ตอนที่ 3 พิษกำหนัด[1]
บนรถม้าหรูหรา ชิงหลิงขึ้นมานั่งตัวรีบติดผนัง เพราะเกรงกลิ่นคาวจากเสื้อผ้าจะทำให้อีกคนรังเกียจ แต่นางช่างคิดผิดไปโดยสิ้นเชิง
"หลิงเอ๋อ เหตุใดถึงได้นั่งห่างข้าเช่นนั้น รังเกียจข้าหรือ?"
ชื่อของนางที่ออกมาจากปากคนตรงหน้า ทำให้ชิงหลิงชะงักไปชั่วครู่ จนคนผู้นั้นกระเถิบเข้ามาแนบชิด
"ไฉนทำหน้าตกตะลึงเช่นนั้นเล่า"
"ทะ..ท่านเรียกข้าว่าอันใดนะเจ้าคะ"
"หลิงเอ๋อ ทำไมหรือ? หรือว่าเจ้าไม่ชอบ?"
ชิงหลิงไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแค่ก้มหน้าลงมองลูกน้อยที่หลับอยู่ในตะกร้า ไม่ใช่ว่านางไม่ชอบ เพียงแต่คิดไม่ถึง ว่าคุณชายผู้นี้จะรู้ชื่อของนาง ซ้ำยังเรียกเสียสนิทสนม
"ข้าสืบเรื่องของเจ้ามาหมดแล้ว" หลี่ถงเยี่ยช่วยไขข้อข้องใจให้หญิงสาว
หากว่าไม่รู้ว่านางเป็นใคร จะกล้าหลับนอนกับนางได้อย่างไร เขายังไม่สิ้นไร้ จนถึงขั้นต้องเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน ครั้งนั้นที่ยอมเดินจากมา ก็เพราะเรื่องนี้
ชิงหลิงไม่ได้รับรู้ความคิดของคุณชายหลี่ ในหัวนึกไปถึงชายหนุ่มหญิงสาวที่เจอในหอละคร แววตาเข้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ทั้งสองพูดคุยกันอีกไม่นาน รถม้าก็เข้ามาในหมู่บ้าน ตอนนี้นางเชื่อแล้ว ว่าคนผู้นี้สืบเรื่องของนางมาจริงๆ ถึงขั้นรู้ด้วยซ้ำว่านางอยู่กระท่อมหลังไหน
อยู่ๆ มีรถม้าคันใหญ่พร้อมคุณชายหล่อเหลามาเยือน ผู้คนในหมู่บ้านจึงพากันแตกตื่นไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่จะมาดูเพื่อเอาไปซุบซิบนินทาเสียมากกว่า ถ้าเป็นเด็กสาววัยออกเรือน ก็จะคอยเดินเฉียดเข้ามาใกล้กระท่อมเพื่อหวังให้ชายหนุ่มเห็นหน้า
วัยของชิงหลิง ความจริงก็ไม่ต่างจากเด็กสาวพวกนั้นเท่าไหร่ เพียงแต่นางเป็นแม่หม้ายลูกติด ซ้ำยังมีหน้าตาอัปลักษณ์ จึงไม่มีชาวบ้านคนไหนเชื่อว่าคุณชายร่ำรวยผู้นี้จะมาสนใจนาง ต่างคิดในแง่ร้ายกันไปต่างๆ นานา
"ท่านกลับไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ ชาวบ้านแตกตื่นกันหมดแล้ว"
"พรุ่งนี้เจ้าจะเอาผักไปขายที่หอละครอีกหรือไม่"
"ไปเจ้าค่ะ"
"ข้าจะรอ"
หลังจากที่รถม้าคุณชายหลี่กลับไป เสียงซุบซิบนินทาของชาวบ้านก็ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน บ้างถึงขั้นพูดแขวะเสียงดังก็มี
เดิมทีชาวบ้านแถบนี้ก็นับว่านิสัยดี แต่เพราะก่อนหน้าที่ชิงหลิงจะปรากฏตัว มีหญิงหม้ายทำตัวเหลวแหลก เที่ยวยุ่งกับสามีชาวบ้านไปทั่ว จนถูกขับออกจากหมู่บ้านไป พอเจอชิงหลิงที่เป็นหม้ายเหมือนกันก็เลยพานรังเกียจไปด้วย
"อย่าไปสนใจเลย เข้าบ้านเถิด ข้าคิดถึงเจ้าตัวเล็กจะแย่แล้ว"
เป็นแม่เฒ่าเสียอีก ที่ไม่คิดจะถามนางสักคำว่าใครมาส่ง ตั้งแต่ช่วยนางมาก็เป็นเช่นนี้ ท่านยายดีกับนางและไม่เคยถามเรื่องในอดีตให้นางต้องลำบากใจ
ค่ำคืนมาเยือน ทั้งหมู่บ้านตกอยู่ในความมืดมิด
"จะออกไปอีกแล้วหรือ?" เสียงแก่ชราดังขึ้นท่ามกลางความมืด ทำให้ร่างบอบบางในชุดดำทะมัดทะแมงที่กำลังผูกห่อผ้าไว้แนบอกชะงักไปเล็กน้อย
"ท่านยายยังไม่นอนหรือเจ้าคะ"
"ข้าเป็นห่วงอาจิ่น เจ้าพาเขาไปตากน้ำค้างทุกคืนเช่นนี้ ระวังจะป่วยเอา"
"ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าผูกเปลเอาไว้ให้เขาอย่างดี"
"อาชิง ระวังหน่อย อย่าได้หักโหมมากเกินไป เสร็จแล้วก็รีบกลับมาพักผ่อน"
"เจ้าค่ะท่านยาย"
เงาดำออกจากกระท่อมไปอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง หลังบานประตูปิดลง เสียงถอนหายใจของหญิงชราก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
ฟ้ายังไม่ทันสาง หญิงชราหูตาฝ้าฟางก็ออกมาเก็บผักเหมือนอย่างเคย ผ่านไปครู่ใหญ่ ชิงหลิงถึงได้ลุกมาเข้าครัว
หลังจากกินข้าวกินปลา ป้อนนมบุตรเสร็จเรียบร้อย ร่างบอบบางก็แบกตะกร้าผักออกจากหมู่บ้านเช่นเคย จนกระทั่งก่อนถึงสี่แยกที่จะบรรจบกับเส้นทางใหญ่ ชิงหลิงก็เจอเข้ากับชายสามคนที่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน
"พวกท่านมาขวางข้าทำไมหรือเจ้าคะ"
"ไม่เอาน่า อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว นึกว่าพวกข้าไม่รู้รึ ว่าเจ้าขึ้นเตียงกับไอ้คุณชายหน้าอ่อนเมื่อวาน
"ใช่ จะต้องไปหากินไกลทำไมเล่า ในหมู่บ้านก็มีถมไป"
คนทั้งสามมองมาที่ชิงหลิงอย่างหื่นกระหาย ไม่รอให้นางได้ตั้งตัว ก็ย่างสามขุมเข้ามา ยังดีที่มีม้ากลุ่มหนึ่งควบผ่านมาพอดี
ชิงหลิงกำลังจะตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ม้ากลุ่มนั้นกลับหยุดลงเสียก่อน เห็นเช่นนั้น ร่างบอบบางก็ไม่รอช้า รีบเบี่ยงกายเดินหนีชายทั้งสามทันที ชิงหลิงไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ม้ากลุ่มนั้น เพราะเกรงม้าจะตื่นจนเกิดอันตราย
แต่เหมือนว่าคนบนหลังม้าจะรู้ "แม่นาง ไม่ทราบว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่"
นางไม่ได้ตอบ เพียงมองกลับไปยังชายสามคนที่มาจากหมู่บ้าน แต่เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มบนหลังม้าสีดำก็คาดเดาได้แล้ว
"รบกวนแม่นางช่วยนำทางพวกเราเข้าเมืองหงโจวหน่อยได้ไหม ข้าเป็นมือปราบจากเฉียนโจว"
พอได้ยินว่าเป็นพวกมือปราบ ชายทั้งสามก็รีบเดินหนีไปทันที ชิงหลิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก รู้สึกปวดสองเต้าจนอยากจะกรีดร้อง
"แม่นาง?"