ตอนที่ 11 อยู่กับข้าเจ้ามิต้องเอาแต่เอ่ยขอโทษทุกเรื่อง
"ข้าตอบเจ้าได้ทุกเรื่อง"
คำตอบของท่านอ๋องทำเอานางผ่อนลมหายใจออกมา เขาดูไม่ถือตัวเลยแม้แต่น้อยถึงจะเป็นคนระดับสูงมากก็ตาม ยามอยู่จวนหลี่ ไม่ว่าจะนายท่านหลี่ คุณหนูคุณชายในจวนมักรังเกียจบ่าวรับใช้อย่างนางเป็นที่สุด จะเข้าใกล้แต่ละทีก็ถูกสายตาและคำพูดไม่ดีตลอด ที่ผ่านมานางจึงระวังตนกับคนระดับสูงๆ แต่ท่านอ๋องกลับต่างออกไป ด้านนอกร่ำลือว่าเขาโหดร้ายและอารมณ์ร้าย วันนี้ยามได้อยู่กับเขาแล้วนางมองว่าเขาตรงข้ามเสียทุกอย่างที่ทุกคนลือกัน เขาดีกว่าเหล่าขุนนางพวกนั้นด้วยซ้ำ
"วันนี้ขอบคุณท่านอ๋องที่ช่วยและให้ข้าติดรถม้าลงมาด้วยเจ้าค่ะ เอ่อ... ท่านอ๋องไปทำอันใดที่บนนั้นหรือเจ้าคะ"
หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยถามออกไป สถานที่แห่งนั้นมิเหมาะกับเขาเลยแม้แต่น้อย บนเขามีแต่หลุมฝังศพของชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น
"เมื่อห้าปีก่อน บุตรสาวของคนผู้หนึ่งเคยช่วยชีวิตข้าไว้ วันนี้ของทุกปีข้าจึงต้องไปที่นั่น"
โจวหนิงเฉินเอ่ยพลางหันมามองหน้าหญิงสาว เขาพูดถึงขนาดนี้แล้วไม่รู้ว่านางจะนึกอันใดออกบ้างหรือไม่
"เอ่อ...ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ บังเอิญจังเลยนะเจ้าคะ"
"ท่านอ๋องนิ้วของ...."
เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นขัดบทสนทนาของทั้งคู่ หวังเหล่ยที่รีบร้อนเพราะเกินเวลาที่ท่านอ๋องสั่งแล้ว หลังได้รับนิ้วจากเฟยอินจึงวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นนายจนลืมดูว่าเขาไม่ได้อยู่ผู้เดียว เพราะยามปกติท่านอ๋องมีแขกที่ใดกัน คำพูดของหวังเหล่ยขาดหายไปแต่ประโยคที่ได้ยินนั้นทำเอาหญิงสาวขนลุกซู ดวงตางามมองไปยังในมือถือหีบกล่องเล็กๆที่ด้านในไม่รู้ว่ามีอันใดอยู่ จะใช่นิ้วเหมือนที่เอ่ยยังไม่จบนั้นหรือไม่ ชายหนุ่มนำกล่องนั้นมาให้ผู้เป็นนาย ร่างบางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ใบหน้าซึดลงเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้วางบนโต๊ะก็ถูกฝ่ามือใหญ่โบกมือให้นำออกไปเสียก่อน หวังเหล่ยมองหน้าลู่เข่อซินที่มองมายังตนก็เข้าใจทันที
จ๊อก~
เสียงท้องของหญิงสาวดังออกมาเรียกความสนใจของชาย มือเรียวรีบยกขึ้นกุมท้อง ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย ตอนนี้นางอยากจะเอาตัวเองใส่กระสอบแล้วไปโยนทิ้งซะ หรือไม่ก็มุดแผ่นดินหนีไปเลยก็ได้
"หวังเหล่ยไปนำอาหารมาให้"
"ขอรับ"
หวังเหล่ยรับคำก่อนจะรีบออกไปจัดการทันที
"ขออภัยเจ้าค่ะ"
"เจ้าทำอันใดผิดหรือ"
เสียงทุ้มเอ่ยถามนางเรียบๆ ขณะที่สายตายังคงอ่านรายงานตรงหน้า
"......."
แต่แล้วก็ยังไม่เห็นนางเอ่ยอันใดออกมา
"ข้าจะบอกเจ้าแค่ครั้งเดียว ที่จวนข้ามิได้หวงข้าวหรืออาหาร อยากกินตอนไหนหรือว่าอยากกินอะไรก็กินได้เลย เหตุใดต้องอด เจ้าหิวแล้วไม่เอ่ยบอกผู้อื่นจะรู้หรือ อย่าให้ข้าเห็นว่าต่อจากนี้ไปกินข้าวไม่ครบสามมื้อ มิเช่นนั้นคงเสียดายยาสูตรลับของจวนข้าที่ให้เจ้ากินแล้วเสียเปล่า"
โจวหนิงเฉินใช้น้ำเสียงดุหญิงสาวเล็กน้อย ขนาดเขายังเป็นห่วงนางขนาดนี้ นางไม่คิดจะเป็นห่วงตนเองให้เขาสบายใจหน่อยหรือ มิแปลกใจทุกครั้งที่พบนางมักจะดูผอมลงทุกครา
"อาหารได้แล้วขอรับ"
หวังเหล่ยเอ่ยบอกก่อนที่บ่าวรับใช้ห้าคนถืออาหารเข้ามาในห้อง และวางมันที่โต๊ะไม้อย่างสวยงาม กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูกเรียว ร่างใหญ่โบกมือให้ทุกคนออกไปก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
"เหตุใดยังไม่มาทานข้าวอีก"
"มิเหมาะสมเจ้าค่ะ "
หญิงสาวเอ่ยออกไปตามตรง นางไม่ได้เจียมตนเองแต่ยามปกติมีที่ใดผู้เป็นนายนั่งกินข้าวร่วมกับบ่าวรับใช้ อีกทั้งเขามิใช่คนธรรมดาอย่างขุนนางทั่วไปอีกด้วย นางทำไม่ได้จริงๆที่จะนั่งร่วมโต๊ะกินอาหารร่วมกับท่านอ๋อง
"หวังเหล่ย"
"ขอรับท่านอ๋อง"
"มาทานอาหารกับข้า และหากเจ้าพานางมาทานข้าวมิได้คืนนี้เจ้าก็ฝึกวรยุทธ์จนถึงยามเฉินมิต้องนอน"
เสียงเข้มเอ่ยดังชัดเจน ก่อนจะหยิบตะเกียบคีบอาหารเข้าปากตนเอง หวังเหล่ยเดินมาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้วยใบหน้าสิ้นหวัง เขาไม่อยากฝึกวรยุทธ์ทั้งคืนจริงๆ ดวงตางามมองร่างใหญ่ที่นั่งทานอาหารไม่สนใจความทุกข์ร้อนและเรื่องที่นางลำบากใจเลยแม้แต่น้อย ลู่เข่อซินหันไปพยักหน้าให้หวังเหล่ยอย่าตกลง เพราะเหตุการณ์ที่เคยประสบทำให้นางระวังตนเองเสียทุกอย่าง ไม่เคยมีใครดีกับนางเช่นนี้จึงรู้สึกไม่สบายใจ
ลู่เข่อซินเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับโจวหนิงเฉิน ด้านข้างมีหวังเหลยนั่งอยู่ มือเรียวหยิบตะเกียบขึ้นมาก่อนจะคีบอาหารที่ตรงหน้านางกินเท่านั้น แต่ขณะนั้นเองโจวหนิงเฉินกลับคีบเนื้อเป็ดย่างมาวางที่จานของนาง และวางที่จานของหวังเหล่ยด้วยเช่นกัน หวังเหล่ยมีท่าทีตกใจตาโต เขาทำงานกับท่านอ๋องมาทั้งชีวิต ไม่เคยมีครั้งไหนที่ท่านอ๋องคีบอาหารให้ตนเลยสักครั้ง หากนั่งทานอาหารร่วมกันยังพอมีบ้าง
"ขอบคุณท่านอ๋องเจ้าค่ะ"
"ข้าอิ่มแล้ว พวกเจ้าสองคนทานอาหารให้หมด ห้ามเหลือแม้เพียงชิ้นเดียว"
โจวหนิงเฉินเอ่ยจบก็ลุกออกไปนั่งที่โต๊ะทำงานเช่นเดิม ลู่เข่อซินมองตามร่างใหญ่ที่เดินออกไป พลางคิดในใจว่าเขาทานอาหารน้อยขนาดนี้เชียวหรือ ใบหน้าคมยังคงจดจ่อที่รายงานอย่างตั้งใจเช่นเดิม ก่อนที่นางจะก้มมองเนื้อที่ท่านอ๋องเพิ่งคีบให้เมื่อสักครู่และคีบมันเข้าปาก
"นี่แม่นางลู่อาหารถูกปากหรือไม่ เจ้ากินเยอะๆนะช่วยข้ากินให้หมด"
หวังเหล่ยเอ่ยพลางคีบอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย หญิงสาวเองก็ไม่สนใจแล้วเช่นกัน นางหิวมาหลายชั่วยามแล้ว จึงคีบอาหารเข้าปากจนแก้มพอง โจวหนิงเฉินเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่เคี้ยวข้าวเต็มปากก็ยิ้มออกมาบางๆ เขาไม่อยากให้นางลำบากใจจึงออกมาให้นางทานได้เยอะๆ
