บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 คัมภีร์กระบี่สวรรค์[2]

ความกระอักกระอวนใจของหลี่ถงเยี่ย ชิงหลิงหาได้รับรู้ นางไม่กล้าแม้แต่จะออกเสียง เพียงต้องการไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

หญิงสาวเบี่ยงตัวหลบคุณชายเบื้องหน้า เร่งสาวเท้ามุ่งตรงไปยังประตูใหญ่โดยไม่คิดจะเอ่ยวาจา ไม่สนแม้กระทั่งต้องตกอยู่ในสายตาผู้คน น้ำตาหลั่งไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว 

"หลิงเอ๋อ เดี๋ยวก่อน"

ฝีเท้าของชิงหลิงออกวิ่งทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกจากทางด้านหลัง แต่สตรีที่ต้องแบกตะกร้าทารก ทั้งยังเจ็บสองเต้าไหนเลยจะเคลื่อนไหวได้ไวเท่าชายหนุ่มปราดเปรียว

หลี่ถงเยี่ยรีบขึ้นมายืนขวางหน้าร่างบอบบางเอาไว้ด้วยความรีบร้อน ทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาผู้คนไปโดยปริยาย ใบหน้าหล่อเหลาออกอาการตะลึงเล็กน้อยที่เห็นน้ำตาของนาง

"ท่านอ๋อง ท่านลุง พี่เขย และทุกท่าน พวกเราสมควรออกเดินทางกันได้แล้วกระมังขอรับ หากชักช้าเดี๋ยวพวกสัตว์บนเขาจะกินอิ่มแล้วเข้านอนกันหมด"

หว่านหัวอันไม่อยากให้สหายต้องขายหน้าผู้คน จึงรีบดึงความสนใจ และก็นับว่าคุณชายผู้นี้ทำได้ดี เพราะหลังจากที่เขาเอ่ยจบ เสียงหัวเราะเฮฮาก็กลับมาดังเดิม ทั้งขบวนเริ่มขึ้นม้าควบออกไปทีละกลุ่ม 

"โกรธข้าหรือ?"

ชิงหลิงได้แต่ส่ายหน้า นางไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ คิดเพียงอยากจะเดินหนี 

"หลิงเอ๋อ ข้าขอโทษ ข้า..แค่ พอดีท่านพ่อกับพี่น้องข้าอยู่ด้วย ก็เลย" ความจริงแล้ว หลี่ถงเยี่ยตามนางมาโดยไม่รู้ตัว แค่เห็นนางไม่พูดอะไร ในใจก็รู้สึกแกว่งอย่างบอกไม่ถูก "อย่าร้องไห้อีกเลย"

ชิงหลิงพึ่งรู้ว่าน้ำตาของตนเองกำลังไหลก็ตอนนี้ รีบยกมือขึ้นเช็ดอย่างรวดเร็ว "คุณชายข้าไม่ได้โกรธท่าน ขอตัวนะเจ้าคะ" 

"ไม่ได้โกรธก็ไปกับข้า" 

"ไปไหนเจ้าคะ" 

หลี่ถงเยี่ยไม่ได้ตอบ แต่มองไปยังสองเต้าอวบอิ่ม เพียงแค่นี้ชิงหลิงก็เข้าใจแล้ว ทั้งสองพากันเดินกลับมาที่ลานกว้าง แต่ไม่นึกว่ายังมีคนที่ยังไม่ได้ไปพร้อมขบวน 

"ท่านพ่อให้ข้ารอไปพร้อมเจ้า"

คุณชายรองตระกูลหลี่นิ่วหน้าเล็กน้อย คล้ายไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก "ข้าไม่ไปแล้ว ท่านไปเถิด"

"อาถงอย่าได้ทำตัวเหลวไหล เจ้าก็รู้ว่างานนี้สำคัญกับตระกูลเรามากแค่ไหน" คุณชายใหญ่ตระกูลหลี่ไม่ได้มองไปที่น้องชาย แต่กลับมองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาดูถูก

ชิงหลิงเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าจะเดินกลับ

"หลิงเอ๋อ เจ้าไปกับข้าก็แล้วกัน"

"คุณชายไปเถิดเจ้าค่ะ ข้าขอตัว"

"ไปกับข้า"

ไม่รอให้นางได้คัดค้าน หลี่ถงเยี่ยก็สั่งบ่าวรับใช้ให้ไปนำรถม้ามา ส่วนคุณชายใหญ่หลี่ก็ไม่คิดห้ามปราม เพราะหากหลี่ถงเยี่ยถูกตำหนิมากเท่าไหร่ นั่นจะยิ่งเป็นผลดีกับเขา

ชิงหลิงถูกพาขึ้นรถม้าออกไปนอกเมือง นางอาศัยช่วงเวลาที่นั่งอยู่บนรถให้นมบุตร ยังดีที่ชายหนุ่มช่วยดูดกินไปบางส่วน จึงบรรเทาความเจ็บไปได้มาก

 "พอเถิดเจ้าค่ะ ข้าดีขึ้นบ้างแล้ว"

"ข้าไม่อยากไปเลย อยากพาเจ้ากลับจวนมากกว่า" หลี่ถงเยี่ยเอ่ยเสียงกระเส่า ทั้งที่ปากมีแต่คราบน้ำนม 

ชิงหลิงเห็นแล้วเกือบจะหลุดยิ้มออกมา รีบยื่นผ้าไปให้อีกฝ่ายเช็ดปาก แต่อีกคนกลับยื่นหน้ามาให้นางเช็ดให้แทน "เจ้าดูเป็นคนไม่ค่อยพูด"

นางได้แต่ยิ้มเล็กน้อย ไม่รู้จะเอ่ยอะไร คิดไปถึงเมื่อก่อน เคยมีคนว่านางพูดมากจนน่ารำคาญ และตั้งแต่บัดนั้นนางก็ไม่พูดมากอีก

รถม้ามาถึงชายป่าติดกับทิวเขา เหลือเพียงคนตระกูลหลี่และหว่านหัวอันที่รออยู่ ส่วนคนอื่นๆ เข้าไปล่าสัตว์กันหมดแล้ว เมื่อหลี่ถงเยี่ยมาถึงพร้อมพี่ชาย จึงถูกบิดาตำหนิอย่างรุนแรง 

ถึงแม้นางจะถูกสั่งให้รอในรถม้า แต่เสียงดุด่าของนายท่านหลี่ ก็ดังพอจะให้นางได้ยิน

"อาถง! เจ้าเป็นคนทำตัวไร้สาระเยี่ยงนี้ตั้งแต่เมื่อใด สตรีดีๆ มีมากมายเหตุใดต้องไปยุ่งกับหญิงชั้นต่ำ ทำให้ทั้งตระกูลขายหน้า!"

"ขออภัยขอรับท่านพ่อ"

"ท่านลุงรีบพากันเข้าไปข้างในเถิด ชักช้าอาจไม่ทันท่านอ๋องนะขอรับ"

หว่านหัวอันรีบเอ่ยปากช่วยสหาย นายท่านหลี่จึงไม่คิดด่าต่อ กระทั่งเสียงฝีเท้าม้าจากไป ชิงหลิงถึงได้หันไปเห็นคันธนู นางรีบคว้ามันลงจากรถม้า แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นแล้ว มีเพียงบ่าวผู้บังคับรถม้า เหลืออยู่คนเดียว

"แม่นางต้องการอันใดหรือไม่ขอรับ คุณชายสั่งให้ข้าคอยดูแลท่าน"

นางได้แต่ส่ายหน้า กลับขึ้นไปหิ้วตะกร้าลูกน้อย พร้อมกับถือคันธนูไปนั่งรอที่โขดหินบนเนินเขา เผื่อหลี่ถงเยี่ยจะกลับมาเอา

ผ่านไปพักใหญ่ ก็ยังไม่เห็นคุณชายหลี่กลับมา มีแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากชายป่า ภาพที่ชิงหลิงเห็นคือคนกลุ่มใหญ่พากันวิ่งออกมาจากชายป่า ด้านหลังมีหมีตัวขนาดมหึมาวิ่งตามมาด้วยท่าทางโหดร้าย

และดูเหมือนมันตั้งใจจะตามคนเพียงคนเดียว หลายคนพยายามให้ความช่วยเหลือชายผู้นั้น ธนูหลายดอกถูกยิงเข้าไปยังตัวหมี แต่กลับยิ่งทำให้มันโกรธเกรี้ยว ไล่ตามชายคนผู้นั้นอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งถึงตัว

ไวเท่าความคิด ชิงหลิงหยิบลูกธนูมาขึ้นสายตามสัญชาตญาณ ด้วยความที่เป็นคนมีพื้นฐานจิตใจดีทั้งยังบริสุทธิ์ นางถึงกับลืมเรื่องของตนเอง 

ระยะห่างระหว่างนางกับหมี มากกว่าสี่ร้อยก้าว ต่อให้ทหารม้าชำนาญการรบ อย่าว่าแต่ยิงให้ถูกเลย แค่จะยิงไปให้ถึงก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

ในขณะที่หมีตัวนั้นกำลังกระโจนใส่ ลูกธนูดอกหนึ่งก็พุ่งตัดขั้วหัวใจของมันอย่างรวดเร็วจนผู้คนมองตามไม่ทัน 

ตึง! แผ่นดินใต้ฝ่าเท้าอวิ้นอ๋องถึงกับสะเทือนเล็กน้อย ทันทีที่หมีร่างยักษ์ล้มลง แต่ชายหนุ่มหาได้สนใจ รีบเหลียวกลับไปมองผู้ที่ช่วยชีวิตตนเอง 

บนเนินเขา สตรีเรือนร่างบอบบางในมือถือคันธนูกำลังกระอักเลือดทรุดตัวลงกับพื้น เฉียนหลางอวิ้นอ๋องไม่สนใจเหล่าองครักษ์ที่เข้ามาดูแล เร่งสาวเท้าขึ้นไปบนเนินด้วยความรีบร้อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel