ตอนที่ 3
คำถามที่ตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมทำให้เขายิ้มน้อย ๆ ออกมาอย่างพึงพอใจ เมื่อก้าวตรงเข้ามาหาเธอแล้วทำท่าจะเลื่อนเก้าอี้ออกเพื่อนั่ง แต่เธอกลับลุกขึ้นแล้วเก็บเอกสารทุกอย่างมากอดไว้ ทำให้เขาต้องลอบผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อรับรู้ว่าเธอไม่ใส่ใจที่จะเสวนากับเขามากนัก
“คุณถามขึ้นมาลอย ๆ หรือว่าถามจริง ๆ ล่ะครับ..”
เธอช้อนสายตามองลึกเข้าไปในดวงตาคมกล้าที่ทอดมองอย่างค้นคว้า ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอไหวสะท้าน เกิดอาการเหมือนคนเริ่มจับไข้ขึ้นมา เมื่อมองเห็นสายตาคมของเขาโลมเลียไปทั่วดวงหน้าที่เนียนกริบแล้วไล่มองไปตามเรือนกายงามในชุดสูททำงานที่เป็นกางเกงสีขรึม แทนที่จะเป็นกระโปรงเหมือนผู้หญิงอื่น
“ถามจริง ๆ ค่ะ..”
“แล้วต้องการคำตอบหรือเปล่าครับ..”
เธอมองหน้าเขาอีกครั้งก่อนจะก้าวเท้าหมายจะเดินจากไป หากแต่เขากลับก้าวไปขวางหน้าพร้อมกับทอดสายตามองเครื่องหน้าที่งดงามของเธอนิ่งทำให้เธอจำต้องหยุดแล้วมองสบตาคมของเขาอีกครั้งด้วยหัวใจที่หวั่นไหว
“เดี๋ยวดิฉันจะให้เลขาไปขอรายละเอียดจากคุณอีกครั้ง เพราะตอนนี้ดิฉันมีธุระด่วนค่ะ ขอตัว..”
“แต่ผมต้องการจะตอบคำถามตอนนี้.”
เขาก้าวมาขวางหน้าเธอไว้ทำให้เธอเริ่มไม่พอใจและหวาดหวั่นระคนกัน
“แบบบ้านที่จะชนะการประกวด ต้องเป็นแบบบ้านของคนไทย อยู่ในสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย โล่ง โปร่ง เย็นสบาย เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน หนาวแค่ไม่กี่เดือน หรืออาจจะหนาวไม่กี่วันด้วยซ้ำในหนึ่งปี เพราะฉะนั้น..”
เขาเดินนำหน้าเธอมาที่ประตูทางออกแต่ยังยืนขวางอยู่
“เน้นการออกแบบให้บ้านมีความเย็นและอยู่สบายโดยวิถีทางธรรมชาติ (Passive Cooling) เป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ยอมรับเรื่องการออกแบบ และมีการเตรียมการสำหรับการทำให้เกิดความเย็นด้วยวิธีกลไกและพึ่งพาเทคโนโลยี (Active Cooling) อันสอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน”
เขาหันกลับไปมองหน้าหวานใสของเธอ
“ เพื่อเป็นส่วนประกอบลักษณะผสมผสานกันโดยก่อให้เกิดทางเลือกในการประหยัดพลังงานต่อภาระการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศในบ้านพักอาศัย โดยอย่างน้อยที่สุดให้มีการลดชั่วโมงของการทำงานในส่วนเครื่องปรับอากาศลง”
เขายื่นมือไปที่ประตู
“ ซึ่งวิธีการที่มุ่งเน้น คือ การออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม ซึ่งรวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร”
เขามองดวงหน้าหวานละไมของเธอนิ่ง
“เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ..”
“ค่ะ..”
“หากสงสัยถามผมได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องให้เลขามาขอรายละเอียด ผมไม่ใช่คนถือตัว..”
เขาพูดจบก็ผลักประตูเดินออกไป โดยแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจเธอนัก แต่ในใจกลับร้อนรุ่มและสั่นไหวอย่างมาก ที่ได้อยู่ใกล้เธอ
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเธอมากนักที่พยายามแสดงออกว่าไม่ใส่ใจเขา หากแต่ความเป็นจริงกลับพึงพอใจที่ได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ ทำให้เธอแอบมองตามร่างสูงใหญ่ด้วยความสูงเกือบร้อยเก้าสิบไปจนลับตา
อาภาพิมพ์เริ่มต้นออกแบบ ซึ่งเป็นงานถนัดของเธอ เป็นสิ่งที่เธอรัก จึงทำให้ได้เรียนมาทางด้านนี้ ได้ฝึกฝนจนชำนาญ และเธอเคยชนะการประกวดการออกแบบสวนสาธารณะในเมืองที่เธอไปเรียนอยู่มาแล้ว
เธอหยิบดินสอมาจรดลงบนแผ่นกระดาษแทนการใช้คอมพิวเตอร์ ร่างเส้นบาง ๆ ให้รู้ว่าเป็นส่วนใด ของบ้าน จนพอจะมองออกอย่างคร่าว ๆ จากนั้นก็ลงรายละเอียดที่สำคัญไปอีกนิด ก่อนจะวางเค้าโครงไปยังทัศนียภาพภายนอกบ้าน
เน้นการระบายอากาศ และเริ่มต้นการใช้วัสดุในการก่อสร้างและฉนวนกันความร้อน แยกส่วนต่าง ๆ ที่เป็นบริเวณที่ใช้เครื่องปรับอากาศและในส่วนที่ไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศ ออกแบบสวนหย่อมอีกทั้งระบุต้นไม้ที่จะให้ร่มเงาเพื่อป้องกันแสงแดดที่จะผ่านเข้าไปในบ้าน
เธอร่างเค้าโครงของบ้านทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยวที่มีเนื้อที่มาก บ้านเดี่ยวที่มีเนื้อที่น้อย รวมไปถึงทาวเฮาส์ และคอนโดมิเนียม
อาภาพิมพ์เงยหน้าจากแผ่นกระดาษแผ่นที่สิบกว่าขึ้นมา แล้ววางทุกอย่างลงบนโต๊ะ ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้นวมตัวใหญ่พลางหลับตาลงเบา ๆ และใช้หัวแม่มือคลึงบริเวณหัวคิ้วทั้งสองข้างไล่ไปตามคิ้วแล้วหยุดคลึงที่ขมับ เพื่อไล่ความเหนื่อยล้า หลังจากการที่ใช้ทั้งสายตาและสมอง
“โทรศัพท์สายนอกจากคุณเรืองนิตย์ค่ะ..”
“ขอบใจจ้ะ..”
เธอกดรับสัญญาณจากเลขาก่อนจะรับโทรศัพท์
“มีอะไรจ๊ะนิต..”