ตอนที่ 4 ถ้าท้องขึ้นมา
รถหรูเคลื่อนล้อเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนหญ้าเขียวขจีบนเนื้อที่หลายไร่ โกโก้ได้แต่นั่งนิ่ง ๆ มองภาพนั้นด้วยแววตาใสแป๋ว เพราะไม่เคยเห็นที่นี่มาก่อน ทางเข้าสลับซับซ้อนจนแทบจะจำทางไม่ได้
“ถึงใช่แล้วไหม”
“อืม ถึงแล้ว ทำไม! กำลังคิดหาทางเล่นงานฉันอยู่เหรอไอ้ตัวดี”
“แม่คุณสอนให้พูดจากับคนอื่นแบบนี้เหรอ”
“นี่นาย! อย่ามาลามปามถึงแม่ฉันนะ ไม่งั้นฉันยิงกบาลนายแน่”
“ถ้าไม่อยากให้ผมพาดพิงถึงแม่คุณ ก็ช่วยทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษหน่อยได้ไหม สะกดคำว่าลูกผู้ชายเป็นไหม”
“ฉันไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายอย่างนาย ถ้าอยากลองพิสูจน์อีกครั้งฉันจัดให้ก็ได้นะ หึ ๆ”
“ไอ้…”
“หุบปาก ไม่งั้นฉันจับไอ้นี่ยัดปากนายแน่” เขาว่าพลางจับที่กลางเป้าตัวเอง ใบหน้าหล่อแสดงความป่าเถื่อนออกมา จนโกโก้รู้สึกหวาดกลัวและขยะแขยงไปพร้อม ๆ กัน
“ฝากไว้ก่อนเถอะ แล้วคุณจะรู้ว่าคิดผิดที่จับตัวผมมา” ว่าแล้วก็เปิดประตูรถลงไป
ยังไม่ได้ขยับเท้าเลยสักก้าว โกโก้ก็ถูกชายนิรนามใบหน้าหล่อคม สวมสูทสีดำดูน่าเกรงขาม คุมตัวเอาไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะไปทำร้ายใครเสียอย่างนั้น
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ฉันไม่ใช่โจรผู้ร้ายสักหน่อย” เจ้าตัวตะโกนร้องลั่นด้วยความตื่นตกใจ
“เงียบเดี๋ยวนี้เลย” คนที่กำลังจับมือร่างเล็กขัดไว้ด้านหลังข่มขู่ด้วยสีหน้าเด็ดขาด
“เอาตัวตามฉันเข้าไป” ลงมาจากรถแล้วเมธัทก็ออกคำสั่ง แล้วเดินนำหน้าไป
“ฉันไม่ใช่นักโทษของพวกแกนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ อื้อ...” พูดได้แค่ประโยคเดียว ก็ถูกปิดปากด้วยมือข้างหนึ่งของคอปป์ ซึ่งเป็นสมุนมือขวาคนสนิทของเมธัท และเป็นผู้แจ้งเบาะแสเรื่องการลอบสังหารในครั้งนี้
เข้ามาถึงห้องรับแขกแล้ว โกโก้ก็ถูกจับให้นั่งคุกเข่าต่อหน้าเมธัท ซึ่งกำลังนั่งไขว่ห้าง สูบบุหรี่อย่างสบายใจ สายตาคมจับจ้องมองมาอย่างจับผิด
“มีพิษสงอะไรรีบแสดงออกมาให้ฉันเห็นเป็นบุญตาหน่อยสิ นายไม่จำเป็นต้องเล่นละครตบตาใครแล้ว”
“ผมจะบอกสักกี่พันครั้งก็เหมือนเดิม ว่าผมไม่ใช่คนที่พวกคุณพูดถึง ปล่อยผมไปเถอะนะคุณเองก็ดูเป็นคนดี ไม่น่ามาทำอย่างนี้เลย”
“คนอย่างฉันไม่มีทางเชื่อนายหรอก ให้มันรู้ไปว่าโดนบีบบังคับไปเรื่อย ๆ จะทนได้สักกี่น้ำ”
“ยะ...อย่าทำอะไรผมเลยนะ ผมเป็นแค่เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าเท่านั้น แม้แต่ปืนก็ไม่เคยจับ จะไปเป็นนักฆ่าได้ยังไงกัน เชื่อผมเถอะนะคุณเมธัท” ยกมือไหว้ขอร้องอีกครั้ง
“ไม่-มี-ทาง ฉันจะเป็นคนเค้นความจริงจากปากนายเอง ว่าไอ้อาธิปมันคิดจะทำอะไรบ้าง”
“ผมสาบานว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้จักกับคนที่ชื่ออาธิปเลย”
“คนที่ถูกเลี้ยงดูเพื่อมาเป็นนักฆ่าอย่างนาย ใครจะไปเชื่อได้ลงคอล่ะ”
“จะให้ทำยังกับมันดีครับเจ้านาย”
“เอาตัวขึ้นไปไว้บนห้องนอนแขก ล็อกกุญแจข้างนอกเอาไว้ด้วย”
“ครับ”
“ผมไม่ใช่นักโทษนะ จะขังไว้อย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด ไอ้หน้าตัวเมีย ได้ผมแล้วยังจะมากักขังหน่วงเหนี่ยวอีกงั้นเหรอ ไปเอากระโปรงผู้หญิงมาใส่เถอะ” เจ้าตัวตะโกนลั่นบ้าน ขณะโดนลากตัวขึ้นบันไดไปอย่างทุลักทุเล
เมธัทได้แต่นั่งแสยะยิ้มมอง คักยิ้วอย่างน่าหมั่นไส้ พ่นควันสีขาวให้ลอยคลุ้งไปในอากาศอย่างสบายใจ คนอย่างเขาไม่เคยยอมใครที่ไหนอยู่แล้ว
เมธัท เป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อทรงเสน่ห์ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก กรอบหน้าคมมีหนวดเคราประดับบาง ๆ ดูเซ็กซี่ไม่หยอก ความยาวใหญ่ของเจ้าโลกเทียบชั้นฝรั่งได้เลยทีเดียว หากได้ร่วมรักกับสาวใดพวกหล่อนมักจะร้องขออีกไม่จบในครั้งเดียว ตอนนี้อายุอานามสามสิบห้ากะรัต เป็นเจ้าพ่อธุรกิจโรงแรมและธุรกิจสีเทา เป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลในวงกว้าง ทว่ากลับมีคู่อริที่แทบจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อย่างอาธิป ต่างฝ่ายต่างก็เล่นสงครามประสาทกัน จนมาถึงวันนี้ที่ความแค้นในอดีตมันยิ่งดิ่งลงเหว เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายส่งนักฆ่ามาหมายใจจะสังหารแต่โชคดีที่เขาไหวตัวทันเสียก่อน
เข้ามาในห้องแล้วโกโก้ก็ถูกขังไว้อย่างที่เจ้าของบ้านสั่งไว้จริง ๆ เจ้าตัวทุบประตู ตะโกนจนเสียงแหบแห้งทว่ามันกลับไร้ประโยชน์ เพราะคงไม่มีใครมาสนใจไยดีคนอย่างเขา
“ฮือ...ทำไมกูถึงได้ซวยอย่างนี้เนี่ย มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับชีวิตกู แค่อยากมีลูกแต่ทำไมมันถึงได้ยุ่งยากอย่างนี้ มือถือก็ถูกนายนั่นยึดเอาไว้ แล้วอย่างนี้จะติดต่อกับออดี้ได้ยังไงกัน” เจ้าตัวบ่นกับตัวเอง พลางใช้หลังมือปาดน้ำตาออกจากแก้มขาวนวล
หลังจากนั้นก็เดินสำรวจรอบห้องเพื่อหาทางหนีไปจากที่นี่ เดินตรงไปยังระเบียงห้องก็พบว่าแทบไม่มีทางหนีรอด เพราะลานหญ้าสีเขียวนั้นเต็มไปด้วยบอดี้การ์ด แม้แต่หนูสักตัวยังเล็ดลอดไปไม่ได้ เจ้าตัวจึงได้แต่ยืนถอนหายใจ แล้วกลับไปนอนเอนหลังบนเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยล้า
“แล้วถ้าเราท้องขึ้นมา นายเมธัทนั่นจะไม่เอาลูกเราไปหรอกเหรอ ไม่นะ!”
คิดได้อย่างนั้นยิ่งกลุ้มเข้าไปใหญ่ นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างหมดหนทางสู้ต่อไป ความเหนื่อยล้าจากสิ่งที่พบเจอ ทำให้เปลือกตาสวยค่อย ๆ เคลื่อนลงมาจนปิดสนิทในที่สุด
หลังจากทานมื้อเย็นแล้ว เมธัทก็เดินขึ้นไปหานักโทษที่ถูกขังอยู่ในห้อง ชายหนุ่มไขกุญแจก่อนจะเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ เมื่อเห็นว่าห้องมืดสนิทจึงชะงักฝีเท้าแล้วถอยออกมาหนึ่งก้าว ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไฟฉาย แล้วส่องไปทั่วห้องเพื่อหาบุคคลเป้าหมาย แล้วก็พบว่านอนหมดสภาพอยู่บนเตียงนั่นเอง จึงเดินเข้าไปเปิดไฟจนสว่าง