บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 19 ข้าทำได้เพียงถนอมเจ้าในความลับ

"ท่านอ๋องจะไปดูแม่นางลู่หน่อยหรือไม่ขอรับ"

หวังเหล่ยเอ่ยถามผู้เป็นนายหลังเดินออกมาจากห้องโถง โจวหนิงเฉินชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางเดินไปยังเรือนที่หญิงสาวกำลังให้ท่านหมอรักษา แต่เพียงเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นคนผู้หนึ่งเดินตัดหน้าตนไป เจียวมิ่งเดินกึ่งวิ่งไปด้วยความร้อนรน เขาเป็นห่วงหญิงสาวเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเท้ายาวก็ยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าช้าๆ

บานหน้าต่างไม้ถูกเปิดกว้าง เห็นหญิงสาวที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลทั้งหลัง ท่านหมอคงรักษาให้นางเสร็จแล้ว ภาพของเจียวมิ่งที่เข้าไปหาหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ลูบที่หัวนางเบาๆอย่างที่เขาอยากทำที่สุด เช็ดน้ำตาของนางที่ไหลออกมาอย่างเบามือ กอดปลอบนางไม่ให้กลัว ภาพที่เขากำลังเห็นตอนนี้เหมือนกับมีดที่ทิ่มแทงเข้ามาที่ขั่วหัวใจ

"อาการนางเป็นเช่นไรบ้าง"

โจวหนิงเฉินเอ่ยถามท่านหมอที่รักษาเสร็จแล้วเดินผ่านมาพอดี

"เรียนท่านอ๋องที่หลังของแม่นางลู่บาดเจ็บสาหัสมากขอรับ อีกทั้งบาดแผลยังลึกอีกด้วย เกรงว่าหนึ่งอาทิตย์นี้นางคงยังลุกไม่ได้ หากจะหายดีต้องใช้เวลากว่าหนึ่งเดือน เพียงแต่ข้าเกรงว่า...."

"มีอันใดหรือ"

หวังเหล่ยถามย้ำเพราะรอคำตอบไม่ไหว

"หลังบาดแผลหาย คงทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้ขอรับ"

โจวหนิงเฉินพยักหน้าเข้าใจก่อนจะปล่อยให้ท่านหมอไปได้ ดวงตาคมมองไปยังภาพนั้นพลางถอนหายใจออกมา นางเพียงต้องพักผ่อนให้มากถึงจะหาย จากเรื่องที่เขาพูดไปเมื่อสักครู่หลี่จื่อหานคงรู้แล้วว่าต้องทำเช่นไร เขามิห่วง แต่ที่เขากังวลคือไม่อยากให้นางต้องรู้สึกเจ็บ ก่อนจะเดินหันหลังออกมา ไม่เข้าไปหาหญิงสาว ลู่เข่อซินรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง จึงมองออกไปทางหน้าต่างแต่ก็พบว่าไม่มีผู้ใด

"เราจะไปที่ใดกันขอรับท่านอ๋อง"

"วังหลวง"

"ขอรับ"

หวังเหล่ยรับคำสั่งผู้เป็นนาย ก่อนจะไปบอกโม่โฉ่วเกี่ยวกับเรื่องสั่งโบยคุณหนูหลี่ซูฮวา รถม้าเคลื่อนตัวจากตระกลูหลี่เข้าวังหลวงในรอบหลายเดือน แต่รถม้ากลับไม่ได้ไปทางวังหลวงฝ่ายในที่ฝ่าบาทอยู่เหมือนรถม้าคันอื่น แต่ตรงดิ่งไปยังสำนักหมอหลวง ทันทีที่รถม้าจอดลงทุกคนต่างแตกตื่นไปตามๆกัน เหตุการณ์เช่นนี้มิได้มีบ่อยครั้ง หากฝ่าบาทจะมายังมีคนมาบอกกล่าวล่วงหน้า แต่ครานี้อ๋องหนิงเฉินมาเยือนกลับไม่มีใครรู้ก่อน

"คารวะท่านอ๋อง มิทราบว่าท่านอ๋องเสด็จมาครั้งนี้มีอันใดให้พวกกระหม่อมรับใช้พะยะคะ"

หัวหน้าหมอหลวงรีบเข้ามาเอ่ยต้อนรับ พร้อมด้วยหมอหลวงอีกสิบกว่าตนตั้งแถวเรียงหน้ากระดาษ

"เข้าไปคุยกันด้านในเถิด"

ชายหนุ่มเองก็รู้สึกไม่ดีเช่นกันที่มาปุบปับเช่นนี้ไม่ได้บอกล่วงหน้า ก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน ทันทีที่เปิดประตูกลิ่นยาก็ลอยมาปะทะจมูก บัณฑิตที่กำลังหัดปรุงยากว่ายี่สิบคนหันมาทำความเคารพเขา ส่วนหมอหลวงคนอื่นก็กลับไปทำหน้าที่ตนเองเช่นกัน มีเพียงหัวหน้าหมอหลวงที่เดินตามชายหนุ่มมา

"ข้าอยากได้ยาสมานแผลที่ดีที่สุด หายเร็วอีกทั้งไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็น ไม่ทราบว่ามีหรือไม่"

โจวหนิงเฟิงเอ่ยความต้องการของตนเองทันที

"มีพะยะคะ แต่ยานี้อนุญาตให้ใช้แค่กับเชื้อพระวงศ์เท่านั้นเนื่องด้วยส่วนผสมมีราคาสูงมาก ท่านอ๋องรอสักครู่กระหม่อมจะไปทำเรื่องและหยิบมาให้"

"ว่าแต่เฟิ่งเย่วมาหรือไม่วันนี้"

"หมอหลวงเฟิ่งเย่วมาพะยะคะ อยู่ห้องปรุงยาแก้พิษให้กระหม่อมพาไปหรือไม่พะยะคะ"

"มอเป็นไรเจ้าไปจัดการเถิด เดี๋ยวข้าไปเอง"

เอ่ยจบชายหนุ่มก็เดินไปยังห้องที่หัวหน้าหมอหลวงบอกทันที เขาคุ้นชินที่นี่ดีเนื่องด้วยสมัยเด็กมักชอบมาคุกตัวที่นี้เพื่อเรียนตำราแพทย์ เขามีสหายผู้หนึ่งที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กนั่นก็คือเฟิ่งเย่ว จนตอนนี้ชายหนุ่มได้เป็นหมอหลวงตามความฝันแล้ว

"ข้ามาทั้งทีมิออกไปต้อนรับหน่อยหรือ"

"เจ้ามิมาข้าจะขอบใจมากกว่า"

เพราะเป็นสหายกันมากว่าสามสิบปี ทำให้เอ่ยกันอย่างสนิทสนม ทั้งคู่อายุเท่ากันบ่อยครั้งที่เขาเข้ามาวังหลวงก็มาหาสหายผู้นี้บ่อยเสียกว่าน้องชายที่ขึ้นเป็นฮ่องเต้เสียอีก เฟิ่งเย่วติดตามชายหนุ่มไปเป็นแพทย์สนามทุกที่ที่ออกรบ พอเขาสละตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ปลีกตัวไปอยู่นอกวัง เขาก็ผลันตัวมาเป็นหมอปรุงยาถอนพิษ แต่กลับได้ฉายาผู้ปรุงยาพิษที่ไม่มีใครสามารถถอนได้ ยิ่งเขาเก่งและรู้วิธีแก้พิษมากเท่าไหร่ ก็รู้วิธีที่ใช้ปรุงยาพิษที่อันตรายเท่านั้น

"........"

โจวหนิงเฉินไม่ได้เอ่ยตอบ เฟิ่งเย่วจึงหันมาดูหน้าสหาย ใบหน้าของชายหนุ่มแสดงออกว่ามีเรื่องกลุ้มใจอย่างปิดไม่มิด

"ทำหน้าเช่นนี้สนใจยาพิษของข้าฆ่าตัวตายหน่อยหรือไม่"

เฟิ่งเย่วเอ่ยหยอกล้อสหายอย่างที่มักทำเป็นประจำ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ตอบอันใดเช่นเดิม

"เฮ้อ~ เจ้ามาหาข้าแต่ก็เอาแต่เงียบ อาการเจ้าเช่นนี้หรือว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับนาง"

ทั้งคู่ไม่มีความลับต่อกัน วันนั้นเมื่อห้าปีที่แล้ว ตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บก็ได้ชายหนุ่มที่รักษาเขาต่อจากที่ลู่เข่อซินช่วยชีวิต

"มีเรื่องนิดหน่อย"

"ข้าได้ข่าวว่านางกำลังจะออกเรือน เจ้าบ่าวคือรองแม่ทัพเจียวมิ่ง ข้าถามจริงๆนะเจ้ามิคิดจะสู้เพื่อให้ได้นางมาครอบครองบ้างหรือ ข้าเห็นเจ้าคอยแต่ช่วยนางอยู่เช่นนี้ทั้งที่นางไม่รู้เลยมาตลอด เห็นแล้วข้าอึดอัดแทนเช่นไรมิรู้ เจ้าเป็นถึงอ๋องหนิงเฉินเชี่ยวนะ มีสตรีที่ใดกล้าปฏิเสธเจ้ากัน"

"เจ้าก็รู้ว่าข้ามิคิดแยกสตรีที่มีเจ้าของ"

"สตรีผู้นั้นก็เลยได้แต่งงานกับผู้อื่นใช่หรือไม่.....นี่ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ นี่!"

เฟิ่งเย่วยังเอ่ยไม่ทันจบสหายก็เดินออกไปเสียแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าพลางคิดในใจว่าเขาต้องไปเยี่ยมที่จวนเสียแล้ว ท่าทางจะเป็นเอามาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel