ตอนที่ 2 หอละคร[1]
ถึงแม้จะเกิดเรื่องวันนั้นแต่ชิงหลิงก็ยังมาขายผักเช่นเดิม หลายวันผ่านไปจนกระทั่งนางเกือบจะลืม
"อาชิง ข้ารอเจ้าตั้งนาน ไปเร็ว รีบไป"
"ไปไหนเจ้าคะ" ชิงหลิงมาถึงแผงผักยังไม่ทันได้พัก ป้าขายผักร้านข้างๆ ก็รีบมาดึงมือนาง
"วันนี้ที่หอละครจัดงานเลี้ยง เหมาของเกือบหมดตลาด ข้ากลัวเจ้าจะไม่ได้ขาย ก็เลยรออยู่ ไปเถิด อย่าได้ชักช้า เดี๋ยวค่อยคุยกัน"
"เจ้าค่ะ"
หอละคร
"อาหัว นี่เจ้าคบหากับพวกจอมยุทธตั้งแต่เมื่อใด"
"น้ำหน้าอย่างข้า ไหนเลยจะมีชาวยุทธผู้มีคุณธรรมสูงส่งอยากคบหา เจ้ายังจำท่านหญิงเหล่ยกิมฮัวบุตรีซ่านป๋อ ที่เป็นญาติผู้พี่ของข้าได้หรือไม่"
ร่างสูงโปร่งที่ยืนพิงกรอบหน้าต่าง หันกายเดินกลับลงมานั่งที่เบาะรอง ก่อนจะตอบคำถามของสหาย "จำได้ หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้ บุรุษใดจำนางไม่ได้คงสติไม่ดีแล้ว"
"จุ๊ๆ อาถง วันนี้เจ้าห้ามเอ่ยวาจาเช่นนี้เป็นอันขาดเลยนะ นางแต่งงานแล้ว แล้วสามีของนางคือเจ้าสำนักพรรคเมฆาที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในตอนนี้"
"ข้าก็ไม่เห็นอยากจะเอ่ยถึงเลย ก็เจ้าถามข้าเอง" เอ่ยจบ หลี่ถงเยี่ยก็ถือจอกสุรากลับไปยืนพิงกรอบหน้าต่างเช่นเดิม สายตาก็ยังมองไปยังจุดเดิมไม่เปลี่ยน จนหว่านหัวอันต้องส่ายหน้า
ไม่รู้ว่าสหายผู้นี้ของเขาเป็นอะไรกันแน่ เอาแต่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างมาหลายวันแล้ว แต่คุณชายหว่านก็คร้านจะเอ่ยถามให้เสียเวลา เพราะถึงถามไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี
ส่วนคุณชายหลี่ที่พึ่งลุกขึ้นมา สีหน้าดูเหมือนจะหงุดหงิดเล็กน้อย ที่ยังไม่ได้เห็นสิ่งที่กำลังรอคอย
วันนี้หอละครถูกเหมาโดยซ่านป๋อ เพื่อรับรองบุตรเขยที่เป็นจอมยุทธชื่อดัง หอสามชั้นจึงมีผู้คนพลุกพล่านไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าชาวยุทธมีชื่อ หรือเศรษฐีร่ำรวยในเมือง ไปจนถึงขุนนางท้องถิ่นต่างก็เตรียมตัวมาร่วมงาน
โรงครัวด้านหลัง ชิงหลิงยังไม่ทันได้ส่งผัก อยู่ดีๆ บุตรชายที่ไม่เคยร้องงอแงก็ร้องไห้จนตัวโยน ทำเอานางตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก
"อาชิง ไปหามุมอับให้นมลูกก่อนไป เดี๋ยวทางนี้ข้าดูให้เอง กว่าจะถึงพวกเรา เจ้าคงกลับมาทัน"
"เจ้าค่ะ"
ชิงหลิงคิดจะออกประตูข้างกลับไปที่ตรอก แต่พ่อค้าแม่ค้าต่อแถวกันเยอะเกินไป จนเข้าออกแทบไม่ได้ เจ้าตัวเล็กก็ร้องเสียงดังไม่หยุด นางจึงตัดสินใจเข้าไปในหอทางประตูหลัง ที่มีไว้สำหรับนางละครใช้เข้าออก
"ท่านพี่ หอละครที่นี่เป็นของญาติผู้น้องข้าเอง ข้าสั่งให้เตรียมห้องพิเศษไว้ให้พวกเราแล้ว"
"ความจริงท่านพ่อไม่น่าจัดอะไรยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้เลย ข้ารู้สึกเกรงใจ"
เสียงพูดคุยที่ดังลอดมาจากผนังไม้ ทำให้ชิงหลิงยืนแข็งค้าง อุแว้ ๆ เด็กน้อยก็เหมือนจะยิ่งร้องดังกว่าเดิม
"เสียงเด็กที่ไหนร้อง หนวกหูจริง เจ้าให้คนไปบอกหน่อย สถานที่เช่นนี้ ไม่สมควรจะพาเด็กเข้ามา"
"ขอรับท่านหญิง"
ชิงหลิงรีบเปิดอกเสื้อให้บุตรชายดูดนม เท้าก็เร่งก้าวขึ้นบันไดที่ขนานกับคนทั้งสองด้านนอกอย่างลนลาน ด้วยความรีบร้อนอยากหนีจากตรงนั้น ทำให้ชิงหลิงไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วน จนกระทั่งมาถึงชั้นสาม
อ๊ะ!
จู่ๆ ก็ชนกับคนผู้หนึ่งเข้า ยังดีที่ได้วงแขนแกร่งกอดนางและลูกเอาไว้ มิเช่นนั้นคงได้ตกบันไดไปแล้ว และก็เป็นจังหวะเดียวกับ บันไดอีกด้านหนึ่ง มีคนสองคนโผล่ขึ้นมาพอดี
แค่ได้เห็นหน้าตาคนทั้งสอง ชิงหลิงก็ซุกตัวเข้าไปในแผ่นอกของคนตรงหน้าโดยไม่สนว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร หวังเพียงไม่ให้ ชายหนุ่มหญิงสาวที่พึ่งเดินขึ้นมาเห็นนาง
"เห? คุณชายหลี่?" หญิงสาวในชุดกระโปรงสีชมพู เลิกคิ้วมองสหายของญาติผู้น้องด้วยความประหลาดใจ
"ท่านหญิงเหล่ย"
"อ้อ" ดวงตาคู่งามเหลือบมองไปยังสตรีในอ้อมกอดของอีกฝ่าย "ข้าก็นึกว่าเสียงเด็กที่ไหน ยังคิดให้คนไปขับไล่อยู่ ที่แท้ก็”
"ต้องขออภัยท่านหญิง ที่เจ้าตัวเล็กส่งเสียงรบกวน เดี๋ยวพอกินอิ่มก็คร้านจะหลับไม่รู้เรื่องแล้ว"
"ช่างเถิด ข้าไม่ถือสาอะไร"
"ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน เชิญท่านหญิงด้านใน"
"คุณชายหลี่ เชิญ"
ชิงหลิงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้ นางไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง มีเพียงแรงดูดจากเจ้าตัวน้อยเท่านั้นที่ทำให้นางยังมีสติ
หลี่ถงเยี่ยพาร่างในอ้อมแขนเดินหายเข้าไปในห้องพักส่วนตัวโดยไม่คิดจะเอ่ยวาจา กระทั่งประตูถูกปิดลง
"เจ้ามาทำอะไรที่นี่"