บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 ท่านหล่อเหลามากเจ้าค่ะ

"เข้ามาได้แล้ว ด้านนอกอากาศหนาว"

โจวหนิงเฉินเอ่ยทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้ามองนางด้วยซ้ำ เขาเป็นถึงอดีตแม่ทัพใหญ่วรยุทธ์ไม่ธรรมดา ได้ยินตั้งแต่เสียงนางเดินมากับแม่นมลี่ฉุนแล้ว หญิงสาวได้สติตนเองก่อนจะค่อยๆเดินย่องเข้าไปหาชายหนุ่ม ลู่เข่อซินรู้สึกว่าตนเองตัวรีบเล็ก นางเป็นใครไม่รู้จู่ๆกลับได้มายืนสนทนากับอ๋องหนิงเฉินส่วนตัวเช่นนี้ หลายคราที่นางเคยเห็นนายท่านหลี่ขอเข้าพบพระองค์แต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอด

"คารวะท่านอ๋องเพคะ...จะเจ้าค่ะ"

หญิงสาวมีท่าทีประหม่าเล็กน้อยขณะที่อยู่ต่อหน้าเขา บารมีที่แผ่ออกมาจากตัวท่านอ๋องนั้นทำเอานางไม่กล้าแม้แต่หายใจแรงด้วยซ้ำ หากพูดอันใดผิดไปจะถูกจับตัดหัวอย่างที่คนด้านนอกเขาลือไหมนะ

"มีอะไรหรือทำไมไม่พักผ่อนให้หายดี"

"ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ"

หญิงสาวรีบเอ่ยออกไปอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมอง ลู่เข่อซินที่มองชายหนุ่มอยู่ก่อนแล้วเผลอสบตาเข้ากับดวงตาคมอย่างมิได้ตั้งใจ ก่อนจะรีบก้มหน้ามองพื้นทันที โจวหนิงเฉินส่ายหน้าให้กับท่าทีของนาง พลางเหลือบไปเห็นเท้าเรียวขาวที่ยืนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"เหตุใดมิใส่รองเท้า"

คำถามของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวไม่รู้จะตอบเช่นไร เหตุใดเขาถึงได้ใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ รองเท้าของนางสกปรกจึงถอดเอาไว้เพราะเห็นว่าอยู่ในตำหนักเดียวกัน

"คือว่า....แม่นมลี่ฉุนบอกว่าหากอยากออกไปให้มาขอท่านอ๋องก่อน"

มือใหญ่ที่กำลังเขียนรายงานชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาไม้บอกเวลาตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว อีกทั้งในใจของเขายังไม่อยากให้นางกลับ ไม่รู้ว่าคราหน้าจะมีโอกาสได้อยู่ใกล้นางแบบนี้อีกไหมหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้

"หือ~ หมอหลวงบอกว่าเจ้าเป็น....."

"เป็นโรคร้ายหรือเจ้าค่ะ มิได้เป็นไข้ธรรมดาหรือ"

สีหน้าของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวเดาไปต่างๆนาๆ ดวงตางามเบิกกว้างตกใจขณะรอคำตอบที่เขาไม่พูดออกมาเสียที โจวหนิงเฉินที่เห็นเช่นนั้นก็ตีหน้าเศร้าไม่เอ่ยอันใด

"เจ้ากินเทียบยาให้หมดก็หายแล้ว แต่ยานั้นต้องปรุงพิเศษมีเพียงแม่นมลี่ฉุนเท่านั้นที่ทำได้"

"ข้าเรียนรู้เร็วเจ้าค่ะ เพียงสอนข้าคราเดียวก็ทำตามได้แล้ว"

"นี่คือสูตรลับของจวนข้าหากเจ้าอยากได้ก็จ่ายค่าตำรามา และถ้าหากเจ้ามิอยากหายก็กลับไปตอนนี้ได้เลย"

โจวหนิงเฉินเอ่ยดักหญิงสาวเอาไว้ก่อน จากคำพูดดูเหมือนว่านางจะไหวพริบดีไม่น้อย เขาอยากแน่ใจว่านางจะกินยาจนครบตามที่หมอหลวงบอกและหายดี เขาไม่ได้บอกว่านางเป็นโรคร้าย แต่นางเข้าใจไปเช่นนั้นเองโทษเขามิได้ ลู่เข่อซินทำแก้มป่องอย่างถอดใจนางไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วมันอึดอัดไปหมด นางรู้จักร่างกายตนเองดีว่าตอนนี้ตนเองไม่สบายมากก็จริง แต่ก็นับว่าดีขึ้นมาบ้างแล้ว อยากกลับไปนอนซมที่เรือนบ่าวรับใช้เล็กๆดีกว่า เพราะอย่างไรนางก็ลาหยุดงานเอาไว้ก่อนแล้ว

"ข้าอยู่ต่อเจ้าค่ะ แต่ว่า...เอ่อ....ค่ายา....."

หญิงสาวดูเหมือนจะกังวลไม่น้อย ไหนจะอยู่ที่จวนท่านอ๋อง ค่าที่หมอหลวงมาตรวจ อีกทั้งค่ายาที่นางต้องกินเพื่อให้หายอีก มิใช่ว่านางต้องขนเงินเก็บทั้งหมดมาจ่ายเขาหรอกกระมัง

"ฝนหมึกเป็นหรือไม่"

"ข้าฝนให้นายท่านหลี่บ่อยครั้งเจ้าค่ะ"

"เช่นนั้นก็มาฝนหมึกให้ข้าแลกกับค่ายา"

โจวหนิงเฉินเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะก้มสนใจรายงานตรงหน้า ลู่เข่อซินอยู่ยืนตรงนั้นชั่วครู่ ค่าใช้จ่ายมากมายที่เขาเสียไป ชายหนุ่มจะให้นางชดใช้เพียงแค่เรื่องเล็กๆอย่างการฝนหมึกอย่างนั้นหรือ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปที่ข้างๆชายหนุ่มแต่ก็ยังอยู่ห่างพอสมควร เนื่องด้วยไม่กล้าเข้าใกล้เขามากนักจึงเอื้อมมือไปฝนหมึกเบาๆ โจวหนิงเฉินรู้สึกถึงความผิดปกติจึงเบนสายตาไปมองที่นาง

"เจ้ายืนฝนหมึกดีๆหน่อย ขยับเข้ามาใกล้ๆ ข้าน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ"

โจวหนิงเฉินไม่เอ่ยเปล่าโยนเบาะรองนั่งให้หญิงสาวเหยียบ ลู่เข่อซินขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่มก่อนจะยืนบนเบาะรองนั้นเมื่อสักครู่ มันนุ่มสบายเท้ามากอีกทั้งไม่ต้องยืนบนพื้นเย็นๆอีกด้วย ก่อนจะตั้งใจฝนหมึกให้เขาเช่นเดิม โจวหนิงเฉินหยิบพู่กันแล้วจุ่มหมึกที่นางฝน จากนั้นบรรจงเขียนลงไปในกระดาษ แต่เขียนไปได้เพียงไม่กี่คำเขากลับพบความผิดปกติ มือหนาเอื้อมมือไปจับมือเรียวที่กำลังฝนอยู่ ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็ถูกเขาจับมือ แต่ชายหนุ่มไม่ย่อมปล่อยให้นางเป็นอิสระ ดึงมือเข้ามาที่จานหมึกดีๆ

"เจ้าฝนเช่นนั้นน้ำหมึกไม่สม่ำเสมอ ดูนี่ ยามที่เจ้าฝนให้วนเป็นวงกลมเช่นนั้นค่อยๆวนช้าๆ"

ชายหนุ่มไม่เอ่ยเปล่า มือหนาที่วางทาบด้านบนมือหญิงสาวบังคับแท่งฝนมึงสาธิตให้นางดูอีกด้วยและอธิบายอย่างใจเย็น ความอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ส่งผ่านไปยังหลังมือของนาง ลู่เข่อซินมือสั่นเล็กน้อย

"เข้าใจหรือไม่"

โจวหนิงเฉินเอ่ยพลางเงยหน้าสบตากับหญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ถึงแม้เขาจะนั่งเขียนกับโต๊ะไม้แต่ความสูงของนางที่ยืนอยู่ก็ไม่ได้ต่างจากเขามากเท่าไร สถานการณ์เช่นนี้ทั้งคู่จึงห่างกันไม่กี่คืบเท่านั้น ลู่เข่อซินนิ่งค้างไปชั่วขณะใบหน้าที่สมบรูณ์แบบนั้นทำเอานางเผลอตะลึกงัน ที่ใต้ตาด้านขวามีไฝจุดเล็กๆจนแทบมองไ่เห็นอยู่ช่วยเพิ่มให้ดวงตาคมคู่นั้นมีเสน่ห์มากขึ้น นอกจากเครื่องหน้าของท่านอ๋องจะดีเสียทุกจุดแล้วผิวยังเรียบเนียนยิ่งกว่าหน้าสตรีเช่นนางเสียอีก

"เป็นเช่นไร"

"หล่อเหลาเจ้าค่ะ"

"หื้ม~"

"เอ่อ...คือว่าข้า ข้าหมายถึงเข้าใจเจ้าค่ะ"

หญิงสาวเอ่ยอย่างตะกุกตะกักเมื่อไม่สามารถควบคุมเสียงที่ดังอยู่ในความคิดได้ มือเรียวที่ถูกเขากุมอยู่รีบดึงออกทันที โจวหนิงเฉินยกมือหนาแตะที่ปลายจมูกโด่งแก้เขินเล็กน้อยและก็รีบเก็บท่าทีนั้นไม่ให้นางได้เห็น

ภายในห้องกลับมาเงียบเช่นเดิมหากชายหนุ่มไม่พูดหรือเอ่ยถาม นอกจากนางจะถามคำตอบคำแล้วนางก็จะเงียบอยู่อย่างนั้น เขาไม่รู้ว่าในใจของนางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ในใจของลู่เข่อซินตอนนี้รู้สึกมีสิ่งหนึ่งกำลังประท้วงไม่หยุด วันนี้ทั้งวันนางยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะบอกท่านอ๋องว่าตนหิวข้าวมากเพียงใด ทำได้เพียงข่มอารมณ์ตนเองและภาวนาไม่ให้ท้องเจ้ากรรมร้องดังออกมาให้น่าอับอายต่อหน้าเขาอีกครั้ง

"มีอะไรหรือ"

ชายหนุ่มที่คอยสังเกตความผิดปกติของคนตัวเล็กข้างๆตลอดเวลา พลางคิดว่าตอนนี้นางกำลังป่วยอยู่มายืนฝนหมึกเช่นนี้คงไม่ดีแน่

"ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากถามท่าน แต่ไม่รู้ว่าควรหรือไม่"

"ข้าตอบเจ้าได้ทุกเรื่อง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel