ตอนที่ 3 ยิงไม่เลี้ยงแน่
หลังจากผ่านบทรักอันร้อนแรงมาเกือบทั้งคืน คนทั้งสองก็นอนอย่างหมดแรงอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่า โกโก้รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่เลือกผู้ชายคนนี้ เพราะเขารุนแรงและป่าเถื่อนจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เจ็บปวดระบมไปทั้งตัวจนแทบจับไข้
นอนเอาแรงจนเกือบจะถึงบ่ายโมงแล้ว เปลือกตาสวยก็ค่อย ๆ ขยับ คิ้วโก่งขมวดเข้าหากัน เมื่อรู้สึกว่ามือตัวเองกำลังสัมผัสกับอะไรแข็ง ๆ เจ้าตัวลูบไล้มันอย่างเบามือ ก่อนจะกำรอบสสารที่มีลักษณะคล้ายแท่งอะไรบางอย่าง
“ซี๊ด...จะยั่วกันแต่เช้าเลยเหรอ”
เสียงทุ้มดังอยู่ข้างหู ทำให้ดวงตาสวยเบิกโพลง ภาพแห่งความร้อนแรงเมื่อคืนฉายเข้ามาให้เห็นทันที
“ตายแล้ว! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย” เจ้าตัวผละออกมา จะเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือดูเวลา ทว่าชายหนุ่มที่นอนเปลือยกายอยู่ตรงหน้ากลับรั้งแขนเอาไว้เสียก่อน
“จะไปไหน” น้ำเสียงงัวเงียบ่งบอกว่ายังคงไม่เต็มอิ่มกับการนอนหลับพักผ่อน
“เอ่อ...ผมต้องกลับแล้วครับ เอาไว้คราวหน้าค่อยเจอกันใหม่นะครับคุณเมธัท”
“คิดเหรอว่าจะหนีไปได้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ทันนายนะไอ้นักฆ่าร้อยลีลา หึๆ”
“ครับ...คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ ปล่อยนะ! ผมจะกลับ” เจ้าตัวพยายามดึงมือออกแต่ก็ไม่สำเร็จ
“ปล่อยให้โง่สิ นับจากวันนี้ไปอิสรภาพของนายได้หมดสิ้นลงแล้ว อยากฆ่าฉันนักใช่ไหม ฉันจะให้นายได้อยู่ใกล้ฉันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง โดยที่ทำอะไรฉันไม่ได้ ดูซิว่าจะทนได้สักกี่น้ำ” เมธัทดึงร่างอันอ่อนแรงเข้ามานอนซบบนตัว กอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ถือวิสาสะดอมดมตามพวงแก้มขาวอย่างหื่นกระหาย
“คุณเข้าใจอะไรผิดแล้วแน่ ๆ ผมไม่ใช่นักฆ่าอะไรทั้งนั้น ปล่อยผมไปเถอะนะ ในเมื่อเราต่างฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์กันทั้งคู่แล้ว” โกโก้ทำหน้าเศร้าเพื่อให้เขาใจอ่อน
“ไม่ต้องมาใช้มารยากับฉันหรอก มันไม่ได้ผลรู้ไว้ด้วย”
“แล้วคุณจะให้ทำยังไงถึงจะปล่อยตัวผมไป ผมไม่รู้จะทำยังไงให้คุณเชื่อแล้ว”
“ไม่มีทางปล่อย จนกว่าฉันจะพอใจ รีบใส่เสื้อผ้าซะเราจะได้รีบไปกัน” เขาปล่อยให้เป็นอิสระ โกโก้รีบลงจากเตียงไปเก็บเสื้อผ้าที่เกลื่อนบนพื้นขึ้นมาสวมใส่อย่างเร่งรีบ
“จะไปไหน” ชายหนุ่มส่งเสียงคำรามขู่ พร้อมเล็งปลายกระบอกปืนมา เท้าน้อย ๆ ชะงักงัน ค่อย ๆ หันหลังกลับมามอง
“นะ...นี่คุณจะเอาจริงงั้นเหรอ ผมไหว้ล่ะนะ ตัวผมคุณก็ได้ไปแล้ว ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่ใช่คนที่คุณพูดถึงจริง ๆ” โกโก้ยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาไหว้
“นอกจากจะเก่งเรื่องบนเตียงแล้ว นายยังเก่งเรื่องการแสดงอีกนะ ฉันยอมรับว่าไอ้อาธิปมันฝึกคนมาดีจริง ๆ ยืนนิ่ง ๆ อย่าขยับ” เมธัทลุกขึ้นจากเตียง เดินไปสวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จ สายตายังคงจ้องมองร่างเล็กแทบไม่กะพริบ
“คุณจะพาผมไปที่ไหนเหรอ”
“บ้านฉัน”
“ผมไม่ไปได้ไหม ตอนนี้เพื่อนผมกำลังรออยู่ที่บ้านเหมือนกัน ถ้าผมยังไม่กลับมันจะต้องไปแจ้งความแน่ ๆ แล้วคุณก็จะเป็นผู้ต้องหานะ”
“คิดเหรอว่าฉันจะกลัว ที่เมืองนี้ฉันมีอิทธิพลยิ่งกว่าตำรวจงี่เง่าไร้ประสิทธิภาพพวกนั้นเสียอีก ถึงยังไงนายก็หนีฉันไม่พ้นหรอก”
“ฮือ...ผมไม่อยากไป ปล่อยผมไปเถอะนะ” เจ้าตัวนั่งลงบนพื้นร้องไห้เสียงดังราวกับเด็กน้อย รู้สึกแย่กับตัวเองที่เลือกคนผิด ไม่น่าเลยจริง ๆ
“โตจนเป็นควายแล้วยังจะมานั่งร้องไห้อยู่อีก ไม่สมกับที่เป็นนักฆ่ามืออาชีพเลยจริง ๆ ฉันให้ทางเลือกนายสองทาง ทางแรกไปกับฉัน ส่วนอีกทางคืออยู่ที่นี่ต่อไป แต่อยู่อย่างไร้วิญญาณนะ” ว่าพร้อมกระตุกยิ้มร้าย เล็งปลายกระบอกปืนมาพร้อมจะเหนี่ยวไกทุกวินาที
“ไอ้คนบ้า นี่น่ะเหรอทางเลือกของคุณ เลือกทางไหนก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นเลย ฮือ...”
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง...สอง....”
“โอเค ๆ ผมยอมไปกับคุณก็ได้”
“ไปก็ลุกขึ้นสิ!”
“ทำไมต้องตวาดด้วยเนี่ย ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมีย” ประโยคหลังบ่นอย่างเบาเสียง เมธัทได้ยินไม่ถนัดหูจึงเอ่ยถามอีกครั้ง
“ว่ายังไงนะ”
“เปล่า!”
“ถ้าคิดจะตุกติกฉันยิงไม่เลี้ยงแน่!” เขาขู่เป็นการทิ้งท้าย ก่อนจะจูงมือออกไปจากห้อง