บทที่ 4
ภายในอาณาบริเวณเนื้อที่นับสิบๆ ไร่ อันเป็นอาณาจักรของตระกูลคาดิโอร์ คลาคล่ำไปด้วยบรรดามาเฟียทั่วกรุงโรม ที่เดินทางมายังคฤหาสน์แห่งนี้ เพื่อลงคะแนนเลือกมาเฟียคนใดคนหนึ่งให้ก้าวขึ้นมาเป็นดอน ออฟ ดอน คนใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามาเฟียรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างลูฟร์ถูกวางให้เป็นเต็งหนึ่งสำหรับการเลือกตั้งในวันนี้
ในขณะบรรดามาเฟียนับร้อย เดินทางมาถึงคฤหาสน์หรูหราหลังใหญ่ ลูฟร์กลับไม่สนใจออกไปต้อนรับ เขาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตาเฒ่ารอสโซกับมาค์โก้ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่ต้อนรับขับสู้มาเฟียทุกคน
ส่วนว่าที่ดอน ออฟ ดอน คนใหม่นั้นกำลังเก็บตัวอยู่ในห้องทำงาน นั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานที่เกิดเหตุ ที่บิดาของเขาถูกหมาลอบกัดตามมาถล่มจนรถเละไปทั้งคัน
ขณะนั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลูฟร์ก็ต้องกัดฟันกรอด กำมือเข้าหากันแน่นกับการสูญเสียในครั้งนี้ เพราะเขาไม่ได้เสียแค่บิดาไปเท่านั้น ลูกน้องอีกห้าคนซึ่งขับรถคอยตามคุ้มกันบิดาของเขา ก็ถูกยิงตายอย่างไม่ปราณีเช่นเดียวกัน
“กูจะลากคอพวกมึงมาถลกหนังหัวทุกคน”
น้ำเสียงที่เค้นออกมาอย่างเย็นยะเยือกไม่ต่างจากหลุดมาจากนรกขุมสุดท้าย ทำเอาคนที่กำลังเปิดประตูห้องทำงาน และได้ยินวิธีการทรมานศัตรูที่บังอาจลอบกัดคนในตระกูลคาดิโอร์ ถึงกับชะงักฝีเท้าไปชั่วขณะ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“ลูฟร์ รู้หรือยังว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อของหลาน”
ดอนรอสโซเอ่ยถาม ขณะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หนาหน้าโต๊ะทำงาน เห็นสีหน้าของมาเฟียหนุ่มไฟแรงที่เขาต้องการให้เป็นดอน ออฟ ดอน ในขณะนี้ ซึ่งถมึงทึง ดวงตาแข็งกร้าว โชนไปด้วยไฟแค้น เชื่อได้ว่าหากจับหมาลอบกัดได้ในขณะนี้ พวกมันคงถูกลูฟร์ถลกหนังหัวเหมือนดั่งที่เค้นเสียงออกมาแน่
“ยังครับ”
ลูฟร์ปฏิเสธ ก่อนจะเอ่ยบอกต่อ ในน้ำเสียงเผยให้เห็นความคลั่งแค้นเป็นอย่างมาก
“นอกจากเป็นหมาลอบกัดแล้ว พวกมันยังฉลาดเป็นกรด ก่อนจะลงมือ พวกมันยิงกล้องวงจรปิดเกือบทุกตัว เก็บไว้แค่เพียงตัวเดียว ที่พวกมันจงใจให้จับภาพของพวกมันได้แค่เพียงทางด้านหลังเท่านั้น”
“พวกมันต้องการฝากรอยแค้นให้ลูฟร์”
ใช่ว่าจะมีแค่เพียลูฟร์เท่านั้นที่คลั่งแค้น ดอนรอสโซเองก็โกรธแค้นเช่นเดียวกัน เมื่อเพื่อนรักต่างวัยอย่างอัลแบโตร์ถูกยิงถล่มอย่างไม่ปราณี
“ใช่ครับ พวกมันต้องการฝากรอยแค้นไว้ให้ผม และกำลังเปิดกระดานเล่นเกมไล่จับกับผมด้วย ไม่เช่นนั้นพวกมันคงไม่จงใจให้เห็นแค่เพียงแผ่นหลังของพวกมันเท่านั้น”
ไม่ใช่แค่การลอบฆ่าธรรมดาๆ เท่านั้น ลูฟร์อ่านเกมของหมาลอบกัดเหล่านี้ออก ว่าพวกมันกำลังท้าทายความสามารถของเขา ว่าจะสามารถตามเก็บพวกมันได้หรือเปล่า หลังจากเห็นแค่เพียงแผ่นหลังที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทเหมือนกันทั้งสิบคน
“ลูฟร์คิดว่าจะตามล่าพวกมันได้ไหม” เฒ่ารอสโซไม่มั่นใจสักเท่าไรว่าลูฟร์จะตามล่าคนร้ายได้
แต่! ในขณะตาเฒ่ารอสโซยังคลางแคลงกับความเก่งกาจของมาเฟียหนุ่มคนนี้ ลูฟร์กลับเชื่อในฝีมือของตนเองว่าสามารถลากคอคนที่ลอบฆ่าบิดาของตนเองได้อย่างแน่นอน
“ลุงไม่ต้องห่วง พวกมันหนีไม่พ้นมือผมแน่ วันนี้ พรุ่งนี้ หรืออีก หนึ่ง สองปี ข้างหน้า ผมอาจจะตามหาพวกมันยังไม่พบ แต่ผมไม่มีทางปล่อยให้พวกมันลอยนวลแน่ สาบานได้ว่า ตราบใดที่ลูฟร์ คาดิโอร์ ยังมีชีวิตอยู่ ผมจะตามล่าพวกมันจนกว่าจะตายกันไปข้าง”
หากหมาลอบกัดทั้งคนที่ลงมือยิงอัลแบโตร์ และทั้งคนที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมในครั้งนี้ ได้ยินคำสาบานของลูฟร์ พวกมันต้องขนหัวลุกพองไม่ต่างจากที่ดอนรอสโซเป็นอยู่ในขณะนี้
“ลูฟร์ พักเรื่องหมาลอบกัดไว้สักครู่ดีไหม ลุงอยากให้ลูฟร์ออกไปต้อนรับพี่น้องของพวกเรา พวกเขากำลังรอลูฟร์อยู่” ดอนรอสโซหมายถึงพี่น้องมาเฟีย ซึ่งต่างก็เดินทางมาเพื่อเลือกลูฟร์เป็นดอน ออฟ ดอน คนใหม่
“พี่น้องพวกนี้ไม่ได้จริงใจกับผมสักเท่าไร พวกเขามาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น บอกตามตรงว่าผมไม่อยากออกไปเสวนากับคนพวกนี้”
นอกจากเย่อหยิ่ง ทะนงตนเองเป็นที่สุดแล้ว ลูฟร์ยังเป็นมาเฟียที่ปากจัด พูดขวานผ่าซากแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งนั้น
ดอนรอสโซถอนหายใจลึก การกล่อมให้ลูฟร์ทำในสิ่งที่ตัวมาเฟียหนุ่มเองไม่อยากทำนั้น เป็นเรื่องยากมาก แต่กระนั้นเขาก็จำต้องกล่อมให้ลูฟร์ออกไปต้อนรับพี่น้องมาเฟียอยู่ดี
“เอาน่า ลูฟร์ ลุงรู้ว่าลูฟร์ไม่ชอบขี้หน้าคนพวกนั้น แต่เราก็ต้องออกไปต้อนรับ
พวกเขา เพราะคนเหล่านี้จะเป็นคนเลือกลูฟร์ให้เป็นดอนคนใหม่ ถือซะว่าทำเพื่อลุงก็
แล้วกันนะลูฟร์”
คนที่ถูกขอร้องถึงกับลอบถอนหายใจยาวไม่แพ้กัน อยากตะโกนบอกเฒ่ารอสโซว่าเขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะต้อนรับใครหน้าไหน ไม่มีอารมณ์ออกไปปั้นหน้าใส่ผู้คน เพราะนาทีนี้เขาต้องการตามล่าคนที่ฆ่าบิดาของเขา ต้องการตอบแทนพวกมันให้สาสม ล่าพวกมันให้สิ้นซากกันไปข้าง
แต่เมื่อไม่อาจปฏิเสธความต้องการของเฒ่ารอสโซได้ ร่างใหญ่ล่ำสันจึงจำต้องลุกจากเก้าอี้ ก้าวเดินนำหน้าเฒ่ารอสโซตรงไปยังประตูห้องทำงาน ทว่ายังไม่ได้จับลูกบิดเพื่อเปิดประตูห้อง ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกโดยมาค์โก้ ที่มาพร้อมกับคำรายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ดอนครับ โลเรนซามันพาลูกสาวของมันมาที่นี่ครับ”
ลูฟร์เลิกคิ้วขึ้นสูง เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “ดอนโลเรนซามันพาลูกสาวมันมาทำไมกัน”
มาค์โก้หันไปมองหน้าเฒ่ารอสโซ ก่อนจะหันมามองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเจ้านายหนุ่ม แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเช่นเดิมว่า
“ไอ้โลเรนซาบอกว่าเจ้านายข่มขืนลูกสาวของมันครับ”
“ข่มขืน!”
ลูฟร์ทวนคำเสียงสูง ไม่ได้ตกใจกับคำรายงานของมาค์โก้แม้แต่นิดเดียว ใบหน้าคมเข้มกระตุกยิ้มอยู่ตรงมุมปาก ก้าวเดินออกจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมเอ่ยทิ้งท้ายว่า
“ให้ตายเถอะ! จู่ๆ ก็ถูกยัดเหยียดข้อหาข่มขืนให้โดยไม่รู้ตัว ขอไปดูน้ำหน้าผู้
หญิงคนนั้นสักหน่อย ว่าสวยเด็ดมากพอที่คนอย่างลูฟร์ คาดิโอร์ ต้องเอาขาไปแย่ในคุกหรือเปล่า”