปยังโต๊ะเครื่องแป้งเมื่อเห็นความผิดปกติ เขาจำได้ว่าเมื่อเช้าที่เข้ามาดูโต๊ะเครื่องแป้งปิดสนิทแต่ดูเหมือนตอนนี้ที่ลิ้นชักนั้นกลับเปิดแง้มออกมา
เขาเดินไปเปิดดูก็พบกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือราวกับคนไร้เรี่ยวแรง ชายหนุ่มมือสั่นเมื่อได้อ่านข้อความข้างในนั้น
“ทรายจะรักพี่วีร์ ตลอดไป...”
เขาร้องไห้ออกมาทันที ตอนที่เขียนคนรักของเขาคงจะทรมานมาก
“ทราย กลับมาได้ไหม ฮึก กลับมาหาพี่ได้ไหม พี่คิดถึงทราย” ร่างสูง ทรุดลงกับพื้นกอดกระดาษแผ่นนั้นร้องไห้ออกมา น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่ค่อยไหลแต่ตอนนี้กลับไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เขาเก็บน้ำตาไว้ตลอดแต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว
..คิดถึงเหลือเกิน
“เพราะเธอ!” เขามองไปยังรูปของทรายทิพย์ที่ถ่ายกับจอมขวัญก่อนจะอาฆาต เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียวที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้
“ดีจังเลยค่ะพี่ขวัญ ตอนนี้พี่ขวัญว่างไหมคะ”
จอมขวัญยิ้มให้แล้วส่ายหน้าทันที
“พี่ต้องเอาเอกสารไปให้คุณชนวีร์เซ็นค่ะ”
“พี่วีร์ไม่อยู่ค่ะ ออกไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอก ถ้ายังไงพี่ขวัญไปเดินเล่นกับมินก่อนได้ไหมคะ รับรองไม่โดนด่าแน่ เดี๋ยวมินจะคุ้มครองพี่เอง”
เธอยังลังเลอยู่แต่เพราะบุษบามินตราที่ทำหน้าอ้อนทำให้หญิงสาวไม่อาจจะปฏิเสธได้ จอมขวัญพยักหน้า
“ดีจังเลย ถ้าอย่างนั้นเอาแฟ้มมานี่ค่ะ” หยิบแฟ้มมาจากมือของจอมขวัญได้ น้องสาวตัวแสบก็นำเอาไปให้เลขาพร้อมกับกำชับนิดหน่อย เธอจึงเดินจูงจอมขวัญไปยังแคนทีนเพื่อรับประทานอาหาร
“น้องมินกินได้นะคะ” เมื่อถึงยังแคนทีนจอมขวัญก็อดจะหันมาถามไม่ได้
บุษบามินตราถอนหายใจแล้วย้ำหนักแน่นกับพี่สาว
“กินได้แน่นอนค่ะ พี่ขวัญเห็นมินเป็นเอเลี่ยนเหรอคะถึงกินอาหารพวกนี้ไม่ได้” ว่าแล้วก็จูงพี่สาวคนสนิทไปยังร้านอาหารแล้วสั่งมาทันที
“มื้อนี้มินเลี้ยงเองค่ะ”
เพราะปฏิเสธไม่ได้จอมขวัญจึงพยักหน้ารับแล้วเดินถืออาหารไปหาที่นั่งพร้อมบุษบามินตรา และระหว่างทางนั้นเองที่ทำให้เธอสงสัยเพราะคนในแคนทีนล้วนมองเธอแล้วหันไปซุบซิบกัน
“ต้องลองชิมแล้วละคะ ว่าจะอร่อยหรือเปล่า”
“อร่อยแน่นอนค่ะ”
สองสาวลงมือรับประทานอาหารเที่ยงโดยที่จอมขวัญก็ยังมีเรื่องข้องใจอยู่ เพราะมองโดยรอบคนก็แอบซุบซิบก่อนจะมองมาที่เธอ เกิดอะไรขึ้น แม้จะสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป เธอกินอาหารกับบุษบามินตราจนหมดจานแล้วจึงเดินมาส่งรุ่นน้องที่ข้างล่าง
“แล้วเจอกันนะคะพี่ขวัญ อ้อ ฝากดูแลพี่ชายมินด้วยนะ อย่าให้มีผู้หญิงมาเกาะแกะนะคะ ไปแล้วนะ”
รอยยิ้มหวานที่ได้รับทำให้จอมขวัญยิ้มตอบ น้องคนนี้ยังสดใสและร่าเริงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เธอเดินไปที่ลิฟต์ขึ้นชั้นทำงานของเธอ
“ดูสิ ตีสนิทกับคุณมินแล้ว ฉันว่านะกะจ้องประธานแน่ๆ เลย” สองสาวประชาสัมพันธ์หันไปพูดคุยกันเมื่อเห็นจอมขวัญและบุษบามินตราอยู่ด้วยกัน
“ใช่ ผู้หญิงไร้ยางอาย พวกร่าน แรดไปทั่วก็อย่างนี้แหละ”
“มีอะไรเหรอ” และก็มีคนมาถามเมื่อเห็นว่ามีข่าวใหม่และแน่นอนว่าสองสาวไม่ปฏิเสธที่จะเล่า แถมยังใส่สีตีไข่ให้เรื่องราวมีรสชาติเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
การกระจายข่าวครั้งนี้ยิ่งสร้างให้คนเกลียดจอมขวัญมากยิ่งขึ้นไปอีกทั้งๆ ที่แทบจะไม่รู้จักเธอดีด้วยซ้ำ
เวลาบ่าย จอมขวัญได้รับโทรศัพท์ให้ขึ้นไปหาท่านประธาน แม้ใจจะกลัวมากแต่ก็ต้องไปตามคำสั่ง ใจหญิงสาวเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดว่าต้องไปพบเขา ความดีใจก็มีแต่ความกลัวมีมากกว่า เธอกลัวจะทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอเขา
จอมขวัญยิ้มให้วิไลที่อยู่หน้าห้อง เธอเคาะประตูสักพักก่อนจะเปิดเข้าไป
“เชิญนั่ง” เขาพูดโดยไม่เงยหน้ามามองเธอเพราะกำลังก้มตรวจเอกสารที่ได้รับมาอยู่นั่นเอง
ชายหนุ่มดูเคร่งเครียดแต่ก็ไม่เท่าจอมขวัญที่ดูจะเครียดกว่าหลายเท่าตัว มือสวยเต็มไปด้วยเหงื่อ
“ทำไมไม่รอเอาเอกสารมาให้ตอนที่ผมอยู่” ปิดแฟ้มเอกสารแล้วถามขึ้น
“คือว่าฉัน”
“หรือว่าจะใช้สิทธิพิเศษว่ารู้จักกับน้องสาวของฉันอย่างนั้นหรือ” ร่างสูงรุกต่อทันที เขาไม่มีแววคุกคามแต่น้ำเสียงนั้นก็บีบคั้นให้ตอบ
“เปล่าค่ะ ฉันผิดเอง ขอโทษด้วยนะคะ” ร่างบางยกมือไหว้ทันทีก่อนที่จะเอามือมาประสานกันที่หน้าตักอีกครั้ง
ชนวีร์ไม่พูดอะไรอีกเขาแค่เอาแฟ้มงานให้เธอเท่านั้น
“เอาแฟ้มกลับไป แล้วก็ตรวจสอบบัญชีดูให้ดี มันมีจุดเล็กน้อยที่ผิดฉันมาร์กไว้ให้แล้ว กลับไปแก้แล้วค่อยเอามาส่งฉัน เชิญ” พูดจบเขาก็ก้มหน้าตรวจเอกสารต่อทันที
จอมขวัญมองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ แต่เธอก็ค้อมศีรษะแล้วเดินออกไปจากห้อง แปลกมากที่ดูท่าทีว่าเขาจะไม่ได้โกรธเคืองเธอ แปลกเกินไปแต่จอมขวัญก็รู้สึกดีใจที่ท่าทีของเขาเปลี่ยนแม้จะไม่มากแต่ก็ไม่รุกรานเธอ
เมื่อถึงยังแผนกจอมขวัญก็อ่านดูรายละเอียดอีกครั้ง เธอแก้ไขจุดที่เขาวงกลมไว้ให้แล้วปริ๊นต์เพื่อเอาเข้าแฟ้มใหม่แล้วเอาไปส่งเขาที่ห้องทำงาน
“เสร็จแล้วหรือ ทำงานเร็วดีนี่” ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นจากกองเอกสาร
จอมขวัญตอบรับแล้วเอาแฟ้มให้เขาทันที ชนวีร์เปิดดูก่อนจะเซ็นลงไปโดยไม่ได้อ่านให้มากความอีก
“ขอบคุณค่ะ”
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับเพราะมีโทรศัพท์เข้ามาเสียก่อน เขาแค่พยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินไปคุยโทรศัพท์ที่ริมหน้าต่าง เมื่อประตูห้องทำงานถูกปิดดีแล้วชนวีร์จึงตอบรับน้องสาวที่โทรมา
“ว่าไงนะมิน”
“พี่วีร์คิดจะทำอะไรคะ ทำไมถึงรับพี่ขวัญเข้ามาในบริษัท” ตรงประเด็นและไม่อ้อมค้อมสักนิด
“ไม่มีอะไร ก็แค่บริษัทขาดคน” ร่างสูงตอบเลี่ยงไปตาเรียวมองบรรยากาศรอบๆ ที่ตอนนี้มืดครึ้มราวกับฝนกำลังจะตก
“มินไม่เชื่อ แต่ก็เอาเถอะค่ะถามไปพี่วีร์ก็ไม่ตอบมินหรอก พี่วีร์คะ มิน ขอร้องได้ไหมอย่าทำอะไรพี่ขวัญเลยนะ”
“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เรากล่าวหาพี่เหรอ”
“เฮ้อ เปล่าค่ะ ในตอนนี้อาจจะไม่ อนาคตสิไม่แน่ วันนี้กลับมากินข้าวบ้านด้วยนะคะ มินจะรอ” สายถูกตัดไปโดยที่เขาไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
..น้องสาวคนนี้ของเขามักจะเป็นแบบนี้เสมอ
“มันก็สมควรกับสิ่งที่เขาทำกับพี่สาวของเราแล้วไม่ใช่เหรอมิน” ชายหนุ่มพูดแผ่วเบาก่อนที่เขาจะหันกลับมาทำงานต่อไป
เรื่องราวครั้งนี้มันจะเป็นสิ่งที่เธอต้องจดจำไปตลอดชีวิตแน่นอน จอมขวัญ..