บุคคลปริศนา
ณ เมืองเป่ยเจี้ยน
ราตรีเเห่งความมืดมิดเเละความหนาวเย็นของหิมะยังคงอยู่ หลิวม่ออิงได้กลับจากการไปหาของกินมาเเล้ว เเละกำลังจ้องดูถุงหมั่นโถวในมือหวงเฉินฟงด้วยความงงงวย
"เฉินฟง ในมือเจ้าคือ"
หวงเฉินฟงค่อยๆหันหน้ามายังหลิวม่ออิงอย่างช้าๆ
"หมั่นโถวที่พวกเราเเย่งในตอนเย็นไง"
"นั่นจะได้ยังไง เจ้าคงจะไม่บอกว่าเจ้าเเก่อ้วนนั่นเอามาให้เจ้าหรอกนะ" หลิวม่ออิงเกาหัวอย่างมึนงง
"ไม่ใช่เจ้าอ้วนนั่นหรอก เเต่เป็นเด็กผู้หญิงคนนึง"
"เด็กผู้หญิงเหรอ....ยิ่งพูดไปพูดมาข้ายิ่งไม่เข้าใจเเล้ว ช่างเถอะๆ ดูนี่ข้าได้อะไรมา" หลิวม่ออิงหัวเราะร่า พร้อมล้วงมือไปในเเขนเสื้อ กลับหยิบเศษชิ้นเนื้ออะไรซักอย่างขึ้นมาสามสี่ชิ้น
"นั่นคืออะไร เเล้วเจ้าไปเอามาจากไหน"
"เศษอาหารหลังโรงเตี๊ยมเเถบตรอกอู๋จิ้งไง เอ่อข้าไปเเย่งมาจากถาดสุนัขน่ะ" หลิวม่ออิงบอกอย่างเขินๆ
"เเล้วกันจะกินได้ยังไง ข้าคนนึงล่ะที่ไม่กิน" หวงเฉินฟงพูดจากเเดกดัน
"นี่เจ้า"
"เจ้าอะไรไม่ต้องพูดเเล้ว นี่ในมือข้ามีหมั่นโถวลูกนึง พวกเราเเบ่งกันคนละครึ่ง" หวงเฉินฟงพูดพลางหยิบหมั่นโถวในถุงออกมาใบหนึ่งพร้อมทั้งฉีกหมั่นโถวออกเป็นสองส่วน
"งั้นข้าไม่เกรงใจละนะ" หลิวม่ออิงรีบคว้าหมั่นโถวครึ่งลูกยัดเข้าปากเเล้วเคี้ยวอย่างมุมมาม
หวงเฉินฟงเห็นเพื่อนรักกินหมั่นโถวอย่างมีความสุขก็อดยิ้มไม่ได้ ตัวเองก็หยิบหมั่นโถวที่เหลืออีกครึ่งส่งเข้าปากไป ทั้งคู่ต่างนั่งหลังพิงกำเเพงกินหมั่น
โถวเเละเเหงนหน้ามองดูดาวในราตรีที่มืดมิด ทันใดนั่นจู่ๆในห้วงความคิดของหวงเฉินฟงกลับปรากฏภาพดรุณีชุดขาวขึ้นอีกครา
รุ่งอรุณของวันใหม่ได้เริ่มขึ้นเเล้ว
ท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่ปกคลุมไปทั่วทุกเเห่งของเมืองเป่ยเจี้ยน สายลมพัดมาอย่างเเผ่วเบา ปะทะกับชายเสื้อของหวงเฉินฟงกับหลิวม่ออิงที่ยังหลับใหลกันอยู่ ขณะนั้นหลิวม่ออิงเหมือนรู้สึกว่ามีอะไรมาสะกิดที่ต้นขาของเขา จึงงัวเงียลืมตาขึ้นมา พอเห็นภาพเบื้องหน้าหลิวม่ออิงถึงกับสะดุ้งตื่น พร้อมหยาดเหงื่อที่ไหลริน
"เฉินฟง...เฉินฟง" หลิวม่ออิงสะกิดหวงเฉินฟงด้วยเสียงที่สั่นสะท้าน
"เจ้าอย่ามากวนข้า ขอข้าหลับต่ออีกซักหน่อย"
"เจ้าบ้านี่... เจ้าลองลืมตาดูสิ ข้าก็ไม่อยากจะปลุกเจ้าหรอก" หลิวม่ออิงกล่าวย้ำด้วยเสียงสั่นสะท้าน
"หืม.." หวงเฉินฟงพลันงัวเงียลืมตาขึ้น จากนั้นจึงสะดุ้งตื่นเช่นกัน
เพราะว่าเบื้องหน้าพวกเขา รายล้อมด้วยชายฉกรรจ์จำนวน 5-6คน เเต่ละคนหน้าตาถมึงตึงเเละร่างกายกำยำ ดูไปเเล้วก็คือพวกอันธพาลเจ้าถิ่นดีๆนี่เอง
"ไอหนู พวกเจ้ารู้ไหมว่าที่พวกเจ้านอนอยู่มันถิ่นของใคร" ชายฉกรรจ์หน้ามีรอยเเผลเป็นผู้หนึ่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม
"พี่ชาย ใจเย็นก่อนนะ พวกข้าก็ไม่รู้มาก่อนว่าที่เเห่งนี้เป็นที่ของพวกท่าน" หลิวม่ออิงพยายามเจรจาสันติ
"พี่ชาย พวกเรากำลังจะไปเเล้ว ไปกันม่ออิง" หวงเฉินฟงรีบลุกขึ้นพร้อมกับฉุดเเขนหลิวม่ออิงเดินจากไป
"หยุดก่อน" เสียงตวาดดังมาจากด้านหลังของหวงเฉินฟง
"พี่ชาย ท่านยังต้องการอะไรอีกเหรอ" หวงเฉินฟงกลับฝืนยิ้มถามออกไป
"ในเมื่อพวกเจ้ามานอนในถิ่นพวกข้าเเล้ว ก็ต้องจ่ายค่าที่มา" ชายฉกรรจ์หน้าเเผลเป็นพูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง
"คะ...คือ พวกเราไม่มีเงินติดตัวเลยซักเเดงเดียวเลยพี่ชาย" หลิวม่ออิงตอบบ้าง
"ได้ งั้นพวกเจ้าเอาชีวิตมา!!" ชายฉกรรจ์หน้าเเผลเป็นโบกมือเป็นสัณญาณ จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็ได้รายล้อมพวกของหวงเฉินฟงไว้
หวงเฉินฟงกับหลิวม่ออิงกุมมือกันเเนบเเน่น พร้อมหยาดเหงื่อโซมกาย
"เฉินฟง ดูท่าคราวนี้โชคคงจะไม่เข้าข้างพวกเราเเล้วล่ะ" หลิวม่ออิงพลันหลับตาลง
"ม่ออิง ข้าดีใจเสมอที่มีเพื่อนเช่นเจ้า" หวงเฉินฟงพูด พร้อมกับหลับตาเเหงนหน้าขึ้นฟ้า ยอมรับชะตากรรม
"ลุยมันเลยพวกเรา" เสียงออกคำสั่งของชายฉกรรจ์หน้าเเผลเป็นดังกึกก้อง
ชายฉกรรจ์ทั้งหมดนั้นวิ่งกระโจนเหมือนฝูงหมาป่าได้กลิ่นเลือด พุ่งตรงมาหาเด็กหนุ่มที่ไร้หนทางสู้สองคนอย่างน่าสงสาร
หรือว่าเรื่องราวของเราจะจบลงเเต่เพียงเท่านี้.......
อ๊าก อ๊าก อ๊าก
เสียงร้องอันน่าโหยหวน พริบตานั้นเส้นทางเเห่งชีวิตกลับปรากฏขึ้นอีกครา เพราะว่าเสียงร้องเหล่านั้นมาจากกลุ่มชายฉกรรจ์นั่นเอง
เมื่อหวงเฉินฟงเเละหลิวม่ออิงพลันลืมตาขึ้นอีกครา กลับพบว่า พวกชายฉกรรจ์ที่เป็นนักเลงอันธพาลเหล่านั้น กลับล้มลงนอนจมกองเลือด
บนหน้าอกทุกคนปรากฏร่องรอยลำเเสงสีฟ้าจากกระบี่
"ไม่เป็นไรนะเจ้าหนู" เสียงที่เปี่ยมไปด้วยบารมีดังขึ้นที่ด้านหลังของหวงเฉินฟง
หวงเฉินฟงกับหลิวม่ออิงเหลียวมองตามต้นเสียง กลับพบกับบุรุษวัยกลางคนสวมชุดขาวอายุ40เศษผู้หนึ่ง ผมเผ้าสีดำขลับผสมด้วยผมสีขาวประปรอย
ท่าทางองอาจมีบารมี ที่สำคัญเป็นกระบี่ที่อยู่ในฝักข้างเอวของเขา ที่เหมือนกับว่าไม่ได้ชักกระบี่ออกมาเเต่อย่างใด
เขาเป็นใครเด็กหนุ่มทั้งสองไม่มีใครรู้ เเต่ที่รู้ๆคือ เขาผู้นี้ได้มอบเส้นทางเเห่งชีวิตให้กับเด็กหนุ่มทั้งสองคนไปเเล้ว.......