6 จอมเผด็จการ 2
ช่องว่างระหว่างวัยอาจมากเกินไปก็ได้......
“ชมพูจะกลับบ้าน”
สาวน้อยเริ่มที่จะขัดขืน เพราะสุดจะทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และให้ฝ่ายชายรู้ว่า เธอไม่พอใจ
“อ้าว ! ไม่กินข้าวก่อนเหรอ พี่ว่าจะพาไปกินร้านหนึ่ง อร่อยมากเลยนะ ขับรถไปแค่นิดเดียวเอง”
สันติภาพยังจับอารมณ์ของพวงชมพูไม่ได้ ว่าเธอเริ่มต่อต้านเขาแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ กินบะหมี่ปากซอยก็ได เรื่องกินสำหรับชมพูไม่ยากหรอกค่ะ แค่อิ่ม ไม่จำเป็นต้องกินหรู หรือกินอร่อย” ”
พวงชมพูเริ่มตีรวน ซึ่งเขารู้ดีว่าเธออารมณ์เสียเพราะไม่ยอมให้ไปเที่ยวกับเพื่อน ในเวลานี้เขาเองก็กรุ่นเหมือนกัน ตะกอนความไม่พอใจฟุ้งขึ้นมาจึงจอดรถ มองหน้ารูปไข่ขาวผ่องที่ยังคงนิ่ง ค่อนไปทางบึ้งตึง ครั้นเธอหันมา พบกับสายตากร้าววาวโรจน์ รู้ว่าจะต้องมีเรื่องปะทะคารมกันอีกตามเคย
“เราคงมีเรื่องที่ต้องคุยกันยาว”
เพียงแค่พวงชมพูไม่ทำตามที่เขาต้องการ คราวนี้เกิดเรื่อง สีหน้าฝ่ายชายเริ่มเข้มขึ้น แต่สาวสวยก็ไม่หวั่น จึงแย้งขึ้นอีก
“อะไรคะ ชมพูมีรายงานที่จะต้องทำ”
“ในเมื่อรู้ว่ามีรายงาน แล้วจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนอีก ไม่ต้องหาเรื่องมาอ้างหรอก พี่รู้ว่าเราไม่พอใจพี่ ทำไม ความหวังดีทำให้ชมพูอึดอัดหรือไง”
สันติภาพเริ่มเสียงดังอีกแล้ว หญิงสาวถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ในใจเศร้าเหลือเกิน ได้แต่ถามตัวเองว่า ทำไมชีวิตจะต้องลงเอยด้วยความทุกข์ขนาดนี้ พ่อแม่ที่เลิกกันคือสาเหตุใช่ไหม ไม่มีใครคอยดูแล เลี้ยงอย่างทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ
“อย่าเสียงดังสิคะ ชมพูเหนื่อยมากเกินไปแล้วค่ะ”
หญิงสาวเสียงสั่น น้ำตาคลอหน่วย เสียงสะอื้นเริ่มเกิดขึ้น ซึ่งเขาหาได้ใส่ใจแต่อย่างใด มองเธอด้วยสายตาขุ่นขวาง วันนี้เหนื่อยกับงานเกินไป หวังว่าเจอหน้าคนรักคงจะมีความสุข ใช้เวลาที่มีเพียงน้อยนิดเติมความหวานให้แก่ชีวิต
ทุกอย่างพังลงเพราะเรื่องที่ไม่เข้าท่า
“ชมพูเหนื่อยคนเดียวเหรอ แค่เรียนอย่างเดียว วันนี้พี่เหนื่อยมาก เจอลูกค้าหลายประเภท ต้องแก้ปัญหาเอง ลูกน้องสองคนถูกจับ รถที่เช่าไปพัง สารพัดปัญหา เจอหน้าชมพู หวังว่าจะทำให้พี่ชื่นใจบ้าง ต้องมาเป็นแบบนี้อีก”
“โอเคค่ะ ชมพูผิดเอง ทำให้พี่เหนื่อย ไม่สบายใจ จนต้องทำเสียงดังอย่างนี้ ขอโทษค่ะ”
ยกมือไหว้แล้วนั่งนิ่ง ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก เขาถอนใจเฮือกใหญ่ มองหน้าก่อนจะขับรถเลี้ยวเข้าไปยังร้านอาหารชื่อดัง และเดินลงไป พวงชมพูอยากจะส่งเสียงกรี๊ด ๆ ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น เธอไม่ต้องการมากินแบบนี้
“สวัสดีค่ะ คุณสันติ วันนี้พาน้องสาวมาทานข้าวหรือคะ”
สาวสวยแต่งตัวดี ยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับทักทายเสียงหวาน สันติยิ้มนิด ๆ ไม่พูดอะไร พวงชมพูรู้สึกผิดปกติ ทำไมเขาไม่บอกผู้หญิงคนนี้ว่าเธอเป็นแฟน หรือจะปกปิด เพราะท่าทางเธอกับเขาค่อนข้างสนิทกัน
เขาปล่อยให้เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ส่วนเขาเข้าไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น หัวเราะต่อกระซิกอย่างมีความสุข
‘ในเมื่อชอบผู้หญิงคนนี้แล้วมาเป็นแฟนกับเราทำไม คิดจะจับปลาสองมือหรือไง’
หญิงสาวเครียดหนักยิ่งกว่าเดิม ทำท่าจะร้องไห้ออกมา ชิงชังต่อความประพฤติของเขาเหลือเกิน ผู้ชายเวลามีเงิน สามารถที่จะหาผู้หญิงได้ง่าย ๆ
‘เจ้าชู้ กะล่อน เขาจะเอายังไงกับเรานะ ฮึ อยู่กับเราทำเป็นยุ่ง เหนื่อย ปวดหัว ทีกับผู้หญิงหน้าขาวคนนั้นล่ะ ยิ้ม หัวเราะ’
พวงชมพูน้อยใจจนแทบไม่อยากรับประทานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า มีความรู้สึกว่ามันยากที่จะฝืน ได้แต่มองว่าเมื่อไหร่เขาจะมาเสียที ในที่สุด ตัดสินใจที่จะกลับ เมื่อเขาไม่ให้ความสนใจแก่ตัวเอง
“ชมพูจะไปไหน หยุดเดี๋ยวนี้นะ พี่บอกให้หยุดไง ”
ทันทีที่เห็นเธอก้าวออกจากร้าน สันติภาพวิ่งมาจับแขน ถามเสียงห้วน พวงชมพูหน้าร้อนผ่าว น้ำตาคลอหน่วย ทำท่าจะร้อง แต่พยายามฝืน ไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็นเด็ดขาด เธอจะต้องเข้มแข็งเอาไว้
“กลับบ้านค่ะ”
“ไม่ได้ พี่ยังคุยธุระไม่เสร็จ ไปนั่งที่โต๊ะ เดี๋ยวนี้”