ตอนที่ 2 งอนเหรอครับ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำสมส่วน สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าพาสเทล เข้าคู่กับกางเกงสแลคสีดำตามฉบับหนุ่มออฟฟิศทั่วไป แต่ทว่าใบหน้าคมสัน คิ้วเข้มดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูป ทำให้ความหล่อและความมีเสน่ห์นั้นกลับเหลือล้นกว่าผู้ใด จนสามารถเอาชนะใจคนที่อ่อนหัดต่อความรักอย่างอุ่นรักได้ไม่ยาก
ตอนนี้เขายืนรออยู่หน้าประตูห้องคนรัก เพื่อที่จะได้ออกไปทำงานพร้อมกัน เปิดตัวในฐานะแฟนเป็นวันแรก
“อ้าว! เรานึกว่าอรรถไปทำงานแล้วซะอีก” เจ้าของห้องเดินออกมาเปิดประตูให้ โดยยังคงสวมชุดลำลองอยู่
“วันนี้เรามารับอุ่นไปทำงานด้วยกันไง วันนี้ไปรถเรานะ ไม่สิ! นับจากวันนี้เราจะเป็นคนขับรถส่วนตัว พาอุ่นไปทำงานทุกวันเลย” ว่าแล้วอรรถก็เบียดตัวแทรกเข้าไปในห้องอย่างถือวิสาสะ
“ยังไม่ได้ตอบตกลงซะหน่อย ทำไมถึงได้ขี้ตู่เอาเองอย่างนี้”
“ก็เรามั่นใจว่าอุ่นจะตอบตกลงยังไงล่ะ เราเป็นแฟนกันแล้วนะอย่าลืมสิ” อรรถเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้า ใช้มือทั้งสองข้างโอบรัดที่เอวคอดไว้ กระชับร่างบางนั้นให้เข้ามาประชิดตัว
“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยเราจะไปแต่งตัวแล่ว” คนพูดหน้าเริ่มเปลี่ยนสีเพราะความเขินอาย ดวงตาคู่สวยไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา จึงวางมันไว้เพียงบนแผงอกแกร่งเท่านั้นเอง
“ตอบมาก่อนว่าจากนี้ไป อุ่นจะไปทำงานพร้อมเราทุกวัน” อรรถขู่อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่นุ่มละมุนหู จ้องมองปานจะกลืนกินเสียให้ได้
“โอเคก็ได้ เราจะไปทำงานพร้อมอรรถทุกวัน พอใจหรือยัง?”
“ยังไม่พอใจครับ” ว่าแล้วอรรถก็เชยคางเรียวขึ้นมาให้สบตากัน ก่อนจะโน้มใบหน้าคมลงไป กดจมูกโด่งลงที่แก้มขาวนวลอย่างบรรจง
ฟอดดด!!!
“ทำบ้าอะไรเนี่ย” อุ่นรักหยิกเบา ๆ ที่แผงอกแกร่งเพื่อคลายความเขินอาย
“โอ๊ย! เจ็บนะครับที่รัก ว่าแต่ทำไมแก้มถึงได้หอมอย่างนี้เนี่ย หอมจนอยากจะกินไปทั้งตัวเลย”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย ไม่มีทางซะหรอก ถึงเราจะเป็นแฟนกันแล้วแต่เรื่องนี้เราขอนะ เรายังไม่พร้อมจริง ๆ”
อุ่นรักรู้ตัวดีว่าเขาได้รับความพิเศษมาจากผู้เป็นแม่ นั่นคือสามารถตั้งท้องได้ไม่ต่างจากผู้หญิง เหตุผลนี้ทำให้เขายังไม่เคยรับใครเข้ามาในชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว เพราะกลัวว่าตัวเองจะพลาดพลั้งไปเพราะยังอ่อนหัดกับเรื่องพวกนี้ แต่คนที่มาทำลายความกลัวนั้นก็คืออรรถ เขารู้สึกมั่นใจในตัวผู้ชายคนนี้ว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังและเสียใจ ยอมทำตามใจทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้
“ได้ครับ เราจะไม่บังคับจนกว่าอุ่นจะยอม”
“ถ้างั้นก็ปล่อยเราจะไปเปลี่ยนชุดแล้ว เดี๋ยวก็สายกันพอดี”
“ครับผม” ก่อนจะคลายอ้อมกอด อรรถก็ตักตวงความหอมหวานจากพวงแก้มขาวนั้นอีกครั้ง
วันนี้เป็นวันแรกที่ทั้งสองคนมาถึงบริษัทพร้อมกัน อรรถเดินโอบไหล่คนรักแสดงความเป็นเจ้าของมาตลอดทาง ทำให้เพื่อนร่วมบริษัทต่างก็มองแล้วเอ่ยปากแซวไม่หยุดหย่อน ทำเอาคนที่โดนโอบไหล่อยู่นั้นแทบจะเอาปี๊บคลุมศีรษะ
“จะโอบทำไมเนี่ยเดินดี ๆ ก็ได้” อุ่นรักพยายามยกแขนอีกฝ่ายออกจากตัว แต่ทว่าอรรถกลับทำหน้าระรื่น ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้
“เราอยากให้คนทั้งบริษัทรู้ว่าเราเป็นแฟนกันไง ผู้ชายคนอื่นจะได้ไม่ต้องมาวอแวกับอุ่น”
“ไม่มีหรอก อย่างเราใครจะมาจีบ จะมีก็แต่อรรถนั่นล่ะ”
“ยังไงก็ไม่วางใจ เพราะอุ่นน่ารักน่าฟัดขนาดนี้ เราย่อมหวงเป็นธรรมดา”
“แหวะ เลี่ยนจะแย่”
“เลี่ยนแล้วรักไหมล่ะครับผม”
“ก็นิดนึง” หากจะเอ่ยคำว่ารักออกไปตรง ๆ ก็กลัวว่าตัวเองจะละลายกองอยู่บนพื้นไปเสียก่อน
ในระหว่างนั้นรุ่นพี่เพื่อนร่วมงานของอุ่นรักก็เดินมาเจอเข้า เจ้าหล่อนเลยไม่วายที่จะเอ่ยปากแซวคนทั้งสอง
“แหม ๆ ๆ คบกันได้วันเดียว ถึงขนาดกับเดินโอบไหล่แสดงความเป็นเจ้าของเลยนะยะ” เหมียวเอ่ยแซว
“นิดนึงครับพี่ได้แฟนน่ารักอย่างนี้ก็ภูมิใจเป็นธรรมดา” อรรถตอบ ยิ้มหน้าระรื่น
“ในที่สุดแกก็ทำได้ซะทีนะอรรถ รักน้องชายพี่ให้มาก ๆ อย่าทำให้มันเสียใจเด็ดขาดล่ะ”
“ครับพี่เหมียว ผมไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด”
“จำคำพูดตัวเองไว้ดี ๆ ล่ะ” เธอเอ่ยกับอรรถแล้วหันไปเอ่ยกับอุ่นรักต่อทันที “แกก็เหมือนกันนะอุ่น เอาใจมันให้มาก ๆ ล่ะ หล่อ ๆ อย่างนี้ยิ่งหายากอยู่ด้วย”
“ครับพี่ ว่าแต่นี่หล่อแล้วเหรอครับ” อุ่นรักไม่วายที่จะเอ่ยแซวคนรัก
“อ้าว! ทำไมว่าแฟนตัวเองอย่างนี้เนี่ย อย่างเราไม่หล่อแล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะ” อรรถก้มหน้าลงมาเอ่ยกับคนรัก ยกมือหนาขึ้นมาบีบจมูกเรียวนั้นอย่างมันเขี้ยว
“ทำบ้าอะไรเนี่ย” อุ่นรักรีบดึงมืออีกฝ่ายออก ก่อนจะมองค้อนใส่
“งอนเหรอครับ ฮึ”