บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ตกใจอะไร

“แหม คำพูดคำจาอยู่บนฟ้าราวกับเจ้าของบ้าน คิดเหรอว่าคนอย่างหล่อนจะเทียบกับแฟนคุณทัตได้ คุณทัตไม่มีทางชายตาแลเธอหรอกนะฝน” มะลิกล่าวพลางทำหน้าหมั่นไส้เธอซะเต็มประดา

“ฉันคิดแล้วคิดอีก มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับพวกพี่นะ ฉันจะทำอะไร จะคิดยังไง มันก็เรื่องของฉัน ไม่เห็นจะเกี่ยวกับพวกพี่เลย”

“นี่แกว่าพวกฉันเสือกเหรอ”

“เปล่า ไม่เห็นมีคำว่าเสือกออกจากปากฉันเลยนะพี่มะลิ แต่ถ้าพี่จะเข้าใจอย่างนั้นก็แล้วแต่” เธอกล่าวอย่างใจเย็นก่อนก้าวเท้าจะเดินออกไป

“อยู่ต่อหน้าคุณหญิงทำเป็นเรียบร้อย ใสซื่อ แต่จริง ๆ แล้วสันดานเธอมันก็แค่หมาจรจัด ต่อให้เก็บมาเลี้ยงให้ดีแค่ไหน มันก็เป็นได้แค่หมาจรจัดเหมือนเดิม”

แม้จะรู้สึกโกรธแต่ปลายฝนก็พยายามทำใจให้เย็น เธอไม่อยากมีเรื่องกับคนพวกนี้ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด มีแต่จะทำให้เธอถูกมองในแง่ลบไปด้วย

“ก็ยังดีกว่าพวกดีแต่เห่า ทำตัวไร้ประโยชน์ไปวัน ๆ เสือกแต่เรื่องของชาวบ้าน”

นั่นไม่ใช่เสียงปลายฝน แต่เป็นเสียง คะน้า สาวใช้อีกคนที่เอ็นดูปลายฝนราวกับน้องในไส้ และคอยอยู่เคียงข้างเวลาที่เธอโดนสองคนนี้เล่นงาน

“แกว่าใครนังคะน้า”

“ก็ว่าใครล่ะ ที่ชอบหาเรื่องคนอื่น พวกขี้อิจฉา”

“ใครอิจฉากันยะ แค่อยากให้ธาตุแท้ของนั่งนี่มันเปิดเผยออกมา กระแดะ”

“นั่นปากเหรอ!” คะน้าโกรธแทนน้องสาวจนทนไม่ไหว พุ่งพรวดเข้าหาคู่อริ ทว่าปลายฝนรีบรั้งตัวไว้เสียก่อน

“อย่าพี่คะน้า ช่างมันเถอะ ฝนชินแล้วล่ะ”

“แต่พี่ไม่ชิน ปล่อยให้มันว่าฝ่ายเดียวไม่ได้หรอก”

“อย่าอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลยจ้ะ มันไม่มีประโยชน์หรอก”

“แหม ๆ ประดิษฐ์คำพูดราวกับพวกผู้ดี ฉันล่ะอยากจะขำให้ฟังร่วง ใช่ไหมวะรำเพย” ว่าแล้วทั้งสองสาวก็หัวเราะชอบใจ

“มึงอยากจะฟันร่วงหมดปากเพราะหมัดกูไหมล่ะ” คะน้ากำหนัดจะชกเข้าให้ แต่โดนน้องสาวดึงแขนออกไปจากครัวเสียก่อน

ปลายฝนพาพี่สาวต่างสายเลือดออกมาจนถึงสวนหลังบ้าน เพื่อให้เจ้าหล่อนสงบสติอารมณ์ คะน้าคอยปกป้องดูแลเธอตั้งแต่เด็กจนโต เพราะทั้งสองต่างก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน ไม่มีพี่น้องที่ไหนจึงรักใคร่กันราวกับพี่น้องในไส้

“พวกมันด่าฝนขนาดนั้นพี่ทนไม่ได้หรอก”

“ช่างมันเถอะพี่ ฝนไม่อยากให้มีเรื่องมีราว เราไม่จำเป็นจะต้องต่ำเหมือนพวกนั้นสักหน่อย” ปลายฝนพยายามทำให้อารมณ์พี่สาวดีขึ้น โดยการส่งรอยยิ้มหวาน ๆ ให้

“แกนี่นะ จะทำตัวดีเกินไปแล้วนะ มันจะโดนคนรังแกได้ง่าย ๆ”

“ความอดทนฝนก็มีจำกัดเหมือนกันนะพี่ ถ้าหากทนไม่ไหวจริง ๆ ก็ไม่ยอมเหมือนกันนั่นละ”

“ทำให้ได้อย่างที่ปากพูดก็แล้วกัน”

“อ้อ พี่คะน้า วันพรุ่งนี้ฝนจะต้องไปหัวหินกับคุณทัตนะ ฝากงานที่บ้านด้วยนะพี่”

“อ้าว! ไปทำอะไรน่ะ”

“คุณหญิงกำลังให้คนไปต่อเติมบ้านพักตากอากาศ เลยให้คุณทัตไปช่วยดูจนกว่าจะเสร็จ ส่วนฝนท่านให้ไปสอดแนมพฤติกรรมคุณทัตน่ะสิ ท่านกลัวว่าหลานชายจะพาแฟนไปอยู่ที่นั่นด้วย”

“สองต่อสองงั้นเหรอ”

“จ้ะพี่”

“ระวังตัวด้วยล่ะ คุณทัตยิ่งไม่ค่อยชอบขี้หน้าแกอยู่ด้วย”

“จ้ะพี่ ฝนจะระวังตัว คนอย่างคุณทัตคงไม่มาทำอะไรมิดีมิร้ายฝนหรอก”

“เผื่อหน้ามืดตามัวขึ้นมาใครจะรู้ รายนั้นยิ่งชอบแกล้งแกอยู่ด้วย เคยพูดดีด้วยซะที่ไหนล่ะ” คะน้ากล่าวอย่างเป็นห่วงน้องสาวสุดที่รัก เพราะเธอรู้เห็นการกระทำของกันติทัตมาโดยตลอด ว่าปฏิบัติต่อปลายฝนอย่างไรบ้าง

“ฝนไม่อ่อนแอขนาดนั้นหรอกน่า พี่สบายใจได้ อีกอย่างมันก็เป็นคำสั่งคุณหญิง เขาคงไม่กล้าทำอะไรฝนหรอก”

“ให้มันจริงเถอะ”

“จ้า”

“งั้นพี่ไปทำงานต่อก่อนนะ เดี๋ยวเย็นนี้จะไปเก็บของช่วย”

“จ้ะพี่คะน้า”

ทั้งสองสาวโบกมือร่ำลา ก่อนที่คะน้าจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้คนเป็นน้องสาวยืนคิดอะไรอยู่ที่เดิม คงไม่ใช่เรื่องอะไร หากแต่เป็นการต้องไปอยู่ร่วมชายคากับกันติทัตสองต่อสอง เธอคงจะรู้สึกอึดอัดและทำตัวไม่ถูก หากต้องตื่นขึ้นมาแล้วเจอคำพูดเสียดสีทิ่มแทงใจอยู่เป็นประจำ โดยไม่รู้ว่าจะได้กลับมาตอนไหน

“เป็นเธอนี่ก็ดีนะ พูดอะไรใครก็เชื่อ”

ได้ยินเสียงทุ้มของใครบางคนจากทางด้านหลัง ปลายฝนก็สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ รีบหันขวับไปมองก็เจอกับคนที่คุ้นตายืนกอดอกมองมาอยู่ก่อนแล้ว

“พี่ทัต”

“ตกใจอะไร หรือกำลังนินทาฉันในใจอยู่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel