บทที่1.เรื่องมันเริ่มต้นที่นี่แหละ 1/6
บทที่1.เรื่องมันเริ่มต้นที่นี่แหละ
หมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ มีพื้นที่เกือบ100ไร่ เป็นโครงการที่ก่อสร้างยาวนานเกือบ10ปี โครงการนี้เริ่มจากหมู่บ้านจัดสรรขนาดกลาง แต่เมื่อมีผู้คนให้ความสนใจมากขึ้น เจ้าของโครงการเลยค่อยๆ ขยับขยายเพิ่ม จนเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่เหมือนทุกวันนี้ ตัวเจ้าของโครงการเองก็พักอาศัยอยู่ให้หมู่บ้านแห่งนี้ด้วย เขารักและขอบคุณลูกบ้านทุกคนที่ทำให้โครงการบ้านจัดสรรของเขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมาได้...
ภาค พิสิทธิโยทินคือเจ้าของหมู่บ้านแห่งนี้ มันต่อยอดมาจาก พิสิทธิโยทินพร็อพเพอร์ตี้ที่เขาเป็นคนสร้างมาจากสองมือ จากคนที่มีฐานะปานกลาง เวลานี้ครอบครัวพิสิทธิโยทินกลายเป็นเศรษฐี มีสินทรัพย์100กว่าล้าน แต่สามี ภรรยาที่สร้างตัวมาจากกิจการก่อสร้าง ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ใจดีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เคยรังเกียจความยากจน เพราะทั้งภาค และสายใจ เคยผ่านความลำเค็ญจุดนั่นมาก่อน
ภูมิเป็นบุตรชายคนเดียวของภาคและสายใจ เขาร่วมฟันฝ่าความลำเค็ญมาพร้อมกับบุพการีตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นกอบเป็นกำ แม้แต่บ้านสักหลัง ภูมิจึงเป็นคนสมาถะไม่ฟุ้งเฟ้อ และชอบอวดรวยเหมือนบุตรเศรษฐีใหม่คนอื่นๆ ภูมิขึ้นรถประจำทางไปเรียนได้ เขาไม่เคยเรียกร้องที่จะขอมีรถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้เสื้อผ้าแบรนด์เนม ไม่นิยมเครื่องประดับหรู ใส่นาฬิกาเรือนละร้อยบาทได้...เพราะภูมิรู้ค่าของเงิน
ทุกบาททุกสตางค์ แลกมาจากหยาดเหงื่อของพ่อ แม่...เขาจึงเป็นเศรษฐีใหม่ที่ใช้ชีวิตสมถะที่สุด
ทวีทรัพย์ เกียรติขจร พ่อหม้ายเมียตาย เขาหอบบุตรสาวคนเดียวเข้ากรุง เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่หมู่บ้านจัดสรรที่ภาคเป็นเจ้าของ หวานตา คือบุตรสาวสุดสวาทของชายสูงวัยคนนั้น ทวีทรัพย์ฟูมฟักหวานตายิ่งกว่าไข่ในหิน เธอเลยเหมือนถูกจับให้อยู่ในกรอบ โชคดีที่ได้เพื่อนบ้านดีๆ แบบภูมิ หวานตาเลยไม่เตลิด เธอเข้าใจชีวิตมากขึ้นผ่านเพื่อนรุ่นเดียวกัน
“ตัวเองหน่ะเล่นอันนั้นไป เค้าจะเล่นอันนี้เอง” เสียงแหวแว๊ดของหวานตาดังขรม
จนบิดาของเด็กหญิงต้องยอมวางงานในมือและเดินมาดู “ทะเลาะอะไรกันอีกยัยหวาน นี่แกล้งตาภูมิอีกแล้วใช่ไหมหะ?”
เสียงแข็งๆ ใบหน้าดุๆ ของบิดาทำให้เด็กหญิงที่กำลังเริงร่ากับชัยชนะสีหน้าสลดลง
“เปล่านะคะคุณพ่อ หวานแค่ไม่อยากเล่นของพวกนั้น เลยยกให้ภูมิเล่น” เด็กหญิงแก้ต่างให้ตัวเอง ปรายตามองกองตุ๊กตาที่สวมกระโปรงฟูฟ่องในมือเพื่อนเล่นวัยเดียวกัน
“อ้าว! ทำไมล่ะ เราขอให้พ่อซื้อให้เองนี่นา ไม่ถึง3วันเลย เบื่อแล้วเหรอ?”
ชายสูงวัยทรุดนั่งยองๆ มองเด็กชายวัยเดียวกันกับบุตรสาวแต่ขนาดตัวต่างกันเยอะ ภูมิผอมแกรน ผิวคลำ ในขณะที่หวานตาอวบจนเกือบถึงขั้นอ้วน สิ่งเดียวที่ทำให้บุตรสาวของท่านน่ามองคือดวงตากลมโต กับพวงแก้มยุ้ยๆ
“ของเล่นของภูมิน่าสนุกกว่านี่คะ” เด็กหญิงตอบเสียงอุบอิบ
เธอแย่งของเล่นมาจากเด็กชาย เมื่อตัวต่อเลโก้น่าสนุกกว่าการเล่นตุ๊กตาเป็นไหนๆ
“ไม่เป็นไรครับคุณลุง...ผมเล่นตุ๊กตาก็ได้” ภูมิไม่มีปัญหา ขอแค่มีเพื่อนเล่นก็พอ เขาชอบมองหวานตา เด็กหญิงมีความสดใส พลอยทำให้เขาสนุกไปด้วย
“เราหน่ะยัยหวาน รู้สึกชอบแกล้งเพื่อนคนนี้จังเลยนะ” ทวีทรัพย์ดุบุตรสาว
เท่าที่จับตามอง หวานตาชอบทำตัวข่มภูมิ ซึ่งเด็กชายก็ยอมลงให้ เขาไม่เคยขัดใจบุตรสาวของท่าน ทำตัวเหมือนเป็นลูกไล่ให้หวานตาชี้นำมาตลอด ทวีทรัพย์เกรงว่าจะไม่เหมาะ เขาคอยปรามหวานตา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล หลายปีผ่านไปเด็กทั้งคู่ก็ยังเหมือนเดิม หวานตาหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนท่านเองก็คร้านที่จะกำหลาบ
“ภูมิอ่อนแอเองนี่คะ”
เด็กหญิงตอบเสียงใส แอบเบ้ปากให้กับคนที่ตัวเองพูดถึง
เด็กผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าเธอ ท่าทางอ่อนแอน่าแกล้ง เขาไม่เคยโกรธเธอเลยสักครั้ง ภูมิทำได้แค่ยิ้ม และยอมโอนอ่อนให้ หวานตาเลยทนคบ เพราะเพื่อนๆ คนอื่นให้ความสนิทสนมกับภูมิ แต่เธอเป็นลูกพี่เขา แสดงว่าตนเองเป็นหัวโจก