ตอนที่ 13 เคลียร์ ๆ จบ ๆ
ทั้งสองพากันเข้ามานั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมที่มีสภาพค่อนข้างยับเยินไม่แพ้บนเตียงนอนนั่น ปลายฝันกวาดสายตามองสภาพของห้องรวมทั้งเจ้าของมันที่กำลังนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงหน้าเธอ
ตอนที่เห็นอติเทพเดินออกไปจากห้องของที่รัก ปลายฝันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอเข้ามาเห็นสภาพของทุกอย่างตรงหน้าก็ยอมรับว่าตกใจไม่น้อย เธอไม่ได้โกรธ แต่แปลกใจและสงสัยในเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากกว่า
ที่รักสบตามีคำถามของปลายฝัน ก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ ให้อีกฝ่าย แอบโล่งใจนิดหน่อยที่เพื่อนไม่มีท่าทางโกรธเคือง ดูจากสีหน้าน่าจะแค่สงสัยและอยากรู้อยากเห็นเสียมากกว่า เขาจึงค่อย ๆ เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ปลายฝันฟัง ตั้งแต่วันแรกที่เห็นอติเทพที่นี่ จนกระทั่งถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“หมายความว่าเลิฟกับพี่หมอตี้?” ปลายฝันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา เธอเอานิ้วชี้มาชนกัน เลิกคิ้วถามเพื่อนรัก มุมปากค่อย ๆ ฉีกยิ้มเขินออกมา “จิ้นอ่า…”
ที่รักรู้สึกผิดคาดไปมากกับท่าทีของปลายฝัน เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นสาววาย ชอบจับผู้ชายมาจิ้นกัน แต่ก็ไม่คิดว่ากับคนที่ตัวเองหลงรักอย่างอติเทพ เธอก็สามารถเอามาจิ้นกับผู้ชายคนอื่นได้ด้วย
“เดี๋ยวนะ ปลายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
ที่รักคว้ามือเพื่อนมากุมไว้ หรือบางทีปลายฝันอาจจะช็อคจนเป็นบ้าไปแล้วก็ได้
“โกรธอะไรอะ?”
“ก็… ที่เลิฟกับพี่หมอตี้…”
“มีอะไรกันน่ะเหรอ?”
“เออ”
แล้วปลายฝันก็สั่นหน้า แววตาดูเพ้อ ๆ
“ไม่อะ น่ารักอะ”
เป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ เพื่อนกู หรือว่า…
“หรือว่าจริง ๆ แล้วปลายไม่ได้ชอบพี่หมอตี้จริง ๆ” ที่รักเริ่มตั้งคำถาม
เมื่อปลายฝันฟังแล้วก็คิดตาม เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เจ็บปวด นอกจากอิ่มเอมแล้วก็แอบเขินหน่อย ๆ
“เออจริง” เธอเอามือขึ้นมากุมหัวใจ “เธอต้องเสียใจสิปลายฝัน” เธอรีบบอกกับตัวเอง ก่อนจะทำหน้าเศร้าลง “เลิฟเพื่อนรัก ปลายเจ็บอะ” แล้วก็แสร้งบีบน้ำตา
“ปลอม!” ที่รักสวนกลับทันควัน ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ “กลัวอยู่ตั้งนาน”
“นั่นแน่” ปลายฝันยิ้มเจ้าเล่ห์พลางก็ชี้หน้าเพื่อนอย่างจับผิด “เลิฟก็แอบชอบพี่ตี้เหมือนกันใช่ม้า?”
“ก็…” ที่รักหลบตาเพื่อนรัก
“ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมพลีกายให้เขาง่าย ๆ หรอกจริงมะ?”
ไม่พูดเปล่าปลายฝันยังเอื้อมมือไปดึงเสื้อคลุมอาบน้ำที่ที่รักสวมไว้หลวม ๆ จนมันเลื่อนลงจากไหล่ เผยให้เห็นรอยคิสมาร์กที่ฝังอยู่ตามตัวขาว ๆ นั่น
“อู้หูว”
“ยัยปลาย!” ที่รักฟาดฝ่ามือลงบนไหล่เพื่อนรักไม่แรงนัก เพียงแก้เขินเสียมากกว่า “ทะลึ่ง!”
“แหม… ไม่ต้องเลยนะ ยังมีความผิดอยู่นะเราน่ะ”
“อะไรอีกอะ ไหนบอกว่าไม่โกรธไง?”
“ไม่ได้โกรธที่เลิฟแย่งพี่หมอตี้ไป แต่โกรธที่มีอะไรไม่ยอมเล่าให้ปลายฟังมากกว่า” ปลายฝันทำเสียงกระเง้ากระงอด งอนที่เพื่อนไม่เห็นความสำคัญ
“โอ๋ เลิฟขอโทษ” ที่รักโน้มตัวลงไปหา เอาใบหน้าคลอเคลียบนหัวไหล่เพื่อนสาว “ก็เลิฟกลัวปลายจะรับไม่ได้อะ เลิฟยอมเสียผู้ชายดีกว่าเสียเพื่อนอย่างปลายไปนี่นา”
“แล้วเป็นไง เสียตัวเลยเห็นไหมล่ะ”
“ก็…” ที่รักซ่อนยิ้ม ก่อนจะกระซิบใกล้ ๆ หูของปลายฝัน “มันฟินอะ”
แล้วทั้งสองก็หัวเราะให้กัน ด้วยความแก่นเสี้ยวของปลายฝัน ยังกระซิบถามที่รักต่ออีกว่าอาการมันเป็นยังไง คนอบอุ่นอ่อนโยนอย่างอติเทพ คงจะนุ่มนวลกับเพื่อนของเธอใช่ไหม
ที่รักทำสีหน้าว้าวใส่เพื่อนอย่างมีนัย แต่ไม่ยอมเล่ารายละเอียดอะไรเลย ปลายฝันจึงเอาคืนด้วยการบังคับให้อีกฝ่ายไปส่งตนที่หอพัก เพราะเขาทำเธออกหัก ต้องเป็นคนดูแล
ทั้งสองกอดคอกันลงมาจากห้องพัก ตอนกำลังจะเดินผ่านร้านสะดวกซื้อที่รักก็ลากปลายฝันเข้าไป
“จะซื้ออะไร?”
ปลายฝันถามเพื่อนอย่างสงสัย ฝ่ายที่รักก็ยิ้มพราย แล้วไปเปิดตู้แช่หยิบเบียร์มาสองกระป๋อง
“อกหักไม่ใช่เหรอ?”
“ปลายไม่ดื่ม”
รู้อยู่หรอกว่าเพื่อนสาวไม่ชอบของมึนเมา แต่ที่รักก็ไม่ได้ซื้อมาให้ดื่มเสียหน่อย เขาลากเพื่อนสาวมานั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะชวนคุย
“ปลายไม่ได้ชอบพี่หมอตี้ แสดงว่าชอบเฮียสามใช่ไหม?”
ที่รักตั้งคำถามทันทีที่เพื่อนสาวย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ เมื่อไม่ได้คำตอบก็เอียงใบหน้ามาสังเกตอาการของเพื่อน
“ใช่จริง ๆ ด้วย”
“เฮ่อ!” ปลายฝันกระแทกลมหายใจแรงจนไหล่ตก ไม่ใช่เพราะเขินที่ถูกจับได้ แต่เพราะหนักใจมากกว่า
“เฮียสามเจ้าชู้จะตาย เขาก็แค่หมาหยอกไก่”
“หมาตัวไหนมันจะหยอกไก่ได้นานตั้งสองปี” ที่รักไม่เห็นด้วย
“สองปี ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย คืนก่อนก็จัดปาร์ตี้ สาว ๆ นี่ล้อมหน้าล้อมหลัง เดือนที่แล้วก็บินไปฮาวาย ได้ข่าวว่าไปเจอสาวที่นั่นด้วย”
“หึง?”
“เปล่า… มันแค่รู้สึกไม่ชอบ”
“แถวบ้านเรียกหึง”
ปลายฝันเงียบไป นั่นเท่ากับว่าหญิงสาวยอมรับ
“แล้วทำไมปลายไม่รับรักเฮียสามเสียทีล่ะ”
“ไม่กล้าอะ”
“ทำไม?” ที่รักถามพลางก็ค่อย ๆ ดึงที่เปิดฝากระป๋องเบียร์ออก
“กลัวไปกันไม่รอด แล้วอีกอย่างก็ไม่มั่นใจด้วยว่าเขารักปลายจริง ๆ”
ระหว่างที่ปลายฝันกำลังตัดพ้อ ที่รักก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของเพื่อนสาวออกมาถ่ายภาพกระป๋องเบียร์ ปลายฝันปรายมองแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ปกติพวกเธอก็ไม่ได้มีความลับกันอยู่แล้ว ใช้โทรศัพท์ของกันบ่อยจะตาย
ที่รักพิมพ์อะไรยุกยิกลงไป ก่อนจะส่งคืนกลับมาให้ปลายฝัน เธอรับมันกลับมา ตอนแรกว่าจะหย่อนกลับเข้าไปในกระเป๋าสะพาย แต่สายตากลับเห็นหน้าอินสตราแกรมที่เปิดค้างไว้ ในนั้นมันมีโพสต์ของเธอพร้อมกับแคปชั่น
‘โคตรเจ็บ’
และที่ร้ายกว่านั้น มันเป็นภาพด้านข้างของเธอที่นั่งหน้าเศร้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก ข้าง ๆ มีกระป๋องเบียร์เปิดแล้วหนึ่งกระป๋อง ฉากหลังเป็นคอนโดของที่รัก
“ทำอะไรเนี่ย?”
ถ้าพ่อแม่ของเธอเห็นต้องด่าเปิงแน่ ปลายฝันกำลังคิดแบบนั้น แต่พอจะลบ ที่รักก็แย่งโทรศัพท์มือถือกลับไป
“ถ้าเขาไม่รัก เขาไม่แคร์ เขาไม่มาแน่ แต่ถ้าเขาทั้งรักทั้งห่วงล่ะก็… อีกไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึง พนันกันไหมล่ะ”
เมื่อปลายฝันอ่านสายตาของที่รักออกว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรก็รีบปฏิเสธทันที “ไม่มีทาง”
ตอบเพื่อนไปอย่างนั้นแต่ในใจก็เต้นแรง ระหว่างคุยกับที่รักก็เหลือบมองเวลาอยู่ตลอด คอนโดของเหนือเทพอยู่ห่างจากที่นี่สิบกว่ากิโลเมตร ถนนตอนดึก ๆ แบบนี้ก็ไม่ค่อยมีรถ หากอีกฝ่ายเป็นห่วงคงมาถึงได้ภายในสิบนาทีอย่างที่ที่รักว่า นอกจากเขาจะไม่เห็นโพสต์นั่นเท่านั้นแหละ
ปลายฝันชำเลืองมองหน้าจอโทรศัพท์ ไม่มีข้อความ ไม่มีสายเรียกเข้า เขาคงไม่มาหรอกปลายฝัน
สิบนาทีผ่านไปที่รักก็เริ่มขยับตัวลุกขึ้นยืน
“ป่ะ กลับกันเถอะ เดี๋ยวเลิฟไปส่ง”
ปลายฝันที่มีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นมา แต่ก็ต้องร้องว้ายเมื่อที่รักสาดเบียร์ที่เหลือใส่หน้าอกของเธอ
“อุ๊บ!”
ที่รักทำทีเป็นตกใจ ก่อนจะกระชากปลายฝันจนเสียหลัก ในจังหวะเดียวกันรถยนต์คันหรูก็ปาดเข้ามาเทียบฟุตบาทตรงที่พวกเขายืนอยู่อย่างรวดเร็ว
“เมาน่ะครับ หนักเลย”
ที่รักบอกกับคนที่เพิ่งลงมาจากรถอย่างร้อนรน ปลายฝันจึงหันขวับกลับไปมองตามก็พบเข้ากับคนที่เธอรอ
“ปลาย!”
เหนือเทพรีบก้าวเข้ามารับตัวปลายฝันจากที่รัก เขาตีความทุกอย่างจากที่เห็นและได้รับรายงานมาก่อนหน้า อติเทพกับที่รักมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอย่างแน่นอน แล้วนี่ปลายฝันก็คงรู้เรื่องแล้วถึงได้มาเคลียร์กับที่รักแล้วดื่มหนักขนาดนี้ ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมาอุ้ม ส่วนปลายฝันก็เหลือบมองที่รักอย่างตกใจ
ที่รักยักไหล่ให้เพื่อนสาว ขยิบตาให้ส่งสัญญาณว่าให้ใช้สถานการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์ อยากรู้ว่าเหนือเทพรู้สึกอย่างไรก็ให้ถามตอนเมานี่แหละ
แต่เอ… ต้องเป็นตอนเหนือเทพเมาหรือเปล่าไม่ใช่ปลายฝัน
ที่รักฉุกคิดขึ้นมาได้แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เพื่อนสาวโดนอุ้มขึ้นรถอย่างทะนุถนอม และดูเหมือนนางก็ยอมถูกอุ้มไปแต่โดยดี
แรงกว่ากูอีก!