ตอนที่ 2 ข้ามีคนรักอยู่แล้ว
ปลายยามห้าย
กระจกท้องแดงสะท้อนภาพหญิงงามที่กำลังนั่งสางผมเบาๆ ใบหน้ารูปไข่ ดวงตางามกลมโตดูสดใส จมูกเล็กเรียวที่ปลายเชิดขึ้นเล็กน้อยรับกับปากบางสีแดงระเรื่อ คิ้วงามถูกแต่งทรงเล็กน้อยโค้งรับใบหน้า อีกทั้งผิวกายยังขาวเนียนละเอียดมิเหมือนกับสตรีชาวบ้านทั่วไป นางมิได้งดงามเทียบเท่ากับคุณหนูในห้องหอจวนต่างๆ แต่กลับงดงามสบายตาเพราะความบริสุทธิ์ที่ส่งผ่านมาจากด้านใน แต่ถึงอย่างนั้นนางก็เป็นคนสู้คน อะไรที่นางต้องเสียเปรียบก็ไม่ปล่อยผ่าน เช่นนั้นสตรีตัวเล็กๆคนเดียวที่ไม่มีครอบครัวเป็นที่พักทางใจไม่มีบ้านให้กลับ คงอยู่ไม่ได้มาถึงทุกวันนี้
"ข้าว่าที่คุณหนูซูฮวาไม่ชอบหน้าเจ้า เพราะเจ้างดงามกว่านางเสียสิไม่ว่า"
ถิงถิง สาวใช้อีกนางที่เป็นสหายและนอนห้องพักบ่าวรับใช้ด้วยกัน เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"ถิงถิง เจ้าพูดถึงคุณหนูไม่ดีเลยนะ"
ลู่เข่อซินเอ่ยเตือนสหาย ถึงอย่างไรนางก็ทำงานที่นี่ นางอยากอยู่อย่างสงบสุขไปจนกว่านางจะได้ออกไป ไม่อยากสร้างปัญหาหรือหาเรื่องใส่ตนเอง อยากเป็นคนธรรมดาที่ถูกกลืนกินไปในจวนไม่เป็นที่เตะตาผู้ใด
"ข้าพูดจริงนี่หน่า คุณหนูใหญ่เอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย แต่พออยู่ต่อหน้าท่านอ๋องกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ข้าอยากให้ท่านอ๋องมาที่จวนหลี่บ่อยๆจัง วันนั้นคงสงบไม่น้อย"
ลู่เข่อซินได้แต่ส่ายหน้า นิสัยของหลี่ซูฮวานางก็เคยรับมือมาบ้าง แต่ก็คิดว่าคงเป็นเรื่องปกตินางถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก อยากได้อะไรก็ต้องได้ ตอนเด็กๆท่านพ่อท่านแม่เองก็ตามใจนางไม่น้อยขนาดพวกท่านมิได้ร่ำรวยเท่าเสนาบดีหลี่ด้วยซ้ำ พอเอ่ยมาถึงตรงนี้ก็พลอยทำให้นางรู้สึกเศร้าใจ อาทิตย์หน้าก็ครบกำหนดวันตายของพวกท่านแล้ว
"เหงาเหลือเกินเจ้าค่ะ พวกท่านอยู่บนนั้นสบายดีหรือไม่เจ้าคะ" หญิงสาวเอ่ยกับตนเองในใจขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่าง หิมะโปรยปรายลงมาไม่หยุด
"ซินซิน นี่เข่อซิน!"
"เจ้าว่าอะไรนะ"
เสียงเรียกของสหายทำให้นางได้สติ
"ช่วงนี้เจ้าเป็นอันใดไป ข้ารู้สึกว่าเจ้ามักเหม่อลอยอยู่บ่อยๆ ที่โรงซักผ้าใช้งานเจ้ามากไปหรือ หากไม่ยุติธรรมข้าไปบอกพ่อบ้านป๋อหลินได้นะ"
"มิต้องหรอกข้ามิได้ถูกใช้งานหนัก ว่าแต่เจ้าเถิดเมื่อสักครู่จะพูดอันใดกับข้า"
"ข้าจะบอกเจ้าว่า อ๋องหนิงเฉินรูปงามยิ่ง เมื่อตอนกลางวันข้ายกน้ำชาไปให้ ได้เห็นเขาที่อยู่ไกลตั้งหนึ่งฉื่อกลับรู้สึกว่าดวงตาคู่นั้นยากที่จะละสายตา กลิ่นหอมสะอาดที่ลอยออกมาจากตัวท่านอ๋องทำเอาใจข้าแหลกเหลว มิแปลกที่คุณหนูใหญ่หลงรักเสียขนาดนั้น บ่าวรับใช้เช่นข้าคงมิมีวาสนาแม้เพียงได้อยู่ต่อหน้าท่านอ๋องกระมังชาตินี้"
"......"
คำพูดของถิงถิงทำเอาหญิงสาวชะงักไป ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน ดวงตาเคลือบแก้วนั้นนางเองก็ได้เห็นมันชัดๆเต็มตาใกล้ๆเช่นกัน เป็นดวงตาที่นางบันทึกเอาไว้ในหัวเสียแล้ว
"แต่อย่างนั้นข้าก็ไม่เสี่ยงหรอกนะ เจ้ารู้หรือไม่ชาวบ้านต่างลือกันว่าท่านอ๋องโหดร้าย ป่าเถื่อน เหี้ยมโหด ที่จวนอ๋องมักจะได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาตลอด ว่ากันว่าหากบ่าวรับใช้คนใดทำไม่ดีหรือทำให้ท่านอ๋องไม่พอใจละก็.....จะทรมานโดยการตัดนิ้ว หรือทำร้ายร่างกายอะไรทำนองนั้น"
ถิงถิงไม่เอ่ยเปล่ายังทำท่าทางและเสียงให้รู้สึกหวาดกลัวชวนขนลุกอีกด้วย
"เจ้าพูดเกินจริงไปหรือไม่ ข้าว่าท่านอ๋องก็ใจดีออก ไม่เห็นโหดร้ายอย่างที่คนด้านนอกลือหรือเหมือนที่เจ้าบอกเลยสักนิด"
"นี่ๆๆๆๆ นี่เจ้ากำลังแก้ตัวให้ท่านอ๋องอยู่หรือ หรือว่าเจ้าหลงเสน่ห์ท่านอ๋องไปเสียแล้ว"
"หลงเสน่ห์อะไรของเจ้ากันข้ามีคนรักอยู่แล้ว เพียงพูดไปตามจริงทั้งนั้น"
เมื่อตอนกลางวันเขาทั้งพูดจาดีกับนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับบ่าวรับใช้อีกด้วย
"นั้นสิข้าลืมไป เจ้ากับเจียวมิ่งรักกันเสียขนาดนั้นจะมาหลงเสน่ห์ท่านอ๋องได้อย่างไร รองแม่ทัพก็รูปงามมิน้อยเนาะ"
ถิงถิงเอ่ยอย่างคิดตาม ลู่เข่อซินได้แต่ส่ายหน้าให้กับนาง ก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่างที่แง่มเปิดอยู่ สายตากลับรู้สึกว่าเห็นเงาอะไรแว๊บๆ แต่อากาศหนาวอีกทั้งหิมะตกหนักเช่นนี้คงไม่มีผู้ใดมาเดินเล่นอยู่หลังเรือนบ่าวรับใช้เช่นนี้หรอกกระมัง เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ปิดหน้าต่างและเข้านอนทันที
