ตอนที่ 1 พร้อมรึยัง
เกาะบลูซีเป็นเกาะแฝดส่วนตัวของตระกูลเมอร์เรย์ เกาะใหญ่จะเปิดโรงแรมระดับห้าดาวคอยต้อนรับลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ส่วนเกาะเล็กจะเป็นที่พักผ่อนส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของเกาะ
คู่สามีภรรยานักธุรกิจชาวอังกฤษผู้ไร้ซึ่งทายาทสืบสกุล แต่เมื่อสิบหกปีก่อนหน้านี้พวกเขามาเที่ยวและหาทำเลเพื่อทำธุรกิจในเมืองไทย ได้เจอและถูกชะตากับเด็กน้อยกำพร้าคนหนึ่งชื่อ ‘วิน’ และได้รับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม พาไปเลี้ยงดูและส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษและได้ส่งมาบริหารโรงแรมที่เกาะส่วนตัวแห่งนี้ โดยนาน ๆ ทีจะมาที่เมืองไทยเพื่อมาเยี่ยมเยียนลูกชาย
เช้าวันใหม่หลังจากนภัทรโดนลูกน้องของเคลวินจับตัวมาไว้ที่บ้านพักบนเนินเขาสูงด้านหนึ่งเป็นหน้าผาสูงชันส่วนทางออกมีเพียงทางเดียว และมีคนของเคลวินเฝ้ายามอยู่ตลอดเวลายากที่จะสามารถหนีออกไปได้ เขาถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้บนเตียงไม่สามารถที่จะขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย
เสียงนกร้องในยามเช้าทำให้นภัทรค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ จากภาพที่เบลอ ๆ ค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เขาตื่นขึ้นมาในสถานที่ไม่คุ้นตา นภัทรพยายามจะขยับตัวแต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะกำลังถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ด้วย
“นี่มันที่ไหนกัน” นภัทรเอ่ยออกมาเสียงเบา
“มันอยู่ข้างในครับนาย”
นภัทรได้ยินเสียงคนพูดดังมาจากข้างนอกเขาก็ต้องหลับตาลงแล้วนอนนิ่ง ๆ เอาไว้ไม่ให้พวกมันรู้ว่าเขาได้รู้สึกตัวแล้ว
“พวกมึงกลับไปที่โรงแรมก่อนเดี๋ยวที่นี่กูจัดการเอง”
นภัทรนอนฟังเสียงของหนุ่มนิรนามที่กำลังสั่งลูกน้อง ทำไมนะเขาถึงรู้สึกคุ้นหูกับเสียงพูดนี้มากเหลือเกิน
เสียงเปิดประตูดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ตอนนี้หัวใจของนภัทรเต้นแรงด้วยความกลัวแต่เขายังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง หึ ๆ” เสียงเข้มเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะในลำคออย่างพอใจ
“ลูกชายที่มึงรักนักรักหนาจะต้องย่อยยับด้วยน้ำมือของกู” ว่าแล้วเคลวินก็เอื้อมมือหนาไปเชยคางของร่างบางที่กำลังนอนนิ่งอยู่ แต่ไม่ทันไรเขาก็ต้องร้องออกมาเสียงดัง
“โอ๊ย!!!! เหี้ยเอ๊ย” เคลวินร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวดนั่นเพราะมือของเขาโดนร่างบางกัดจนต้องใช้มืออีกข้างบีบที่ปากบางจนนภัทรต้องยอมปล่อย
“มึงกล้ามากที่ทำกับกูแบบนี้” เคลวินตวาดด้วยความโมโห
“ปะ…ปล่อยนะ” นภัทรจ้องหน้าคนที่กำลังทำร้ายตัวเองด้วยความหวาดกลัว
เมื่อเพ่งมองใบหน้าคมคายนั้นอย่างตั้งใจนภัทรก็ต้องยิ้มออกมาทั้ง ๆ ที่กำลังโดนบีบที่คางเรียวอยู่
“พี่วิน…พี่วินใช่ไหม” นภัทรเอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจ พร้อมกันนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมาจากหางตาอย่างดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง คนที่อยู่ในความทรงจำในวัยเด็กของเขาและไม่เคยลืมมาโดยตลอด พี่วินที่เคยแสนดีและอ่อนโยนคอยปกป้องดูแลเขามาตลอด
“กูไม่ใช่พี่วินของมึง ไม่ต้องมาทำดีใจจนน้ำตาแตกกูไม่ใจอ่อนให้หรอก” เคลวินเอ่ยเสียงแข็งแล้วผลักศีรษะของร่างบางจนล้มลงไปนอนที่เตียง
“ทำไมพี่วินทำแบบนี้ พี่จับตัวผมมาทำไม!”
“เพราะกูต้องการแก้แค้นพ่อกับแม่มึงไง ครอบครัวมึงแม่งเหี้ยโคตร ๆ มึงต้องชดใช้ให้กู”
“พ่อกับแม่ผมทำอะไร ท่านทั้งสองรักพี่วินมาก พี่ต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ ๆ เลยครับ ปล่อยผมเถอะนะผมจะไปบอกท่านว่าผมเจอพี่แล้วท่านคงดีใจมาก” นภัทรมองด้วยสายตาที่เว้าวอน
“ปล่อยมึงไปให้โง่น่ะสิ มึงต้องอยู่ที่นี่ให้กูเอาจนกว่าจะพอใจ และแน่นอนถึงตอนนั้นมึงคงไม่มีศักดิ์ศรีเหลือพอที่จะแบกหน้าไปเจอใครได้อีกแล้ว ฮ่า ๆ ๆ” เคลวินหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ
“ทำไมพี่วินพูดแบบนี้ รู้ไหมว่าภัทรคิดถึงพี่วินมาตลอด ไม่เคยลืมเลยแม้แต่วันเดียว พี่ยังจะทำร้ายผมได้ลงคออีกเหรอ” นภัทรเงยหน้าขึ้นมาพูดกับคนตัวโตด้วยน้ำตา
ตอนที่วินหายตัวออกไปจากบ้านเขาถามพ่อกับแม่ว่าวินหายไปไหน ท่านบอกแค่ว่าวินไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด เขารู้แค่นั้นและก็ได้แต่เฝ้ามองที่ประตูรั้วบ้านมาตั้งแต่เด็กจนโต เผื่อว่าวันหนึ่งวินจะกลับมาแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววของพี่ชายคนนั้น คนที่ดีกับเขามาตลอด
“มึงอย่ามาพูดถึงอดีตกูลืมมันไปหมดแล้ว ไอ้วินคนนั้นมันได้ตายไปจากโลกนี้แล้วเหลือแต่กูคนที่ชื่อ ‘เคลวิน’ มึงมองหน้ากูไว้กูชื่อเคลวินไม่ได้ชื่อวินจำไว้ด้วย” เคลวินเอามือจิ้มที่หน้าผากของร่างบางจนศีรษะต้องโน้มเอนไปตามแรงของน้ำหนักมือ
“ผมไม่เชื่อ! พี่วินยังเป็นคนเดิมใช่ไหม พี่วินคนที่ดีกับผม คนที่เคยปกป้องผม คนนั้นยังอยู่นี่ใช่ไหมครับ ฮือ ๆ” นภัทรร้องไห้เสียงดังจนคนที่กำลังยืนดูอยู่นั้นเริ่มรำคาญ
“หยุดร้อง ถ้ามึงไม่เชื่อกูจะทำให้มึงเชื่อเองว่ากูคนนี้ไม่ใช่ไอ้วินที่แสนดีของมึงอีกต่อไป” ว่าแล้วเคลวินก็นั่งลงข้าง ๆ แล้วแก้มัดให้จนร่างบางเป็นอิสระ
“พี่วินปล่อยผมแล้ว พี่วินคนเดิมของผมกลับมาแล้ว” นภัทรยิ้มออกมาอย่างดีใจแล้วรีบโผเข้าไปกอด
เคลวินยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจแล้วจับไหล่บางทั้งสองข้างให้ห่างจากตัว เขาจ้องหน้าก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จนทำให้นภัทรถึงกับกลัวรอยยิ้มนั่น
“พร้อมรึยัง” เคลวินเอ่ยถาม