ตอนที่ 14 : ยืมมือศัตรู
'พะนาย...ถ้าคุณยอมรับในตัวผม ผมจะนำความสุขของคุณกลับคืนมา'
ประโยคนี้ดังสะท้อนก้องในหัว มันวนเวียนฉายซ้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้เจ้าของคำพูดนี้ไม่อยู่ในห้องแล้วก็ตาม
ผมสลัดความคิดทิ้งและไม่เก็บมาใส่ใจ ยังไงความสุขก็จบลงตั้งแต่เสียพ่อกับแม่ไป ชีวิตต่อจากนี้ต่างหากที่ควรทำ ถ้าเอาเลือดไอ้ระยำพวกนั้นมาเซ่นไหว้พ่อแม่ไม่ได้ ไม่ต้องมาเรียกผมพะนาย!
นิ้วทั้งสิบยังคงตั้งใจทำงานให้ทันตามสมองสั่งการ หน้าจอแสดงผลกำลังเข้าสู่ระบบอัพโหลดข้อมูล รวมถึงเครือข่ายเชื่อมโยงทั้งหมดของคฤหาสน์ตระกูลโออิมิยะ
มีอย่างหนึ่งที่ยังคาใจ คนอย่างผู้นำสาขาตะวันออกเฉียงเหนือกล้าให้คนที่ถูกตั้งค่าหัวสูงมาเหยียบถึงในถิ่นโดยไม่กลัวจะถูกแฮ็กข้อมูล แถมเป็นคนพามาด้วยตัวเอง หาข้อเสนอสารพัดอย่างท้าทายยั่วยุเพื่อให้เดินไปตามเกมของอีกฝ่าย
เหตุผลแค่ต้องการผลิตอาวุธเห็นทีจะเป็นข้ออ้างซะมากกว่า
ตึ๊ง...
พลันหน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏตัวการ์ตูนหน้าตาน่ารักอย่างในอนิเมะ ลูก้าในร่างเด็กผู้ชายถูกถอดแบบมาจากภาพวาดของนิตยสารขายดีเล่มหนึ่ง ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนเด็กน้อยใสซื่อดูไม่มีพิษภัย ใครเห็นก็รักก็เอ็นดู
ในความเป็นจริง นอกจากไม่ใสซื่อแล้วยังชวนหงุดหงิดอีกด้วย
[ทำหน้าอย่างกับโกรธใครมาเป็นร้อยชาติ]
เสียงเอไอกวนประสาทดังขึ้นตามลำโพงของโน๊ตบุ๊ค พร้อมกับทำท่ายืนกอดอกเอียงคอมองด้วยความสงสัย
"ยุ่งอะไร"
[อายุน้อยแท้ๆ ไม่น่าอารมณ์แปรปรวนง่ายเลย อีกหน่อยคงจะเกิดความเครียดสะสม กลายเป็นตาแก่ขี้บ่น]
ใครกันแน่เป็นตาแก่ขี้บ่น พูดปาวๆ อยู่ตอนนี้ไม่ใช่เอไอรึไง
"อยากถูกลบจากสารระบบดูบ้างมั้ย?"
ร่างของลูก้ากลายเป็นกล่องข้อความทันที ในนั้นมีตัวหนังสือพร้อมกับเสียงดังออกมา
[เอไอเป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่สามารถเข้าใจคำถามเชิงลบ กรุณาตั้งคำถามใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับผู้รับสาร]
ทีอย่างนี้ทำเป็นไม่เข้าใจ
"รหัสคำสั่ง ลูก้า 0007 ทำการถอดออกจากระบบในอีก สาม...สอง...หนึ่ง"
[ผมยอมแล้ว! อย่าถอดผมเลยนะ!]
ทีอย่างนี้ทำเป็นยอม...
ลูก้ารีบเปลี่ยนจากสถานะกล่องข้อความกลับมาเป็นร่างเดิม แถมทำหน้าตาจริงจังเป็นการเป็นงานมากขึ้น
"งานที่ให้ทำถึงไหนแล้ว"
ผมแกล้งไม่สนใจก่อนจะอัพโหลดข้อมูลต่อ เนื่องจากที่นี่เป็นฐานระบบแม่ข่ายขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องใช้เวลามากเป็นพิเศษ
[การตรวจสอบโดรนรุ่นทดลองพบว่า ในนั้นมีวีดีโอสำหรับถ่ายทอดสดติดตั้งภายใน วัสดุจากตัวเครื่องมีปฏิกิริยากับความร้อนสูง ใช้แบตเตอรี่เป็นตัวขับเคลื่อน ควบคุมระบบการสั่งงานด้วยรีโมทคอนโทรล]
เป็นแค่รุ่นทดลองกลับทำได้ดีขนาดนี้ ต่อไปคงต้องขีดเส้นใต้ตัวใหญ่ๆ ว่า 'อย่าประมาท'
"บริษัทไหนสร้างโดรนรุ่นนี้"
[Security เป็นบริษัทเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ทำรายได้มหาศาลจากการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และยังเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของมาเฟียสาขาตะวันออกเฉียงเหนือ]
คู่แข่งของชูเซย์?
หมายความว่าไอ้สารเลวนั่นยืมมือคู่อริของตระกูลโออิมิยะเพื่อใช้เบี่ยงเบนเป้าหมาย จากนั้นก็นั่งดูความสำเร็จในที่มืด ปล่อยให้ทั้งสองกลุ่มฆ่ากันให้ตาย และผมที่อยู่ที่นี่ก็จะถูกล็อคเป้าเป็นผลพลอยได้
เท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ผมกดคลิกเมาส์สองสามทีพลันหน้าจอปรากฏสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นตึกสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้น ความหรูหราและรูปทรงการออกแบบจัดว่าทันสมัยทีเดียว ไม่แน่ว่าไอ้ฆาตกรนั่นอาจจะอยู่ในนั้น
"ใครเป็นผู้บริหาร"
[วาซามิยะ เรย์อิ]
"ประวัติ"
[อายุ 28 ปี การศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในญี่ปุ่น ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัย และเคยลงชิงตำแหน่งผู้นำหนึ่งในสี่สาขาหลักมาเฟียที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในญี่ปุ่น]
นามสกุลที่มีคำว่า 'มิยะ' ต่อท้าย จะสามารถเข้าชิงตำแหน่งผู้นำสี่สาขาหลัก ข้อมูลนี้ก็พอได้ยินมาบ้าง และเหตุผลที่มีแต่เฉพาะ 'มิยะ' ลงได้เพราะตระกูลเหล่านี้เป็นตระกูลเก่าแก่หรือไม่ก็เป็นถึงขุนนางสมัยยุคโบราณสืบเชื้อสายมาหลายร้อยปี
[มีอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ]
คิ้วทั้งสองเลิกขึ้นทันทีเมื่อเสียงลูก้าดังขึ้นขัดความคิด ผมหยุดมือซึ่งกำลังจะคลิกเมาส์ค้างไว้อย่างนั้น
"อะไร?"
[ไม่เคยมีใครเห็นตัวจริงของเขา]
ไม่เคยเห็น 'วาซามิยะ เรย์อิ' คนนั้นน่ะเหรอ...เป็นผีหรือวิญญาณล่ะถึงหาตัวไม่เจอ
"อย่าบอกนะว่าหมอนี่ลงชิงตำแหน่งแก๊งมาเฟียโดยให้คนอื่นออกหน้าแทน"
[ถูกต้อง]
งั้นการจะหาตัวตนคงเป็นเรื่องยาก เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องต้องถูกลบออกจนหมด เหลือทิ้งไว้แค่ประวัติธรรมดา หรือไม่ก็สร้างข้อมูลเท็จเพื่อแหกตาคนอื่น
"ข้อมูลในทะเบียนราษฎ์ระบุว่าไง"
[ในทะเบียนราษฎ์คล้ายจะมีร่องรอยการเก็บรักษา แต่ถูกลบทิ้งและไม่สามารถกู้กลับมาได้ แถมจงใจทิ้งเหยื่อล่อล้วงข้อมูลอีกฝ่ายแทน]
งั้นเหรอ...เก่งขนาดนี้เชียว ลบประวัติ สร้างหลักฐานเท็จ แถมยังทำตัวเป็นเงาผีอยู่ในที่มืดไม่ยอมโพล่หัว เห็นทีคงต้องออกโรงเองแล้วสิ ดูซิว่าจะปิดบังพ่อบังเกิดเกล้าอย่างพะนายคนนี้ยังไง ถ้าสืบเรื่องวาซามิยะได้ก็สาวถึงไอ้สารเลวนั่นได้เหมือนกัน
ตึ๊ง!
จู่ๆ มีอีเมลล์ปริศนาฉบับหนึ่งเด้งขึ้นบนหน้าจอ ไม่ระบุที่มาและไม่มีชื่อคนส่ง
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์สีแดงฉบับนั้นหมุนวนรอบตัวเอง คล้ายจงใจล่อลวงผู้พบเห็นกดเข้าไปอ่าน
นาทีนี้ผมไม่สนว่าหมอนั่นจะเป็นศัตรูของชูเซย์หรือของใคร แต่ผมจะตามไปกระชากหน้ากากไอ้สารเลวที่ใช้เงาคนอื่นปิดบังความเลวของมันให้ได้ ไม่แน่ว่าคงต้องเริ่มจากคนที่ชื่อ 'วาซามิยะ เรย์อิ' นี่ก่อน
ลูก้าทำการสแกนไวรัสทันที แต่กลับไม่มีการจู่โจมใดๆ เกิดขึ้น
[ตรวจไม่พบไวรัสแฝง]
ไม่เจอไวรัส แถมยังฝ่าด่านกรองข้อมูลของชูเซย์มาได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนภัยดังสักนิด เป็นศัตรูที่ไม่เลวเลยจริงๆ
"ตรวจหาต้นตอของอีเมลล์"
[Security]
ท่าทางเรย์อิคนนั้นจงใจใช้วิธีนี้ยั่วยุผู้นำสาขาตะวันออกเฉียงเหนือน่าดู ถ้าเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้รู้เรื่องเข้าจะทำสีหน้ายังไง
[มีบางอย่างแปลกๆ]
เสียงลูก้าดังขึ้นพร้อมกับแทบสถานะแจ้งเตือนบนจอโน๊ตบุ๊คปรากฏคลื่นวัดรังสีความร้อนจากอินฟราเรด มันเบาบางจนแทบตรวจจับไม่ได้
ในขณะที่มือกำลังเลื่อนเมาส์เข้าใกล้จดหมายปริศนาและปลายนิ้วแตะลงไปบนปุ่มเบาๆ กลับมีมืออีกข้างซ้อนอยู่ด้านบนขยับเลื่อนเมาส์ออกห่าง ด้วยสัญชาตญาณผมจึงหันกลับไปมองทันที ปลายคางของคนข้างหลังเกือบแตะเข้ากับริมฝีปากของผม ซึ่งไม่รู้อีกฝ่ายมาเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าไอ้บ้านี่แทบจะเข้ามาสิงร่าง
เข้าก้มหน้าลงมามองลึกในดวงตา รอยยิ้มมุมปากยกขึ้นอย่างผู้เหนือชั้น
"หึ...ในที่สุดก็จับได้แล้ว"