บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 16 แฟนเป็นใคร ใครเป็นแฟน

เขาว่ากันว่าเป็นผู้ชายเชื่อเมียแล้วจะเจริญ สงสัยเหนือเทพคงอยากเจริญ จึงยอมทำตามความต้องการของปลายฝันทุกอย่าง

หญิงสาวยอมย้ายออกจากหอพักเก่าก็จริง แต่ไม่ยอมไปอยู่กับเหนือเทพ เธอขอมาอยู่คอนโดเดียวกับที่รัก โดยอ้างว่าที่นี่ก็เป็นอาณาจักรของลีวาณิชย์เช่นกัน อีกอย่างมันก็ใกล้กับโรงพยาบาลที่เธอฝึกงานอยู่

เหนือเทพไม่อยากยอมก็ต้องยอมเพราะทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็มีอภิสิทธิ์เข้านอกออกในได้ในฐานะแฟนและเป็นเจ้าของอาคารทั้งหลังในฐานะทายาท แม้มันจะอยู่ในความดูแลของพี่ชายก็ตาม

แต่เสียอยู่อย่างเดียว…

ปลายฝันดันเลือกห้องตรงข้ามกับที่รัก ซึ่งแน่นอนว่าอติเทพก็ยังเทียวไปเทียวมาด้วย แม้ว่าปลายฝันจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง แต่เหนือเทพยังไม่ไว้ใจอีกฝ่าย เพราะคิดว่าอติเทพอาจจะแค่อยู่ในช่วงอกหักจากคนรักเก่า ตอนนี้มีใครเข้ามาก็คว้าเอาไว้ทั้งนั้น หากได้เจอกับปลายฝันทุกวี่ทุกวัน เกิดสองคนนี่กลับมาสปาร์คกันเขาจะทำอย่างไร

“คืนนี้เฮียค้างด้วยนะ”

เสื้อผ้าของเหนือเทพก็เลยมีอยู่ครึ่งตู้ เพราะชายหนุ่มขยันมาค้างกับคนรักถี่เหลือเกิน ทั้งหวงทั้งห่วงทั้งหึง

แต่ด้วยความที่ตระกูลลีมีธุรกิจเล็ก ๆ อยู่ที่ฮาวาย และเป็นความรับผิดชอบของเหนือเทพ เขาจึงต้องเดินทางไปที่นั่น อย่างน้อยก็เดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง จึงต้องทิ้งปลายฝันไว้ลำพังอยู่ดี

แล้ววันดีคืนดีก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้

เมื่อบิดามารดาของอติเทพเริ่มสงสัยว่าลูกชายมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้ ท่านทั้งสองจึงให้คนตามดู แล้วพบหลักฐานว่าอติเทพแอบอยู่กินกับใครบางคนในคอนโดใกล้กับโรงพยาบาล

“ที่แท้ก็หนูปลายนี่เอง พ่อกับแม่ใจหายหมดเลย แต่พอรู้ว่าเป็นหนูก็เบาใจ”

ใช่ พวกท่านเข้าใจว่าอติเทพอยู่กับปลายฝัน เพราะเข้ามาเจอทั้งสองอยู่ในห้องด้วยกันในจังหวะที่ที่รักลงไปรับอาหารจากไลน์แมนข้างล่าง

ซวยชะมัด!

“ตาตี้นี่ใช้ไม่ได้เลยนะ พ่อกับแม่ไม่เคยสอนให้ลูกเอาเปรียบผู้หญิง แม่ต้องทำเรื่องนี้ให้มันถูกต้อง”

เรื่องเริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ เมื่ออุษาจะไปเจรจากับพ่อแม่ของปลายฝัน ให้ทั้งสองหมั้นกันให้เป็นเรื่องเป็นราว ดีที่พวกท่านยังฟังคำขอร้องจากปลายฝัน ว่าขอเป็นฝ่ายไปเกริ่นกับพ่อแม่ของตัวเองก่อน พร้อมเมื่อไรจะไปบอกพวกท่าน

เหนือเทพอยู่ไม่สุข ทันทีที่รู้เรื่องเขาก็รีบบินกลับมาจากฮาวาย ทั้งสี่นั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องพัก กำลังคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

เหนือเทพบอกว่าไม่เห็นจะยาก แค่บอกความจริงกับพวกท่าน แต่อติเทพรีบค้าน ว่าทำเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด

“นายมันขี้ขลาด! ไม่ใช่ลูกผู้ชาย”

เหนือเทพชี้หน้าด่าอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้หน้าที่เป็นสาเหตุให้ปลายฝันต้องยุ่งยากใจ

แต่ปลายฝันกลับปกป้องหมอหนุ่มรุ่นพี่ ด้วยเข้าใจความลำบากใจของอีกฝ่าย และอีกรื่องที่ไม่มีใครรู้ คือเธอเคยเห็นประวัติการรักษาของอุษา มารดาของอติเทพเป็นโรคหัวใจ หากรู้ความจริงเรื่องของลูกชาย เธอคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน

ปลายฝันดึงเหนือเทพเข้ามาคุยในห้อง เธอขอร้องให้เขาเห็นใจ

“แล้วปลายจะทำยังไง ยอมหมั้นกับมันงั้นเหรอ แล้วเราล่ะ? นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?”

“คุณแม่ของพี่หมอตี้เป็นโรคหัวใจ ให้ท่านรู้เรื่องนั้นไม่ได้นะคะ”

“แล้วปลายต้องรับผิดชอบเหรอ?” เหนือเทพไม่มีทางยอมหรอก เขารีบบอกว่าถ้าอติเทพไม่ยอมพูดความจริง เขาจะเป็นคนจัดการเอง “ปลายรู้อะไรไหม เฮียจัดการเรื่องนี้ได้ ไม่ยากเลย”

แน่นอนว่าพวกลีวาณิชย์มีวิธีจัดการกับปัญหาทางธุรกิจได้ไม่ยาก ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่มันเป็นชีวิตของคนคนหนึ่ง แล้วหมออย่างปลายฝันก็ไม่มีทางปล่อยให้มีความเสี่ยงใด ๆ ที่จะกระทบอาการของคนไข้อย่างอุษาเด็ดขาด

แต่ในขณะเดียวกันปลายฝันก็เข้าใจเหนือเทพ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ จู่ ๆ ก็ถูกใครก็ไม่รู้มาเข้าใจว่าแฟนของตัวเองเป็นคนรักของลูกชาย จะไม่ให้คนที่ไม่เคยเสียอะไรอย่างเขาหัวเสียได้อย่างไร

“เฮียสาม”

ปลายฝันจึงใช้น้ำเย็นเข้าลูบ เธอดึงคนรักเข้ามากอด แล้วอธิบายอย่างใจเย็น

“ก่อนที่เฮียจะมาถึง ปลายได้ปรึกษากับเลิฟกับพี่หมอตี้แล้ว ว่าเราจะปล่อยให้พวกท่านเข้าใจอย่างนั้นไปก่อน อีกไม่นานพี่หมอตี้จะต้องไปเรียนต่อเฉพาะทาง ถึงตอนนั้นค่อยบอกท่านว่าเราเลิกกันแล้ว”

เหนือเทพไม่ได้เห็นด้วยสักเท่าไรที่ต้องทำอะไรยุ่งยากขนาดนั้น แต่ก็ยังถามกลับเพื่อเอาข้อมูลมาพิจารณา

“แล้วจะไปเรียนต่อเฉพาะทางเมื่อไร?”

“อีกปีกว่า ๆ ค่ะ”

“ฮะ?” อีกเดือนกว่า ๆ เหนือเทพยังพอรับได้ แต่นี่เป็นปีเชียวนะ “บ้าไปแล้ว”

“เฮียสาม” ปลายฝันเรียกคนรักด้วยน้ำเสียงหวาน ขอร้องให้ทำตามที่เธอขอ

“แล้วเรื่องหมั้น?”

“มันจะไม่เกิดขึ้นค่ะ เรื่องนั้นปลายจะคุยกับพวกท่านเอง”

“อย่าบอกนะ ว่าระหว่างนี้ปลายต้องเล่นละครเป็นแฟนมันน่ะ”

พอปลายฝันพยักหน้ารับ เหนือเทพก็กระแทกลมหายใจออกมา โคตรขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“แค่ต่อหน้าพวกท่านเท่านั้นแหละค่ะ ปกติพวกเราทำงานหนักจะตายไม่ค่อยมีเวลาว่าง เฮียก็รู้ คงไม่มีเวลาได้เจอพวกท่านบ่อยนักหรอก เอาตามนี้นะคะ ที่รัก น้า”

เจอลูกอ้อนเข้าไป เหนือเทพมีหรือจะทนได้ แฟนขออะไรก็ยอมให้ทุกอย่าง แม้ข้างในจะไม่พอใจมากก็ตาม เพราะมันเป็นเรื่องงี่เง่าที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ

ฝ่ายที่รักกับอติเทพที่ยังอยู่ในห้อง ต่างยังคงเงียบใส่กันอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะกว่าเดือนมานี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนจากพี่น้องมาเป็นคู่นอน

ใช่! เป็นแค่คู่นอนไม่ใช่แฟน

เวลาอยู่ที่โรงพยาบาล ปลายฝัน ที่รัก และอติเทพ จะเป็นกลุ่มเพื่อนพี่น้องที่สนิทสนม ไปทานข้าวด้วยกัน สังสรรค์กันบ้างตามแต่เวลาจะอำนวย ใคร ๆ ก็เห็นเป็นเช่นนั้น

แต่ในยามที่กลับมาที่พัก บางคืนอติเทพก็มาค้างกับที่รัก ทั้งสองไม่เคยตั้งคำถาม ว่าความสัมพันธ์แบบนั้นเรียกว่าอะไร ที่รักก็เลยนิยามให้ว่าเป็น ‘คู่นอน’

“พี่หมอตี้ไม่ต้องเครียดนะครับ เลิฟว่าปลายต้องพูดให้เฮียสามเข้าใจได้”

“พี่นี่แย่จังเลยนะคะ พี่ขี้ขลาดอย่างที่คุณเหนือเทพว่าจริง ๆ นั่นแหละ แค่พูดความจริงกับพ่อแม่ พี่ยังไม่กล้าเลย”

“เพราะพี่รักพวกท่านมากตางหากล่ะครับ เลิฟว่าอย่าเพิ่งเสี่ยงเลย”

ที่รักที่ก็รู้เรื่องอาการของอุษาเห็นด้วยกับข้อเสนอของปลายฝัน แม้ว่าตัวเองจะรู้สึกแย่มากก็ตาม

“แล้วเลิฟโอเคใช่ไหม?” อติเทพเหลือบมองใบหน้าของที่รัก ที่เงียบมาตลอดตอนที่ปลายฝันเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่แสนจะเห็นแก่ตัวของเขา

“ไม่มีอะไรที่เลิฟจะไม่โอเคนี่ครับ” ที่รักฝืนยิ้มให้ดูสดใส แต่มันก็ยังเฝื่อนอยู่ดีในสายตาของอติเทพ

“พี่ไม่เคยรู้สึกรังเกียจตัวเองเท่านี้มาก่อนเลย”

อติเทพมองหน้าที่รักนิ่ง เขารู้ดีว่าตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน ในขณะที่เขายังลืมโชแปงไม่ได้ เขาก็ใช้ร่างกายของที่รักสนองตัณหา หลายครั้งหลายคราที่เขาครางชื่อคนรักเก่าออกมาระหว่างทั้งสองกำลังร่วมรักกัน

แต่ที่รักก็ยังยิ้มให้ และบอกว่าเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น ที่รักไม่เคยคาดหวัง ไม่เคยขออะไรเขาเลย อติเทพจึงตักตวงเอาทุกความต้องการของตัวเอง จนกระทั่งวันนั้นที่เขาได้เห็นความเจ็บช้ำในแววตาของที่รัก

“เลิฟ รู้สึกอะไรกับพี่หรือเปล่า?”

อติเทพถามย้ำ เพราะเขายังจำสายตาตัดพ้อเจือความเจ็บปวดของที่รักตอนที่มารดาบอกว่าจะจัดการให้เขากับปลายฝันหมั้นหมายกันได้

“รู้สึกอะไร พี่หมอตี้หมายถึงอะไรครับ?”

“ก็เรื่องที่เราสองคน…”

“โธ่… พี่ เลิฟเคยบอกแล้วไง วินวินทั้งสองฝ่าย” ที่รักยิ้มหวาน พลางก็โน้มใบหน้าเข้าไปจูบปากของอติเทพ “เลิฟไม่ได้รู้สึกอะไร”

ที่รักกระซิบคำนั้นข้างหูของอติเทพ ไม่ใช่เพราะต้องการสร้างอารมณ์หวาม แต่เพราะต้องการบดบังความรู้สึกที่มันท่วมท้นอยู่ภายใน

อติเทพเลื่อนวงแขนมาโอบร่างเล็กไว้ เขาวางคางไว้บนไหล่อีกฝ่าย กระซิบบอกคำขอบคุณ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel