บทที่ 3 ตามหาให้เจอ
พัคซูโฮรู้สึกตัวขึ้นมาในตอนเช้า มือจึงควานหาร่างนุ่มนิ่มที่ชายหนุ่มกกกอดไว้เมื่อคืนแต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่าและที่นอนเย็นด้วยเครื่องปรับอากาศบ่งบอกว่าหญิงสาวลุกออกไปนานแล้ว ชายหนุ่มจึงดีดตัวลุกขึ้น
“ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน?”
“คนไหนครับ”
“คนที่นอนกับฉันเมื่อคืนไง!”
“อ้าว แต่เมื่อคืนคนที่ผมพามาเธอขอกลับก่อนนะครับเพราะรู้สึกไม่สบายตัว”
“นายอย่ามาตลกเมื่อคืนฉันยังเอากันอยู่เลย”
“ผมยืนยันว่าไม่มีครับ”
ซูโฮจึงตัดสายจองมินไปหรือสิ่งที่หญิงสาวพูดจะเป็นความจริงว่าทุกอย่างแค่เรื่องเข้าใจผิด แต่ตอนนี้เธอหายตัวไปแถมไม่เรียกร้องให้เขารับผิดชอบด้วยซ้ำไป
“Shift! ทำไมกูต้องรู้สึกผิดด้วยวะ” ชายหนุ่มจึงลุกจากเตียงเพื่อไปชำระร่างกายแต่เท้าก็เดินไปเหยียบกับสมุดเล่มเล็กสีน้ำตาลที่มีตาครุฑอยู่ข้างพร้อมกับคำว่าประเทศไทย
“พาสปอร์ต” ซูโฮจึงรีบเปิดดูเป็นหญิงสาวคนที่เขานอนด้วยจริงๆแถมชื่อก็ตรงกับที่เธอบอกเขาไม่มีผิด เทียนกัลยาภัค ปัทมาเดชา ชายหนุ่มจึงต่อสายหาจองมินอีกรอบ
“นายมีอะไรให้ผมทำครับ”
“ไปสืบประวัติใครคนหนึ่งมาให้ฉันที ฉันส่งเข้าไปให้แล้วขอด่วนและตามตัวเธอมาให้ฉัน!”
“รับทราบครับ”
“ด่วนที่สุด!”
จองมินงุนงงกับเจ้านายตัวเองเมื่อคืนสงสัยไปลากใครเข้าห้องอีก แต่ไม่ถามอะไรมากเขามีหน้าที่แค่ทำตามที่เจ้านายต้องการ
“ลูกพี่เมื่อคืนผมพาผู้หญิงของเจ้านายไปส่งที่ห้องแล้ว”
“ผู้หญิง? อะไรวะ” จองมินมองหน้าลูกน้องของตัวเองว่าหมายถึงเรื่องอะไรหรือจะเป็นเรื่องเดียวกับที่เจ้านายให้เขาไปตามหาผู้หญิงคนนั้น
“ก็ผมเห็นเธอยืนอยู่ที่ล็อบบี้ผมเลยพาเธอขึ้นมา”
จองมินจึงพอจะเดาเรื่องได้ว่าที่ซูโฮให้ตามหาผู้หญิงคนนั้นคงจะเป็นเรื่องนี้ ลูกน้องของเขาก็ชั่งใจดีมีน้ำใจเหลือเกินหาเรื่องให้เขาจนได้
“ขอบใจมากน้องรักไปทำงานได้แล้ว!” จองมินตะโกนด่าตามหลังไปพร้อมกับเปิดข้อมูลที่เจ้านายส่งมาให้ถึงแม้รูปในพาสปอร์ตจะเป็นขาวดำแต่ความสวยของคนในรูปไม่ทำให้ดูแย่ลงเลยสักนิด
“ไม่น่าถึงให้ตามหา สวยขนาดนี้คนไทยเสียด้วยคงไม่เข้าเมืองมาผิดกฎหมายหรอกนะ”
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงทุบประตูดังขึ้นจนทำให้คนที่หลับสนิทต้องสะดุ้งตัวขึ้นมาเทียนกัลยาภัคหันไปมองนาฬิกาเธอหลับไปนานจนตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายสามแล้ว
“เทียนเปิดประตูให้ตาหน่อย”
“มาแล้วๆ” หญิงสาวจึงเดินไปเปิดประตูให้กับปัญนิตาพร้อมกับคำถามมากมายที่เพื่อนถามออกมาจนเทียนกัลยาภัคไม่รู้จะโกหกยังไงจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ปัญนิตาฟัง
“ไอ้ชั่วคนนั้นมันเป็นใคร!” ปัญนิตาที่ได้ฟังที่เพื่อนเล่ามาถึงกับเจ็บใจแต่เมื่อเห็นเทียนกัลยาภัคร้องไห้ปานจะขาดใจจึงเลิกที่จะถามต่อ
“ไม่เป็นไรนะยังมีตาอยู่ตรงนี้” หญิงสาวจึงเข้าไปปลอบเพื่อนหวังว่าต่อจากนี้เทียนกัลยาภัคจะเจอแต่เรื่องดีๆ
“เทียนจะทำยังไงต่อ”
“เทียนก็ต้องทำงานต่อทำไงได้เกาหลีออกจะกว้างคงไม่มีทางได้เจอเขาอีก” โลกคงไม่เหวี่ยงผู้ชายคนนั้นเข้ามาในชีวิตเธอหรอก โชคชะตาคงไม่ใจร้ายขนาดนั้น
“ยัยมีนคนเดียวเลย ป่านนี้หายหัวไปไหนไม่รู้” เพราะตั้งแต่เมื่อคืนก็ติดต่อมีนรญาไม่ได้อีกเลย
“อย่าไปโทษมีนเลย ทุกอย่างเทียนผิดเอง” เทียนกัลยาภัคสบตากับเพื่อนการที่เธอต้องจากบ้านมาทำงานไกลขนาดนี้จิตใจก็ย่ำแย่แล้วยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก
“ตาต้องไปทำงานต่อแล้วพรุ่งนี้เทียนไหวใช่ไหม”
“เทียนไหวอยู่แล้ว” หญิงสาวฝืนยิ้มให้ปัญนิตาเมื่อเพื่อนออกไปแล้วเทียนกัลยาภัคจึงร้องไห้ออกมาด้วยความอดสู เธอจะไม่ร้องไห้ออกแล้ว
“พัคซูโฮ คนสารเลว” ชื่อนี้ที่เทียนกัลยาภัคจำได้ขึ้นใจชีวิตจริงคงจะเจอคดีๆยากสินะ เหมือนดังคำที่เขาว่าผู้ชายดีๆมีแค่ในซีรีส์เท่านั้น
พัคซูโฮกำลังนั่งอ่านข้อมูลของเทียนกัลยาภัคอย่างละเอียดและไล่อ่านทุกบรรทัดไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจแต่ทำไมเขาถึงยังคิดถึงกลิ่นหอมๆของหญิงสาว
“ฮึ เรื่องเริ่มสนุกขึ้นแล้วสิ” เทียนกัลยาภัคเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายหากเขาจะใช้เรื่องนี้มาบีบบังคับหญิงสาวก็ไม่ผิดตอนนี้เขาอยากได้เขาก็ต้องได้
“ฉันจะให้เวลาเธอเตรียมตัวเตรียมใจสักหนึ่งคืนก็แล้วกันเทียนกัลยาภัค” ซูโฮพูดออกมารอยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์เมื่อคืนเขาไม่ได้คิดจะปล่อยเธอไปแค่ให้หญิงสาวได้พักผ่อนตอนเช้าเขาจะลองคุยอีกที แต่ก็ต้องผิดหวัง
เสียงร้องไห้อ้อนวอนปานจะขาดใจทำให้ซูโฮรู้สึกสงสารเพราะหญิงสาวคงจะกลัวเขา แค่คิดว่าจะไม่ปล่อยเธอไปไหนแต่เช้ามาเทียนกัลยาภัคก็หนีหายไป
“ส่งคนไปเฝ้าเทียนกัลยาภัคไว้ด้วย”
“ครับนาย” จองมินจึงทำตามคำสั่งของซูโฮ ส่งคนไปเฝ้าขนาดนี้หญิงสาวคงหนีไปไหนไม่รอด
“ปล่อยผมพวกคุณจะทำอะไร!”
“เทียนกัลยาภัคอยู่ที่ไหน!” แทจองตะโกนออกไปเสียงนายจ้างของเทียนกัลยาภัคที่เห็นแบบนั้นก็คิดว่าคงเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบจึงไม่ยอมพูดอะไร
“ผ ผม ไม่รู้จักพวกคุณคงมาตามหาผิดที่” เจ้านายของหญิงสาวพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกปิดข้อมูลของลูกจ้าง
“เฮ้ย! เผาที่นี่ทิ้งซะ” จองมินตะโกนออกไปเสียงไปเพื่อให้ทุกคนได้ยินและรวมถึงหญิงสาวคนที่พวกเขากำลังตามหา เจ้านายพวกเขาจะเล่นแรงเกินไปแล้ว
“ยะ อย่าเผา ที่นี่ไม่มีคนที่พวกคุณตามหา” เถ้าแก่พยายามร้องห้ามเมื่อคนที่บุกรุกกำลังทำลายข้าวของและดูเหมือนจะเผาไฟตามที่พูดไว้จริงๆ
เทียนกัลยาภัครวมถึงปัญนิตาและมีนรญาที่ออกไปซื้อของใช้กำลังเดินทางกลับที่พักแต่แปลกใจว่าทำไมถึงมีรถจอดอยู่เต็มไปหมดสัญญาณทำให้สามสาวต้องรีบหลบภัย
“เทียนอย่าเข้าไปเพื่อเขามาจับเราทำไง”
มีนรญาพยายามห้ามเพื่อนไว้แต่มองไปเหมือนเจ้านายของพวกเธอกำลังจะโดนทำร้ายแถมข้าวของเครื่องใช้ทำกำลังจะโดนเผาทิ้ง
“เหมือนจะไม่ใช่ตำรวจ” เทียนกัลยาภัคที่สังเกตผู้คนรอบข้างจึงทนไม่ไหว จึงวิ่งออกมาและเข้าไปช่วยเถ้าแก่
“พวกคุณจะทำอะไร! ถอยออกไปห่างๆ” หญิงสาวจ้องมองไปที่ใบหน้าของคนร้ายและพร้อมจะมีเรื่องทันทีคนพวกนี้เป็นอันพาลหรือไง
“คุณถอยออกไปดีกว่า” แทจองไม่ต้องตั้งใจที่จะผลักหญิงสาวแต่ด้วยที่แรงชายหนุ่มเยอะกว่าทำให้เทียนกัลยาภัคที่เข้ามาห้ามจึงล้มไปกองอยู่กับพื้น
“โอ๊ยยยย!”
พัคซูโฮที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ในรถถึงกับตกใจที่หญิงสาวที่เขาตามหากำลังได้รับบาดเจ็บทำให้ต้องรีบลงจากรถ จองมินถึงกับต้องรีบวิ่งตามออกมาจากรถ
“หยุด กูสั่งให้พวกมึงหยุด!”
เทียนกัลยาภัคตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงที่ยังคงติดอยู่ในใจหญิงสาวจำได้ดีว่าเป็นเสียงใคร เขาตามเธอมาถึงที่นี่
“คุณ!”
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ซูโฮจึงพยุงหญิงสาวขึ้นมาเขาทะนุถนอมเธอเป็นอย่างดีดูพวกลูกน้องเขาทำกล้าดียังไงถึงมาทำคนของเขาเจ็บ
“ปล่อยหนูแล้วคุณก็ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว”
“ถ้าไม่อยากให้ใครเจ็บตัวก็มากับฉัน” ซูโฮเริ่มใช่ไม้แข็งเพราะหญิงสาวเริ่มต่อต้านชายหนุ่มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาต้องได้เทียนกัลยาภัคกลับไปด้วย
“ไม่! เลิกยุ่งกับหนูสักที”
“ได้! อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน เอาตัวออกมา! แล้วจับส่งตำรวจให้หมด” ซูโฮให้คนลากเพื่อนของหญิงสาวออกมาครั้งนี้เธอต้องเลือกแล้ว
“คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ” เทียนกัลยาภัคที่เห็นเพื่อนกลัวจนตัวสั่นขึ้นมาถึงกับต้องหันไปอ้อนวอนซูโฮแต่เหมือนจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
“พาสปอร์ตเธออยู่กับฉันเพราะฉะนั้นห้ามขัดคำสั่ง”
“สาระเลว! คุณต้องการอะไร!” เทียนกัลยาภัคใจกล้าถามออกไปทั้งที่ในใจกำลังรู้สึกกลัว พาสปอร์ตของเธอไปอยู่กับเขาได้ยังไง
“ต้องการตัวเธอไงสาวน้อยมาอยู่กับฉันไม่ต้องห่วงอะไรฉันทำให้เธอสบายไปทั้งชาติเลย” ซูโฮพูดออกมาอย่างคนเลือดเย็นและจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาวเพื่อรอคำตอบ
“ให้ตายยังไงหนูก็ไม่ไป!”
“ได้เธอดื้อกับฉันเองนะ เผาที่นี่ทิ้งแล้วจับทุกคนส่งตำรวจ!”
ลูกน้องจึงเริ่มเทน้ำมันลงพื้นและเสียงกรีดร้องของเพื่อนและเถ้าแก่ทำให้เทียนกัลยาภัคคิดหนัก
หญิงสาวคงไม่มีทางเลือกมากนักจะเห็นแก่ตัวก็ไม่ได้เพราะผู้คนรอบข้างไม่รู้เรื่องอะไรด้วย น้ำตาจึงไหลออกมาด้วยความอดสูกับชีวิตตัวเอง
“หยุด! หนูบอกให้หยุด ตกลงหนูจะไปกับคุณ!”
“เทียนอย่าไปนะ!” ปัญนิตาหันมาตะโกนเรียกเพื่อนเพราะเป็นห่วงกลัวว่าเพื่อนจะได้รับอันตราย
“ไปสิ ฉันไม่อยากกลับไทย” มีนรญามองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาเคลิบเคลิ้มเทียนกัลยาภัคทำบุญด้วยอะไรถึงเจอผู้ชายแบบนี้เป็นเธอจะยอมถวายตัวให้เลย
“ไปสิ! หนูยอมแล้ว ฮึก!” สติสุดท้ายที่เหลือหญิงสาวหันไปมองเพื่อนผ่านม่านน้ำตาก่อนจะหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของซูโฮ
“เทียนกัลยาภัค!” ซูโฮคว้าตัวของหญิงสาวไว้ได้ทันและอุ้มหญิงสาวขึ้นรถหรูโดยสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเก็บข้าวของออกมาให้หมด
“กลับโรงแรมเรียกหมอมาด้วย!”
ชายหนุ่มร้อนใจเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดของหญิงสาวพร้อมกับใช้มือเกลี่ยน้ำตาออกจากหางตา หากเทียนกัลยาภัคไม่ต่อต้านเรื่องก็คงจะจบง่ายกว่านี้
“ไม่มีหมอผู้หญิงหรือไง!” ซูโฮหันไปถามจองมินเมื่อมีหมอหนุ่มกำลังจะเข้ามาตรวจร่างกายของหญิงสาว เขาไม่ชอบเอาเสียเลย
“ไม่มีหมอว่างเลยครับ” จองมินตอบความจริงออกไป
“ผมขออนุญาตตรวจคนไข้นะครับ” คุณหมอจึงขออนุญาตตรวจร่างกายทั่วไปของคนไข้แต่สายตาที่พร้อมจะฆ่าเขาได้ทำให้หมอมือไม้สั่น
“จะทำอะไร!” ซูโฮถามออกไปเมื่อหมอกำลังจะยื่นมือไปแตะที่หน้าอกของหญิงสาว
“ผมแค่จะฟังเสียงหัวใจครับ”
ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีเทียนกัลยาภัคแค่เครียดจึงทำให้หมดสติหมอจึงฉีดยาและสั่งจ่ายยาให้ เมื่อทุกคนออกไปแล้วชายหนุ่มจึงเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ เทียนกัลยาภัค
“หลับแบบนี้ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย”
ใบหน้าคมคายก้มลงไปฝั่งจมูกเข้ากับแก้มนุ่มนิ่มของเทียนกัลยาภัค ซูโฮแปลกใจตัวเองไม่น้อยที่ทำแบบนี้กับหญิงสาวทั้งที่เขาไม่ค่อยทำมาก่อนและเริ่มรู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิม เขาเริ่มหวงแหนหญิงสาวตรงหน้ามากขึ้น