ตอนที่ 2 โสด
ตอนที่ 2 โสด
ช่วงนี้ปลายเดือนพฤศจิกายน เข้าสู่ฤดูหนาว อากาศช่วงนี้จึงเย็นสบาย ทางด้านสวนองุ่นของเหมันต์ใกล้จะถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ช่วงก่อนเก็บเกี่ยวจึงเป็นช่วงที่เจ้าของสวนออกเที่ยวพักผ่อนตามประสาคนโสด
“หนูเล็ก” หนูเล็กมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของเหมันต์ เธอมีอาชีพเปิดร้านตัดผมอยู่ในหมู่บ้าน
“อ้าว...พี่เหมนึกว่าใคร มาแต่เช้าเชียว”
“ตัดผมหน่อย คืนนี้จะออกเที่ยว”
“ยังไม่ยาวเลย” เพิ่งจะตัดไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง ปกติคนทั่วไปจะตัดผมเดือนละหนึ่งถึงสองครั้ง แต่เหมันต์ตัดผมเดือนละสี่ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเขา ไม่ได้ตัดฟรี ไม่ได้อยากอุดหนุนพี่สะใภ้ แต่เขาแค่กลัวว่าตัวเองจะไม่หล่อแค่นั้นเอง ถึงเหมันต์จะเป็นชาวสวนแต่เรื่องความหล่อและการดูแลตัวเองเขาไม่เป็นสองรองใคร
“เออน่า...ทรงเดิม ขอหล่อๆ”
“ได้ค่ะ” เขานั่งลงที่เก้าอี้ หนูเล็กจึงเริ่มจัดการจัดแต่งทรงผมให้
“จะหล่อไปไหนครับ อาเหม” เสียงเล็กๆของอัศวิน หลานชายตัวเล็กวัยสามขวบดังเข้ามาจากทางหน้าประตูร้าน
“จะไปเที่ยว”
“ขอวินไปด้วยได้มั้ยครับ”
“ไม่ให้ไป” คำตอบของอาเหมทำให้อัศวินหน้าเศร้าลงทันที
“แก่แล้ว...จะไปไหนก็ไปได้ ส่วนเด็กต้องรอโตก่อนสินะ เฮ่อ..." เป็นเด็กเป็นเล็กหัดรู้จักถอนหายใจ
“ใครแก่”
“ก็อานั่นแหละ”
“ครั้งนี้พาไปด้วยไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก” ปกติเหมันต์ตามใจหลานยิ่งกว่าอะไร ถ้าไปใกล้ๆเขาก็มักจะพาอัศวินติดตูดไปด้วยตลอด
“ขอบคุณครับ อาเหมสุดหล่อ”
“เมื่อกี้ไม่ได้พูดแบบนี้นี่”
“หล่อแบบแก่ๆนั่นแหละครับ”
“ทำไมไม่อยู่เล่นกับน้องที่บ้านย่าล่ะ” อัศวินยังมีน้องสาววัยหนึ่งขวบอีกหนึ่งคน ตอนนี้แกกำลังซน ให้ปู่กับย่าช่วยเลี้ยงให้ แกมีชื่อว่าหนูดี
“วันนี้วินจะเข้าสวนกับพ่อ อาเหมไปเที่ยว อย่าลืมซื้อขนมมาฝากวินกับน้องด้วยนะครับ”
“อือ...อยากกินอะไรล่ะ”
“อะไรก็ได้ครับที่แพงๆ"
"ได้ เดี๋ยวอาซื้อมาฝาก"
“วินจะเข้าสวนกับพ่อมั้ย” เสียงพีรเดชพ่อของอัศวิน พี่ชายของเหมันต์ ส่งเสียงตะโกนเข้ามาในร้านเสริมสวย เรียกลูกชายตัวเล็กเข้าไปวิ่งเล่นในสวนมะม่วงด้วยกัน
“ไปด้วยครับ” ทันใดนั้นอัศวันน้อยก็รีบวิ่งออกไปหาพ่อของแกทันที ส่วนเหมันต์หลังจากที่เขาตัดผมเสร็จก็จ่ายเงินแล้วเตรียมตัวออกเที่ยวหาความสำราญยามค่ำคืน
@ร้านเหล้า
เพทาย เจ้าของร้านเหล้าในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ในร้านเหล้าแห่งนี้มีบริการให้เช่าลุง เป็นธุรกิจใหม่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ลุงที่ว่าก็คือผู้ชายที่มีอายุสามสิบปลายๆจนถึงสี่สิบห้าปี รุ่นใหญ่วัยอบอุ่น
“สวัสดีเพื่อน...” เป็นเสียงของเหมันต์เดินเข้ามาด้านในร้านอย่างคุ้นชิน นอกจากเขาจะเป็นลูกค้าประจำที่นี่แล้ว เขายังเป็นเพื่อนของเพทายเจ้าของร้านเหล้าแห่งนี้อีกด้วย
“อ้าวไอ้เหม ลมอะไรหอบมึงมาถึงที่นี่ได้วะ”
“เบื่อๆ อยากพักผ่อนสมองสักหน่อย เอาเหล้ามาดื่มแก้เบื่อหน่อยสิ” นอกจากสองคนนี้จะเป็นเพื่อนกันแล้ว เขาสองคนยังทำธุรกิจร่วมกันอีกด้วย เพทายเปิดร้านเหล้า ส่วนเหมันต์ส่งไวน์องุ่นที่หมักเองในสวนให้กับร้านเหล้าแห่งนี้ด้วย
"นั่งเลยเพื่อน กูกำลังอยากหาเพื่อนคุยอยู่พอดี" ทั้งสองหนุ่มวัยสามสิบแปด สถานะโสดสนิททั้งคู่ พากันไปนั่งลงที่โต๊ะด้านในซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว
“เอาลุงมั้ย” ประโยคนี้เพทายพูดแหย่เพื่อนเล่นเท่านั้น เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ของเขา รายได้ดีมากจึงอยากชวนเพื่อนคุยเรื่องนี้
“ขนลุก!” เหมันต์ทำท่าทำทางขยะแขยงสุดๆ แต่เพทายมองไปที่เพื่อนแล้วคิดในใจว่า...หน้าตาเอย หุ่นเอย รูปร่างแบบนี้อยากได้มาเป็นลุงที่ร้านจริงจริ๊ง จากนั้นเพทายก็ขำออกมาเสียงดัง
“ฮ่าๆๆ”
“ช่วงนี้ร้านมึงเป็นยังไงบ้าง”
“เครื่องดื่มขายดีปกติ ส่วนลุงเช่ายังไม่มีใครทำ ธุรกิจนี้ดีมากจนลุงขาดแคลนเลยว่ะ”
“ขนาดนั้นเชียว”
“สนใจมั้ยล่ะ” เพทายลองทาบทามดู เผื่อว่าเพื่อนจะสนใจ มาเป็นลุงให้กับร้านของเขา
“อะไร...กูเหรอ”
“อือ...มึงนั่นแหละ แก้เบื่อได้นะ”
“เดี๋ยวถีบเลย กูชอบซื้อไม่ชอบขายเว้ย”
“เฮ้ย...มึงอย่าเข้าใจผิด ลุงร้านกูไม่ทำเรื่องแบบที่สมองของมึงกำลังคิด”
“แล้วทำอะไรถ้าไม่ทำเรื่องนั้น”
“แล้วแต่ลูกค้าสั่ง แต่เรื่องนั้นไม่ทำเด็ดขาด ร้านกูไม่ได้ขายบริการ แล้วกูก็ไม่ใช่พ่อเล้า”
“แล้วถ้าลุงร้านมึงกับลูกค้าเกิดอยากทำเรื่องนั้นกันขึ้นมา มึงที่เป็นเจ้าของร้านจะไปควบคุมอะไรได้”
“ถ้าเป็นความต้องการของทั้งสองฝ่าย ก็แล้วแต่จะตกลงกัน กูและร้านของกูไม่เกี่ยว”
“เคยมีปัญหามั้ย”
“งานอะไรในโลกนี้ไม่มีปัญหาบ้างวะ” คำตอบก็คือมี ปัญหามีมาให้แก้ไม่เว้นแต่ละวัน
“ก็จริงอย่างที่มึงพูด สวนองุ่นของกู คนไม่รู้คงคิดว่าแค่ปลูก หารู้ไม่ว่าดูแลดียิ่งกว่าลูกเล็กเสียอีก”
"ปัญหามีไว้ให้แก้ หากไม่เจอปัญหาก็ไม่โตหรอก" ทุกอาชีพมีปัญหาแตกต่างกันออกไป ประสบการณ์ก็เช่นกัน
“ถ้าผู้หญิงที่มีผัวอยู่แล้วมาเช่าลุงที่ร้านมึง อันนี้น่าจะซวย” เหมันต์ช่วยคิด!
“ส่วนมากผู้หญิงที่มาเช่าพวกนั้นไม่มีผัวหรอก พวกเธอก็แค่เหงา บางรายก็เพิ่งอกหักมา บางรายไม่อยากมีผัว ไม่อยากมีแฟน อยากมีแค่คนคุยเป็นเพื่อนบางครั้งบางคราวเท่านั้น”
“ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆ”
“แล้วมึงล่ะ ไม่คิดจะมีเมียใหม่เหรอ” ประโยคนี้เป็นเสียงของเพทายถามเหมันต์
“กูอาจจะมีอาการคล้ายๆกับผู้หญิงที่มาเช่าลุงที่ร้านมึงก็ได้มั้ง” ในบางครั้งเขาเองก็รู้สึกเหงาเหมือนกัน ดีที่มีงาน มีหลาน มีครอบครัว สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เขาหายเหงาลงไปได้บ้าง
“ยังไง”
“ก็...ไม่อยากมีเมีย ไม่อยากรักใคร อยากมีแค่ใครสักคนคุยแก้เหงามั้ง...กูถึงได้มาหามึงนี่ไง ทำไมร้านมึงไม่มีผู้หญิงให้เช่าบ้างวะ”
“ผู้หญิงปัญหาเยอะ แถมยังถูกมองว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำ กูเองก็จะถูกมองไม่ดีไปด้วย แต่พอเปลี่ยนมาเป็นผู้ชาย ผู้ชายจะไม่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ส่วนผู้หญิงที่มาเช่าจะถูกมองว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที”
“มีผู้ชายมาเช่าลุงบ้างมั้ย”
“จากที่ผ่านๆมา คนที่มาเช่าเป็นเพศหญิงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ เพศชายสามสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกครั้งที่มีลูกค้ามาขอเช่าลุง กูจะให้สิทธิ์ลุงเลือกว่าจะรับงานหรือไม่รับงาน” แต่ส่วนมากก็เห็นรับหมด
“ถ้าไม่รับงานนอกแล้วลุงร้านมึงทำอะไร”
“ถ้าไม่รับงานนอกก็เดินเสิร์ฟเหล้าให้ลูกค้าในร้านไป ไม่ได้ว่างหรอก”
“ใจดีเนอะ” หมายถึงเจ้าของร้าน
“เรื่องแบบนี้บังคับมากๆจะกลายเป็นผิดกฎหมายทันที ร้านกูจ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างนะเว้ย”
“แล้วที่มึงจ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจปีๆหนึ่งมหาศาลคืออะไร”
“อย่าพูดเรื่องนี้ได้มั้ยเพื่อน...กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว” ขึ้นชื่อว่าร้านเหล้า ต่อให้ทำทุกอย่างถูกต้อง ยังไงตำรวจก็กวนอยู่ดี การจ่ายออกไปบ้างเพื่อให้ธุรกิจราบรื่นจึงเป็นทางออกที่ดี
“กูอยากรู้”
“รวยคนเดียวเดี๋ยวมีปัญหา แบ่งๆกันรวย ปัญหาจะได้น้อยๆลงหน่อย”
“เออ...” เหมันต์พยักหน้าเข้าใจ