บทที่ 3 สัญญาและมูลค่าของดอกไม้
Long Corp ห้องทำงาน – 14:00 น.
พริมา ก้าวเข้าสู่ห้องทำงานที่ถูกออกแบบราวกับพระราชวังหินอ่อนดำของประธาน Long Corp ความหรูหรานั้นทำให้เธอรู้สึกตัวเล็กลงไปถนัดตา ห้องนี้ไม่มีเครื่องประดับที่ไร้ประโยชน์ มีเพียงความเฉียบคมของงานศิลปะราคามหาศาลและวิวเมืองที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า บรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วย อำนาจ และ ความเย็นชา ที่บ่งบอกว่าเจ้าของคือผู้ควบคุมทุกสิ่ง
เหว่ยหลง นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานหินอ่อนสีดำขนาดยักษ์ เขาสวมสูทสีเทาเข้มตัดเนี้ยบที่ดูมีราคาเหยียบแสน แววตาคมกริบนั้นจ้องมองพริมาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ราวกับกำลังประเมินมูลค่าสินค้าที่น่าสนใจที่สุดที่เขาเคยซื้อ
พริมาพยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ แม้ใจจะเต้นรัว เธอใช้ความมุ่งมั่นของนักศึกษาบัญชี เป็นเกราะป้องกัน “สวัสดีค่ะคุณเหว่ยหลง ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันมาสัมภาษณ์งานนะคะ” เธอพูดด้วยภาษาไทยที่สุภาพและเป็นทางการ
เหว่ยหลงพยักหน้าเล็กน้อย ใช้ภาษาไทย ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและนุ่มนวลกว่าที่เธอเคยได้ยินเมื่อคืน แต่ความนุ่มนวลนั้นกลับแฝงความเจ้าเล่ห์และรู้ทัน “นั่งสิ พริมา ‘งาน’ ที่ฉันเสนอ ไม่ใช่งานสัมภาษณ์ทั่วไป”
พริมานั่งลงบนเก้าอี้หนังหรูที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะอย่างระมัดระวัง พยายามจับจ้องไปที่เอกสารตรงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับเขา
“คุณอาชิงแจ้งว่า เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความรู้ด้านบัญชีของฉันค่ะ”
“ใช่” เหว่ยหลงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าเขายิ้มอย่างมีเสน่ห์ร้าย“เธอมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมาก มีความซื่อตรงสูง มีตารางชีวิตที่ละเอียด และที่สำคัญ ฉันมั่นใจในประวัติที่ปรากฏบนเอกสารของเธอ พริมาพิทักษ์ธรรม เธอไม่เคยยอมรับความช่วยเหลือฟรีๆ”
เขาหยิบซองเอกสารสีขาวหนาปึกวางลงตรงหน้าเธอ
“นี่คือรายละเอียดของสัญญาจ้างงานส่วนตัวของฉัน” เหว่ยหลงกล่าว ด้วยภาษาอังกฤษที่ราบรื่นและมีอำนาจ ภาษาของธุรกิจสากล “ฉันต้องการให้เธอเป็นผู้ดูแลบัญชีส่วนตัวของฉัน และช่วยฉันตรวจสอบการจัดการทรัพย์สินบางส่วน โดยเฉพาะกิจการในประเทศไทยของ Long Corp”
พริมาเริ่มอ่านสัญญาอย่างละเอียด ความรู้ด้านบัญชีและกฎหมายเบื้องต้นถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทันที สิ่งที่เธอเห็นในสัญญานั้นทำให้มือของเธอสั่นเทา
* เงินเดือน : ตัวเลขที่ปรากฏในนั้นสูงกว่าเงินเดือนเริ่มต้นของนักบัญชีมืออาชีพถึงห้าเท่า
* เงื่อนไขที่หนึ่ง : ห้ามลาออกก่อนครบกำหนด 2 ปี และจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทตลอด 24 ชั่วโมง
* เงื่อนไขที่สอง : ต้องทำตามคำสั่งส่วนตัวของเหว่ยหลงอย่างเคร่งครัด รวมถึงการเดินทางไปต่างประเทศอย่างกะทันหัน
“คุณเหว่ยหลงคะ” พริมาวางสัญญาลงอย่างนุ่มนวลแต่หนักแน่น เธอใช้ภาษาไทยที่ตรงไปตรงมา น้ำเสียงของเธอเป็นเสียงของความถูกต้อง “เงินเดือนนี้มันมากเกินไปสำหรับนักศึกษาปีสามอย่างฉัน ฉันรับไม่ได้ค่ะ มันไม่มีมูลค่าทางบัญชีที่สมเหตุสมผล”
เหว่ยหลงหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะที่ทำให้หัวใจพริมาเต้นแรง ความสนใจในดวงตาเขายิ่งทวีคูณ
“นี่แหละคือมูลค่าที่ฉันกำหนดให้เธอ พริมา และในโลกของฉัน... มูลค่าที่ฉันกำหนดคือมูลค่าที่ถูกต้องเสมอ”
เขาลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะมาหาเธอ การเข้าใกล้ของเขาทำให้พริมาต้องเงยหน้ามองด้วยความรู้สึกที่ถูกครอบงำ
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ต้องการๆ กุศล และฉันก็ไม่ได้เสนอการกุศล” เขาเปลี่ยนมาใช้ภาษาไทยอีกครั้ง น้ำเสียงนั้นอ่อนลง แต่แฝงด้วยความบังคับที่ยากจะต้านทาน “ฉันกำลังซื้อ เวลา ของเธอ ซื้อ ความซื่อตรง ที่หาไม่ได้จากใคร และซื้อ สติปัญญา ด้านบัญชีที่บริสุทธิ์ของเธอ... ซึ่งสำหรับฉันแล้วมันมีมูลค่ามากกว่าตัวเลขในสัญญานั้นหลายเท่า”
พริมาเม้มปากแน่น “แต่เงื่อนไขการห้ามลาออกและการต้องอยู่ภายใต้การดูแล มันเหมือน... การถูกคุมขัง” พริมากล่าว
เหว่ยหลงยื่นมือไปแตะเบาๆ ที่ต้นแขนของเธอในจุดเดียวกับที่เขาเห็นรอยแดงเมื่อคืนนี้ การสัมผัสของเขาราวกับเป็นกรงเล็บที่กำลังจะจับเหยื่อ
“มันคือ การปกป้อง ” เขาเน้นย้ำด้วยแววตาจริงจัง "โลกที่ฉันอยู่มันอันตราย ถ้าเธอทำงานกับฉันแล้ว เธอก็คือ คนของฉัน และฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครมาแตะต้องคนของฉันได้อีก... เธอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วใช่ไหม?"
พริมาเข้าใจดีว่าเธออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หากปฏิเสธ เธอจะพลาดโอกาสในการสร้างความมั่นคงที่พ่อปรารถนา แต่หากรับข้อเสนอ เธอจะทรยศต่อหลักการของตนเอง
“ฉันจะรับงานนี้ได้... หากคุณปรับแก้เงื่อนไข” พริมาตัดสินใจสู้ ดวงตาของเธอจ้องมองเขาด้วยความมุ่งมั่นอย่างกล้าหาญ
เหว่ยหลงประหลาดใจกับความกล้าหาญนั้น แววตาคมกริบของเขาวาววับด้วยความสนใจ
“ว่ามาสิ” เขาพูดด้วยภาษาอังกฤษที่ท้าทาย
“ฉันจะทำงานครบตามกำหนดเวลาที่คุณต้องการ และให้ความซื่อตรงในการตรวจสอบบัญชีอย่างถึงที่สุด แต่ฉันขอรับเงินเดือนในจำนวนที่สมเหตุสมผลตามหลักวิชาชีพ ส่วนที่เหลือ... ให้ถือเป็น เงินสำรอง ที่บริษัทจะบริหารจัดการให้เพื่อผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลตามหลักการลงทุน”
นี่คือการใช้ความรู้ด้านบัญชีของเธอในการเจรจาต่อรอง เป็นการเปลี่ยนเงินเดือนที่มากเกินไปให้กลายเป็น ทรัพย์สินที่ต้องสร้างมูลค่า เพื่อรักษาหลักการของตนเอง เธอไม่ต้องการเงินฟรี
เหว่ยหลงมองใบหน้าจริงจังของพริมาอยู่ครู่หนึ่ง เขาหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ เสียงหัวเราะของเขาฟังดูดุดันและทรงพลัง เขาใช้ภาษาจีนกลาง สั่งอาชิงที่ยืนอยู่ด้านหลังให้เตรียมเอกสารแก้ไข
“ดี! ฉันยอมรับข้อเสนอทางบัญชีของเธอ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเธอฉลาดจริง” เขาเปลี่ยนกลับมาใช้ภาษาไทย "ฉันจะแก้สัญญาตามที่เธอเสนอในเรื่องการบริหารจัดการเงิน แต่เรื่อง การปกป้อง และ การตามคำสั่งส่วนตัว ... เป็นเงื่อนไขที่ห้ามต่อรอง”
เขาเอื้อมมือไปหยิบปากกาที่ทำจากโลหะสีดำเงา
“ตกลงตามนี้ใช่ไหม... ดอกไม้ของฉัน”
พริมามองดูใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยอำนาจและความคลั่งรักที่ซ่อนอยู่ ก่อนจะก้มลงมองตัวเลขมหาศาลที่หมายถึง อนาคตและความมั่นคง ที่พ่อของเธอปรารถนาไว้ เธอพยักหน้าอย่างช้าๆ
“ตกลงค่ะคุณเหว่ยหลง”
ในวินาทีที่เธอจรดปากกาลงบนสัญญา พันธนาการแรก ก็ได้ถูกผูกมัดขึ้นอย่างสมบูรณ์โดยที่พริมาไม่รู้เลยว่า นอกเหนือจากตัวเลขและบัญชีแล้ว สัญญานี้ยังเป็น เอกสารสิทธิ์ในการครอบครอง หัวใจและชีวิตของเธอโดยสมบูรณ์อีกด้วย
