ตอนที่ 2 คู่แข่งแสนดี
เมื่อที่รักได้รับบาดเจ็บ เหนือเทพจึงพากลับเข้ามาในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ในห้องฉุกเฉินต่างกระวีกระวาด ส่วนหนึ่งเพราะผู้บาดเจ็บเป็นนักศึกษาแพทย์ที่เพิ่งออกเวรไป แต่อีกส่วนซึ่งน่าจะใหญ่กว่า เพราะคนที่อุ้มที่รักเข้ามาในห้องฉุกเฉินคือ เหนือเทพ ลีวาณิชย์
พี่พยาบาลล้างแผลไปยิ้มไป เฝ้าถามที่รักว่ารู้จักกับเหนือเทพด้วยเหรอ เป็นญาติ เป็นเพื่อน หรือว่าเป็นอะไรกัน
ที่รักไม่กล้าตอบ ทำได้แต่ยิ้มแหย ๆ แล้วพเยิดหน้าไปทางปลายฝัน
“ญาติห่าง ๆ น่ะค่ะ”
นักศึกษาแพทย์สาวตอบแบบขอไปที และเธอก็คิดว่าไม่ได้พูดปด เหนือเทพเป็นญาติกับอินทัช ซึ่งเป็นคู่หมั้นกับญาติของเธออีกที ดังนั้นทั้งสองจึงแทบไม่ได้มีสายสัมพันธ์ การจำกัดความว่าญาติห่าง ๆ ยังใกล้เกินไปด้วยซ้ำ
“เป็นแฟนครับ”
แต่ก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาทันควัน พร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจจากเจ้าของมัน พี่พยาบาลเบิกตากว้าง จ้องหน้าที่รักสลับกับเหนือเทพ
“แฟนคนนี้”
เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดไปใหญ่โต เหนือเทพจึงยกแขนขึ้นสูง แล้วชี้นิ้วกลับลงมาตรงศีรษะของปลายฝันพอดิบพอดี
พี่พยาบาลมองตามพลางก็ยิ้มกว้าง พร้อมกับทำเสียงอ๋อในลำคอ ปลายฝันจึงมองตามสายตาของพยาบาลคนนั้น
นิ้วชี้ของเหนือเทพเปลี่ยนเป็นมินิฮาร์ทในทันที แล้วเลื่อนลงมายื่นให้ปลายฝัน เหล่าพยาบาลในห้องฉุกเฉินจึงกรี๊ดกันลั่น บ้างยิ้ม บ้างส่งเสียงแซว
ปลายฝันถลึงตาใส่เหนือเทพอีกครั้ง แล้วยังคว้ามือข้างนั้นมาตีซ้ำ ๆ ทั้งสองสู้กันยึก ๆ ยัก ๆ สร้างความเอ็นดูให้กับทุกคนในห้องฉุกเฉิน รวมถึงหมอหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วย
“พี่หมอตี้!”
ที่รักอุทานอย่างดีใจ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับใบหน้าหล่อที่คุ้นเคย แม้จะซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัยแต่เขาก็จำได้
“ไงคะ น้องเลิฟ” อติเทพยิ้มให้นักศึกษาแพทย์หนุ่มตัวเล็ก ก่อนจะเหลือบมองปลายฝันพร้อมกับทักทายเสียงนุ่ม “น้องปลาย”
ปลายฝันเบิกตากว้าง เธอถลาเข้าไปเกาะแขนหมอหนุ่ม พร้อมกับอุทานอย่างดีใจ
“พี่หมอตี้ กลับมาตั้งแต่เมื่อไรคะ ปลายคิดว่าพี่หมอยังอยู่อุดรเสียอีก นี่ยังคุยกับเลิฟอยู่เลยนะคะ ว่าจะหาเวลาบินไปเยี่ยมพี่หมอที่นั่น”
อติเทพยิ้มให้ พลางยกมือขึ้นวางไว้บนศีรษะปลายฝัน แล้วโยกเบา ๆ อย่างเอ็นดู
“ไม่ต้องไปแล้วค่ะ พี่กลับมาหาน้องปลายแล้ว พี่ย้ายมาอินเทิร์นที่นี่แล้วค่ะ”
หล่อ อบอุ่น ใจดี พูดเพราะ แถมยังเป็นหมออีกตางหาก เหนือเทพมองหมอหนุ่มตรงหน้าที่เดาไม่ยากว่าเป็นคู่แข่งหัวใจอย่างประเมิน ไม่ได้หวั่นใจหรอก ว่าน่ากลัวแค่ไหน เพราะเขาก็หล่อ อบอุ่น ใจดี พูดเพราะได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้เป็นหมอก็เท่านั้น
“น้องปลายคะ”
เหนือเทพฉีกยิ้มให้ปลายฝัน เอ่ยน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง พลางก็ดึงแขนเธอให้ออกห่าง ๆ หมอรุ่นพี่
อติเทพมองการกระทำของเหนือเทพยิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปสนใจแผลที่เข่าของที่รัก แล้วปล่อยให้ปลายฝันห้ำหั่นกับเหนือเทพทางสายตา
“เล่นซนเหรอคะเราน่ะ ถึงได้เข่าแตกแบบนี้”
“สะดุดขาตัวเองแล้วล้มเข่ากระแทกขอบฟุตบาทน่ะครับ”
ที่รักอยากจะเล่าละเอียดกว่านั้นอยู่นะถ้าไม่เกรงใจปลายฝัน ก็เพราะสองคนนั้นนั่นแหละที่ทะเลาะกันจนเขาซวยไปด้วย
“ไหน ขอพี่ดูสิคะ” อติเทพกดนิ้วลงรอบ ๆ บาดแผลที่ผิวหนังถลอกจนเลือดออก หมอหนุ่มเหลือบมองคนเจ็บ พร้อมกับถามอย่างเอื้ออาทร “เจ็บไหมคะ?”
ที่รักเคลิ้มอีกแล้ว ปกติแค่ผู้ชายยิ้มให้ หัวใจก็เต้นนุบนิบ นี่เป็นรุ่นพี่ที่หล่อที่สุดในคณะตอนเขาอยู่ปีหนึ่งเชียวนะ แล้วหัวใจจะเต้นเป็นจังหวะปกติได้ยังไง
“ที่รัก” อติเทพเรียกชื่อเล่นของที่รักไปสองครั้ง หนุ่มรุ่นน้องก็ยังยิ้มค้าง เขาจึงเรียกย้ำด้วยชื่อจริง
“คะ คะ ครับ” แม่! เขาเรียกหนูว่าที่รักแหละ
“พี่ถามว่าเจ็บไหมคะ?”
“ไม่เจ็บครับ”
“เก่งมากค่ะ แค่แผลถลอกนิดเดียว เดี๋ยวให้พี่พยาบาลทำแผลให้นะคะ”
พี่หมอตี้นี่อยากเป็นหมอผ่าตัดตามที่เคยบอกไว้หรืออยากเป็นหมอเด็กกันแน่นะ ถึงได้หลอกล่อราวกับเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ แบบนี้
หลังที่รักทำแผลเสร็จ เหนือเทพก็ถือโอกาสพาทั้งสองไปกินข้าวและจะไปส่งที่หอพัก โดยอ้างว่าตนเป็นสาเหตุให้ที่รักต้องเจ็บตัว ขอรับผิดชอบด้วยการไปรับส่งจนกว่าที่รักจะหายดี
“ผมไม่ได้ขาหักนะครับเฮียสาม ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้”
“ไม่ได้หรอก ลีวาณิชย์ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้”
มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ ที่รักได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในใจ รู้อยู่ หรอกว่าเป็นข้ออ้างของเหนือเทพ แต่มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลจนน่าหมั่นไส้
ปลายฝันได้แต่กลอกตาไปมา คราวนี้เหนือเทพเล่นใหญ่กว่าที่เคย ปกติถ้าเธอทำท่ารำคาญ ชายหนุ่มก็จะหายหน้าไปหลายวัน แต่ครั้งนี้กลับไม่ยอมถอยง่าย ๆ อาจเป็นเพราะอติเทพปรากฏกายขึ้นก็เป็นได้ เพราะตัวเธอเองไม่เคยปิดบัง ไม่ว่ากับเพื่อนอย่างที่รักหรือพี่ชายอย่างอคิน ว่ารุ่นพี่คนนี้แหละคือผู้ชายในฝันของเธอ
“มีความสุขเกิ้น”
ยามอยู่กันตามลำพัง เหนือเทพก็อดไม่ได้ที่จะกลับมาเป็นคนเดิม การพยายามทำตัวอบอุ่น ใจดี พูดเพราะ อย่างอติเทพ ปิดฉากลงทันทีที่ปลายฝันบอกเขาว่าถ้าไม่ไหวอย่าฝืน
“ค่อยเป็นตัวเฮียหน่อย” ปลายฝันประชดประชัน
“ออกเสียงให้มันดี ๆ หน่อย เฮีย หรือ เหี้ย”
ปลายฝันตวัดสายตาใส่ “พูดไม่เพราะ” พลางก็ต่อว่าตรง ๆ
“น้องปลายคะ น้องปลายขา” เหนือเทพจึงพยายามเลียนเสียงอติเทพ ซึ่งมันดูขัดกับใบหน้าที่กำลังเหยียดยิ้มมุมปาก “ชอบแบบนี้สินะ”
“อย่าทำเลย ขอร้อง” ปลายฝันกลอกตาอีกครั้ง เพราะภาพที่เหนือเทพทำแบบนั้นมันดูไม่ได้เลยจริง ๆ
หญิงสาวจึงนั่งหันหลังให้ ทอดสายตามองออกไปนอกรถยนต์คันใหญ่ที่กำลังพาเธอไปส่งที่หอพัก
“พรุ่งนี้เฮียมารับนะ”
เหนือเทพเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงปกติอย่างที่เป็นตัวของตัวเอง
“ไม่ต้องอะ ปลายไปเองได้”
“ยังไงก็ต้องไปรับเลิฟอยู่แล้ว ทางผ่านน่ะ”
“แผลถลอกแค่นั้น พรุ่งนี้เลิฟก็เดินปร๋อแล้ว”
“เราเนี่ยนะไม่มีความรับผิดชอบ ทำเพื่อนเจ็บแล้วยังไม่ดูแล ไม่แปลกใจเลย”
“อะไร?” ปลายฝันหันขวับกลับมาเอียงคอถาม
เหนือเทพจึงโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ส่งสายตากรุ้มกริ่มและแสนเจ้าเล่ห์ “ก็เวลาทำใจเฮียเจ็บ ปลายก็ไม่รับผิดชอบเหมือนกัน”
แล้วชายหนุ่มก็ฉวยจุ๊บแก้มใสไปหนึ่งครั้งถ้วน ปลายฝันเบิกตากว้าง ครั้งที่ร้อยแล้วมั้งที่เหนือเทพฉวยโอกาสแบบนี้
“เฮียสาม! อีกแล้วนะ!”
และก็เป็นเช่นทุกครั้งที่ปลายฝันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสะบัดใส่ หมุนตัวหันหลังให้แล้วก็ใช้หลังมือถูไถข้างแก้ม
เหนือเทพหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะก้าวลงจากรถไปเปิดประตูให้ เขาส่งสายตาซุกซนเหมือนเคยพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ส่วนปลายฝันพอก้าวลงไปได้ ก็ส่งยิ้มหวานให้ พร้อมกับใช้ส้นรองเท้าขยี้ลงบนปลายรองเท้าหนังสีดำ
“โอ๊ย! น้องปลาย เจ็บ ๆ ๆ ๆ”
เมื่อปลายฝันไม่ยอมยกส้นรองเท้าออกไป เหนือเทพก็ต้องยกร่างบางขึ้นมาให้เท้าลอยจากพื้นแทน ไม่เช่นนั้นนิ้วเท้าของเขาคงแตกเพราะส้นสูงที่กระแทกลงไป
“ปล่อย!”
แค่มีรถหรูคันใหญ่มาส่งถึงหน้าหอพักนักศึกษา ปลายฝันก็ถูกจับตามองมากพอแล้ว นี่ยังมีชายหนุ่มหน้าตาดีมากอดรัดฟัดเหวี่ยงขนาดนี้ ย่อมเป็นที่สนใจอย่างแน่นอน เมื่อคนเริ่มมามุงดู บางคนก็ยกมือถือขึ้นมาถ่าย เธอจึงต้องขู่ให้อีกฝ่ายปล่อยตัวเธอลง
เมื่อเห็นอีกฝ่ายหยุดพยศ เหนือเทพจึงค่อย ๆ ปล่อยร่างบางลงมายืนบนพื้น และทันทีที่เป็นอิสระ ปลายฝันก็รีบวิ่งเข้าหอพักทันที เหนือเทพได้แต่มองตามยิ้ม ๆ เขาก้มศีรษะให้นักศึกษาสาว ๆ ที่กำลังมองมา ส่งยิ้มหวานให้ทุกคน
“แฟนงอนนิดหน่อยน่ะครับ”