นักเขียน
ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร
565.0K
จำนวนคำ
5
นิยาย

นิยาย

Love Beyond Time สวรรค์ลิขิตชะตารักเหนือห้วงเวลา

971·ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร

โชคชะตาช่างเล่นตลกเมื่อหญิงสาวทะลุมิติไปอยู่ในร่างอ๋องหนุ่ม และมีใจให้เขาซึ่งเป็นทั้ง องครักษ์ รองแม่ทัพและน้องบุญธรรมของร่างที่ตนอาศัย หลังภารกิจที่เธอมุ่งมั่นสำเร็จลุล่วง หญิงสาวกลับย้ายร่างกะทันหัน แต่ช่างน่าเศร้าเพราะร่างใหม่ที่เธอย้ายเข้าไปเป็นเด็กสาวที่ถูกวางยาพิษเลี้ยงตั้งแต่ยังเยาว์จนตาย ดวงวิญญาณทนทุกข์หนาวเหน็บในร่างที่ค่อยๆ เน่า เฝ้ารอเขาเดินทางกลับหวังเพียงจะได้เจออีกครั้ง

นิยายแฟนตาซีจบแล้ว

รักสุดท้ายของกาลญาดา

1.0K·ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร

เขาเป็นลูกครึ่งปีศาจใช้ชีวิตปะปนอยู่กับมนุษย์หลายร้อยปี เฝ้าตามหาคู่ครองแต่ไม่มีใครรับไอปิศาจของเขาได้ทุกคนล้วนเกือบตายเมื่อยามแนบชิด จนได้มาเจอหญิงสาวที่มีกลิ่นกายไม่เหมือนหญิงอื่น เขาตัดสินใจลองจีบดูหลังช่วยเธอไว้ชายหนุ่มคิดเพียงว่าหากเธอทนไอปีศาจของตนไม่ได้ก็จะขอดูแลเธอไปจนถึงวินาทีสุดท้าย

นิยายรักโรแมนติกยังไม่จบ

รักนี้ที่ตามหามาแสนนาน

441·ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร

ในขณะที่เธอกำลังลงมือสังหารพ่อลูกที่ตามทำร้ายตนตั้งแต่เล็กจนโตเสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้นในหัว "ฟังเขาจีนส์ ฟังคนรักของเธอ อย่าทำพลาดอีกไม่เช่นนั้นเธอกับเขาอาจได้แยกจากกันไปตลอดกาล"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

ตะวันฉายพฤกษา

1.0K·ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร

“เราจะคบกันได้ไหม พี่ครับ เราจะคบกันได้หรือเปล่า” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นเพียงเล็กน้อย เงี่ยหูฟังให้แน่ใจว่าน้องพูดอะไร แต่ว่าพฤกษาก็เงียบไปอีกครั้ง ตะวันฉายได้แต่คิดว่าน้องคงแค่ละเมอแล้วเขาก็เกิดคำถามขึ้นภายในใจ คิดไปว่าที่ตนกอดน้องอยู่นั้น คงเพราะตัวเขารู้สึกไปเองฝ่ายเดียวหรือเปล่า น้องจะรับได้ไหมหากเขาตื่นขึ้นมา.. แต่แล้วเสียงพฤกษาก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ผมรอฟังอยู่นะ” ตะวันฉายลังเลอยู่ชั่วครู่ และคิดว่าหากเขาตอบออกไปแล้ว ถ้าพฤกษากำลังละเมออยู่จริงๆ พอตื่นมาในวันพรุ่งนี้น้องก็คงลืมไปเอง “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

นิยายปัจจุบันจบแล้ว

loveless curse คำสาปไร้รัก

710·ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร

ไป๋หลี่อิงเคลื่อนมือบีบนวดคลึงวนไปมาทั้งยังใช้นิ้วเขี่ยลงที่ยอดปทุมถันของจ้าวหมิ่นแต่เธอก็ไม่ตื่น ‘ข้าจะลักหลับนางดีหรือไม่นะ นางจะมองข้าเช่นไรหากว่าข้าทำตัวเยี่ยงนั้น’ แม้คำถามจะเกิดขึ้นและโต้แย้งกันเองภายในหัวแต่ลมหายใจของเขาก็เต็มไปด้วยไฟราคะ เมื่อสำนึกดีมันห้ามอารมณ์แห่งความใคร่เอาไว้ไม่ได้ไป๋หลี่อิงจึงเริ่มลงมือ ชายหนุ่มมองจ้าวหมิ่นตาปรือแล้วก็โน้มตัวเข้าจูบเนินหน้าอกซุกไซ้ขึ้นซอกคอของหญิงสาวกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหู “จ้าวหมิ่น...ช่างไม่ระวังตัวซะเลยนะ หากชายผู้ที่กำลังลวนลามเจ้าอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ข้า เจ้าจะทำเช่นไร” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ นอกจากลมหายใจเล็กๆ ที่บ่งบอกว่าเธอหลับลึก “เช่นนั้นข้าไม่สนใจแล้วเพราะตอนนี้ข้าคงมิอาจระงับอารมณ์ตนเองเอาไว้ได้อีก” จ๊วบ!! “อือ” เสียงเธอครางเบาๆ เมื่อไป๋หลี่อิงเริ่มดูดที่เนินอกเขาเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นว่าจ้าวหมิ่นยังหลับอยู่แต่แค่หันหน้าไปอีกข้าง ชายหนุ่มบีบคั้นคลึงเน้นหนักสองเต้าจนเต็มมือเพื่อปลุกเธอแต่หญิงสาวก็แค่ขยับตัวให้นอนสบายขึ้นและส่งเสียงอือเล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้จะถูกเขาใช้นิ้วมือบีบเน้นแรงหรือเขี่ยกระตุ้นที่ปลายยอด จ้าวหมิ่นก็ยังไม่ยอมลืมตาตื่น ไป๋หลี่อิงโน้มตัวลงอีกครั้งจากนั้นก็เริ่มตวัดลิ้นเลียบนปทุมถัน นิ้วเรียวยาวคีบเกี่ยวดึงปมเชือกเหนือเอวบางของคนที่นอนอยู่เบื้องล่างแล้วแหวกผ้าออก ฝ่ามืออันหยาบกระด้างลูบไร้ไปทั่วทั้งเรือนกายบางอรชรจนถึงเนินเล็กๆ อยู่ด้านล่างไร้ซึ่งหญ้ารกครึ้มปกคลุม ไป๋หลี่อิงลูบไล้วนไปมาจ้าวหมิ่นก็ไม่ตื่นจนเขาก้มหน้าลงแลบลิ้นตวัดเลีย ถึงตอนนี้ร่างกายของเธอเริ่มตอบสนองด้วยการบิดเร่าเล็กน้อย ส่งเสียงครางอืออาเหมือนคนนอนละเมอ ยิ่งเห็นอาการของหญิงสาวแบบนั้น ไป๋หลี่อิงยิ่งเกิดอารมณ์อยากทำต่อ ชายหนุ่มนึกสงสัยว่าเธอแกล้งหลับหรือหลับลึกจริงๆ จึงจับขาเรียวยาวถ่างออกแล้วคุกเข่าอยู่ระหว่างกลาง เขาปลดเชือกหัวกางเกงตัวเองออก ล้วงมือดึงส่วนที่ตั้งตรงออกมากดลงแล้วกระเด้าอัดเข้าไปในตัวเธอทันที จากนั้นก็กระแทกซ้ำลงอีกครั้งก่อนเดินเข่าชิดในเข้าไปอีก “อึ๊ อื๊อ อื๊อ” จ้าวหมิ่นร้องอยู่แค่นั้นปิดตัวไปมาเล็กน้อยเหมือนคนฝันร้ายหรือนอนไม่สบายตัวแล้วก็เงียบไป ไป๋หลี่อิงปลดปมเชือกตรงหน้าท้องตัวเองแหวกผ้าออกแล้วนอนทับร่างของเธอโดนที่เสื้อของเขาคลุมทั้งสองร่างเอาไว้ “อา ซี๊ด จ้าวหมิ่น จ้าวหมิ่น นี่เจ้าหลับลึกขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถามพลางขยับเบียดสะโพกเน้นลงลึกเนิบช้าอยู่หลายครั้ง “อา จ้าวหมิ่น ตื่นสิ ตื่นมารับมือข้า” “หืม!! อ๊ะ อ๊า ท่านไป๋ อ๊ะ” “ทำไมเจ้าไม่เรียกข้าว่าท่านพี่ หรือพี่หลี่อิงล่ะ” “อ๊า อื้ม ข้า...ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ อ๊ะ” “นานแล้ว ข้าเล้าโลมเจ้าตั้งนานก็ไม่ตื่น อา ข้าทนไม่ไหวถึงได้ลักหลับเจ้านี่ไง อา” “จริงเหรอ อื้อ ซี๊ด รู้สึกดีจริง อา โชคดีที่เป็นท่าน อ๊า” จ้าวหมิ่นเด้งรับเบาๆ ยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปถึงปลายเท้า แม้ฟูกจะไม่หนาเลย แต่มันกลับดันหลังเธอให้รองรับเขาได้ดีกว่าที่นอนสปริงเป็นไหนๆ “จริงสิ เจ้าเป็นแบบนี้มันอันตรายนะ ที่นี่มีแต่บุรุษเพศ หากว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่ข้า เจ้าจะทำเช่นไร อ่า ซี๊ด” “ขะ ข้า..ต้องขอโทษท่านไป๋ ข้าคงเหนื่อยและเพลียมากเกินไป ข้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน อ๊ะ บะ บางทีข้าอาจจะป่วยจริงๆ อ๊า ทำไมข้าถึงได้รู้สึกดีเช่นนี้นะ อ๊า” เธอบอกในขณะที่ไป๋หลี่อิงกระเด้าเน้นและเธอเด้งรับท้องน้อยของทั้งสองสัมผัสกันหนักหน่วง “อ๊ะ ข้า..อ๊ะ อื้อ” “ชู่ว์ๆ ดึกแล้วอย่าส่งเสียงดัง ที่นี่มันเงียบมากในยามราตรี เพราะทหารนอนกันหมด คงเหลือแต่เสียงฝีเท้าของหน่วยลาดตระเวน” “อ๊า ก็ ข้าทนไม่ไหว อ๊า” “แต่ข้าไม่ได้ทำรุนแรงเหมือนเมื่อตอนหัวค่ำเลยนะ” “แต่ว่า..ท่านไป๋ อ๊ะ อื้อ มันลึกมาก อ๊ะ” .................................................. จ้าวหมิ่น คาสโนวีตัวแม่ นอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าโดยไม่สนว่าเขาเป็นของใคร จนวันหนึ่งจ้าวหมิ่นโดนเพื่อนของผู้หญิงที่เธอเคยก่อปัญหาสาปแช่งให้เธอเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างไร้หัวใจบ้าง ในตอนแรกจ้าวหมิ่นพูดจาเยาะเย้ยถากถางอย่างสะใจเพราะเธอไม่สนใจคำสาปนั่น สาวสวยอย่างเธอมีแต่ผู้ชายมาซูฮก ใครที่ไหนจะกล้าทำเช่นนั้น ทุกคนที่นอนกับเธอครั้งแรกมีแต่คนอยากได้อีก เรื่องความรักไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอไม่เคยรักใครหัวปักหัวปำดั่งคำสาปแช่งเลย จ้าวหมิ่นแค่ชื่นชอบเรื่องอย่างว่า ไม่ได้อยากผูกมัดกับใคร แต่แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่จ้าวหมิ่นตัดสินใจทำผิดพลาดจนถูกคำสาปนั้นเล่นงาน มันดึงเธอเข้าสู่มิติเวลาไปยังที่ที่ไม่คุ้นชิน มิหนำซ้ำยังตกอยู่ท่ามกลางพื้นที่ของสนามรบ เป็นช่วงเวลาในยุคกองทัพฉินรวบรวมดินแดน ณ ที่แห่งนั้น จ้าวหมิ่นได้พบกับไป๋หลี่อิงบุรุษที่ทำให้เธอเฝ้านึกถึงแต่คำสาป จ้าวหมิ่นจะแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของตัวเองได้หรือไม่ แล้วคำสาปจะถูกถอนหรือเปล่า

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว