1/2 ครอบครัว
พิมพกานต์ลูกสาวคนโตรู้สึกน้อยใจได้ ภาณุตั้งใจตั้งแต่ยอมแต่งงานกับเพ็ญแข ว่าจะไม่บอกความจริงให้พิมพกานต์รู้ ว่าเธอไม่ใช่ลูกของเขา แต่เพ็ญแขขอไว้ว่าความจริงก็คือความจริง ถ้าสักวันลูกรู้จากปากคนอื่นมันจะทำให้ลูกเจ็บปวดมากกว่าลูกจากปากคนที่รักเขา ภาณุจึงบอกความจริงทั้งหมดให้ทั้งพิมพกานต์และพลอยรดารู้
“อีกแค่เทอมเดียวค่ะ ลูกๆจะได้กลับมาอยู่บ้านแล้ว คงส่งเสียงคุยกันเจื้อยแจ้วทั้งวัน จนคุณต้องปิดหูแน่ๆ” อีกแค่เทอมเดียวทั้งคู่ก็จะเรียนจบ ถึงอายุจะห่างกันแต่ทั้งคู่ก็เรียนอยู่ระดับชั้นเดียวกัน
พิมพกานต์เธอเป็นเด็กเรียบร้อยไม่ค่อยทันน้องสาวเท่าไหร่ เวลามีอะไรพลอยรดาต้องคอยช่วยพี่สาวตลอด ยกเว้นเรื่องงานบ้านที่พิมพ์เองเป็นฝ่ายทำให้น้องมาโดยตลอด
“คุณพ่อ คุณแม่มารับแล้ว พี่พิมพ์ทำไมเก็บของช้าจัง รดาลงไปคอยข้างล่างก่อนนะ” รดาบ่นพี่สาวที่ชอบทำอะไรช้ากว่าตัวเอง จริงๆแล้วพิมพกานต์ไม่ได้ช้า เพียงแต่เธอค่อยๆทำอย่างพิถีพิถัน ต่างกับรดาที่ยัดๆเอาพอให้ขนกลับบ้านได้
“คุณพ่อ คุณแม่ สวัสดีค่ะ รอพี่พิมพ์สักครู่นะคะ มัวพับผ้าอยู่ ส่วนรดา แฮ่...ยัดมาค่ะ” หญิงสาวกอดผู้เป็นพ่ออมยิ้มมุมปากในความไม่เรียบร้อยของตัวเอง
“ไม่เปลี่ยนเลยนะรดา มีแฟนเมื่อไหร่จะให้พี่พิมพ์เขาตามไปทำให้ไม่ได้นะ” เพ็ญแขเอ็ดลูกสาวคนเล็กที่ชอบทำอะไรเอาเร็วเข้าว่า เพราะมีพี่สาวคอยตามช่วยดูแลตลอด
“ใครว่า ถ้าพี่พิมพ์มีแฟน รดาเองต่างหากต้องตามไปช่วย ไม่ทันคนแบบนี้ มีหวังโดนรังแกแน่ๆ” รดาทำหน้าแข็งขัน
“แล้วถ้ามีคนมารังแกพี่พิมพ์ ลูกจะทำยังไง” ภาณุหยั่งเชิงลูกสาว ว่ารักพี่สาวอย่างที่เขาคาดหวังไว้ไหม
“ก็ลองใครมายุ่งกับพี่พิมพ์แม้แต่ปลายเล็บ ข้ามศพรดาไปก่อนค่ะ นอกจากรดาแล้ว ห้ามใครมาทำอะไรพี่สาวคนนี้เด็ดขาด”
“เอ้า...นึกว่ารักพี่เขา ที่แท้จะหวงไว้แกล้งคนเดียวนี่เอง” มือหนาของผู้เป็นพ่อเขย่าศีรษะลูกสาวอย่างเอ็นดู
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่ พิมพ์ต้องขอโทษด้วยที่ลงมาช้า” ลูกสาวคนโตของบ้าน เดินถือของพะรุงพะรังลงมาจากหอพัก
“ไปกันเถอะ พ่อหิวข้าวแล้ว เราไปแวะหาอะไร อร่อยๆกินกันเถอะ”
ทุกเย็นวันศุกร์ ครอบครัวนี้จะแวะกินร้านอาหารที่อยู่ชายทะเลกรุงเทพ ซึ่งเป็นร้านโปรดของทุกคน โดยเฉพาะเพ็ญแข ชอบกินอาหารทะเลเป็นที่สุด
“อีกเทอมเดียวจะจบกันแล้ว รดาเขาได้ที่เรียนแล้ว พิมพ์ล่ะลูก จะเรียนที่ไหน” ผู้เป็นพ่อถามถึงอนาคตของลูกสาวคนโต ที่ยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ติด