บทที่4 เด็กดื้อเอาแต่ใจ
ฉันยืนรอคุณลุงอยู่ที่หน้าคลับ กลิ่นควันบุหรี่มันทำให้ฉันหงุดหงิด เพราะฉันดันเลือกยืนอยู่ตรงจุดสูบบุหรี่ มีกลุ่มผู้ชายสามสี่คนกำลังยืนรมควันกันอยู่ พอฉันเริ่มเดินห่างออกมา พวกเขาก็หันมามองที่ฉัน...เป็นอย่างที่คิด พวกเขาหันไปพูดอะไรกันสักอย่าง ก่อนที่จะเดินเข้ามาล้อมฉันไว้
“อะไร?” ฉันที่ยืนกอดอกนิ่วหน้าถาม
“มาคนเดียวหรือมากับผัว?” เหอะ! ฟังคำถามของมันสิ แสดงถึงความต่ำได้อย่างชัดเจน คลับฟาโรห์น่ะ ถึงจะเป็นคลับของนักเที่ยวกระเป๋าหนัก ใช่...เราอาจมองออกว่าใครกระเป๋าหนัก แต่เรามองระดับจิตใจคนพวกนั้นไม่ออกจริงๆ
“ต่างกันยังไงล่ะ?” ฉันแสยะยิ้ม ถามกลับ เชิดหน้าอย่างไม่เกรงกลัว จะต้องกลัวอะไร? ในเมื่อ...ย่านนี้มันเป็นถิ่นของคุณปู่กับคุณพ่อของฉัน
“ต่างกันตรงที่ ถ้ามาคนเดียวความสนุกมันก็จะน้อยหน่อย แต่ถ้าเธอมากับผัว...มันก็ท้าทายพวกเรามาก” หนึ่งในสี่เอ่ยตอบ น้ำเสียงฟังดู...หื่นกามขั้นสุด
“เหรอ?” แล้วหัวสมองของฉันมันก็คิดเรื่องสนุกๆขึ้นมา เมื่อสายตาของฉันมองผ่านวงล้อมไปสบเข้ากับร่างสูงที่กำลังลงจากรถมา มันต้องสนุกแน่...ไม่ใช่ไอ้หื่นสี่คนนี่หรอกที่สนุก แต่เป็นฉันต่างหาก
“ตกลงว่าไง? มีผัวหรือไม่มี?”
“มี...นั่นไง ผัวฉัน” ฉันเชิดหน้าไปทางร่างสูงด้านหลังวงล้อม พอพวกที่รุมล้อมฉันอยู่หันไปมอง มันก็หันกลับมาถามฉันด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
“เด็กเสี่ยเหรอวะ?”
“ไม่ใช่ แค่มีผัวแก่เฉยๆ เด็กกระโปกอย่างพวกนายน่ะ ไม่ใช่สเป็คฉันหรอก! ไร้ประสบการณ์ เงินก็ไม่มี โชคดีก็แค่พ่อแม่รวย แต่ขอโทษนะ...พอดีว่าฉันน่าจะรวยกว่าด้วยซ้ำ! เพราะเงินที่ฉันใช้อยู่ทุกวันนี้...ก็คือเงินที่พวกนายเอามาโปรยที่นี่ไง” ฉันแสยะยิ้ม หันไปมองป้ายไฟของคลับฟาโรห์
“เธอ?”
“วีนัส หลานของคุณปู่ฟาโรห์ ลูกของพ่อฟีนิกซ์กับแม่วิวาห์ แล้วก็เป็นเมียของเขา...ดูดีๆสิว่านั่นใคร” ฉันบอกให้พวกมันมองไปที่คุณลุงอินทรีย์ที่เวลานี้ยืนพิงรถรอฉันอยู่ เขาคงไม่รู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ ในมือนั้นก็กำลังกดมือถือโทรออกหาฉันแน่ๆ
“นั่นอินทรีย์ นักแข่งมอเตอร์ไซค์เหรอ?”
“เขาดังในหมู่เด็กแว๊นอย่างพวกนายสินะ?” บอกตรงๆว่าฉันกำลังตลกหน้าตาเหวอๆของพวกนี้มาก
“ปากดีว่ะ อยากโดนตบเหรอ?!” หนึ่งในนั้นตะโกนดังขึ้นมา
“มึงอย่า! นี่ลูกสาวมาเฟียนะไอ้ห่า!” แล้วเพื่อนของมันก็ห้ามเอาไว้
ครืดๆ
ในตอนนั้นมือถือของฉันก็สั่นครืดๆขึ้นมา ฉันคว้ามันมากดรับสายในทันที
[วี ลุงมาแล้วค่ะ หนูอยู่ตรงไหน]
“หนูอยู่นี่ค่ะ...” ฉันบอกคุณลุง ก่อนจะเดินฝ่าวงล้อมออกไป ตรงเข้าไปหาคุณลุงที่รักของฉันซึ่งยืนพิงรถอยู่ เราสองคนต่างกำลังถือสายของกันและกันอยู่
“วี?” คุณลุงอินทรีย์มองหน้าฉันอย่างแปลกใจเล็กน้อย ทว่า...ฉันหยุดไม่ได้แล้ว ฉันมีสิ่งที่ต้องการจะทำ มีสิ่งหนึ่งที่รอคอยมานาน...
ฉันเดินเข้าไปหยุดที่ตรงหน้าคุณลุง เราใกล้กันมาก ใบหน้าห่างกันเพียงคืบ ฉันเขย่งเท้าขึ้นสูง สบตาคุณลุงที่กำลังตกใจในการกระทำของฉัน ฉันส่งสองมือไปประคองใบหน้าของคุณลุง...ขณะนั้นหัวใจของฉันมันก็เต้นแรงขึ้นมา
“วีนัส?” คุณลุงอินทรีย์เอ่ยชื่อของฉันอีกครั้ง
“หนูคิดถึงคุณลุงจังเลยค่ะ” แล้วฉันก็กดจูบลงบนแก้มตอบของเขา ที่จริงอยากทำมากกว่านั้น...แต่วันนี้แค่นี้ก่อนดีกว่า
“วีนัส?” คุณลุงมีท่าทีตกใจเล็กน้อยที่โดนฉันจูบแก้ม
“ทำไมคะ? เมื่อก่อนยังทำได้เลย...หรือคุณลุงไม่ชอบให้หนูทำ?” จังหวะที่ฉันเงยหน้าถามคุณลุงพร้อมรอยยิ้ม หางตาฉันก็เห็นไอ้กลุ่มผู้ชายสี่คนนั้นเดินออกไป คุณลุงขมวดคิ้วมองฉัน สายตาของเขาที่มองฉันนั้น...เป็นสายตาที่ฉันมองไม่ออกจริงๆว่าเขากำลังคิดอะไร
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ไม่ชอบ”
“งั้นก็แสดงว่าชอบ” ฉันฉีกยิ้ม โผเข้ากอดเขาแน่น
“งื้อ! ชอบกลิ่นตัวของคุณลุงจังเลย ดีใจจังที่เราได้เจอกันอีก...คุณลุงคิดถึงหนูไหมคะ?”
“วีนัส อย่าทำแบบนี้ค่ะ หนูโตแล้วนะ ถ้าใครมาเห็นเขาจะมองไม่ดี” คุณลุงแกะแขนฉันที่กอดเขาอยู่ออก
“หนูไม่สนใจสายตาคนอื่นค่ะ ไม่สนใจหรอกว่าใครจะคิดยังไง หนูแคร์แค่คุณลุงคนเดียว”
“กลับบ้านกันนะ เดี๋ยวลุงไปส่ง” ว่าแล้วคุณลุงก็พาฉันขึ้นไปนั่งบนรถของเขา เพียงเพราะอยากจะเลี่ยงประโยคที่เรากำลังคุยกันอยู่
?????
“พี่มึงทำอะไรวะ?” เสียงของพัตเตอร์ดังขึ้น ขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังวีนัสและอินทรีย์
“...” ขณะที่สายฟ้าซึ่งหวงผู้หญิงทุกคนที่เป็นของเขา นั้นทำเพียงนิ่งเงียบ มีผู้หญิงอยู้สามคนที่เขาหวงสุดชีวิต หนึ่ง...วิวาห์ผู้เป็นแม่ สอง...วีนัสผู้เป็นพี่สาว และสุดท้าย...นุ่มนิ่ม ไร้ซึ่งสถานะใด พูดไม่เต็มปากว่าเป็นเพื่อนแต่หวงมากเหลือเกิน
“หรือวีนัสคิดจริงจังกับลุงอินทรีย์?” พัตเตอร์ถามต่อ
“วีแม่งอยากโดนไง คืนนี้กลับไปกูจะหวดให้ยับเลย” สายฟ้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน
“มึงจะทำเชี่ยอะไร พี่สาวมึงรักเขา มึงควรสนับสนุนสิวะ”
“แล้วมึงว่าพ่อกับแม่กูยอมได้หรือไง? ลูกสาวรักผู้ชายรุ่นพ่อเนี่ยนะ?”
“น้าอบเชยก็มีสามีที่แก่กว่าตั้งยี่สิบปี” พัตเตอร์ว่า
“นั่นมันน้าอบเชยไง! แต่นี่วีนัส! พี่สาวคนเดียวของกู!”
“แต่ลุงอินก็เป็นคนดี แล้วก็รักพี่สาวมึงมาตั้งแต่เด็กๆ”
“ไอ้พัต! วีนัสตอนอายุสิบเก้ากับวีนัสตอนสามขวบ...มันเหมือนกันเหรอ? แม่งจะมีผู้ชายคนไหนบ้างไหมที่ไม่คิดเรื่องนั้นในสมองกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลานแท้ๆ”
“นี่มึงคิดจะขัดขวางเหรอ?” พัตเตอร์ขมวดคิ้วมองสายฟ้า
“...”
“จากที่กูดู แต่ไหนแต่ไรวีเข้าหาลุงอินก่อนตลอด แล้วภาพเมื่อกี้...กูรู้ว่ามึงก็เห็นว่าวีทำเอง จูบเขาเอง โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย หรือเพราะเป็นลุงอิน มึงเลยไม่ชอบใจ?” พัตเตอร์พยายามพูดให้สายฟ้าคิด
“ไม่ใช่เพราะเป็นลุงอิน แต่เป็นใครก็ไม่ได้ วี...ยังไม่ถึงเวลามีความรัก”
“เชี่ย! มึงหัวโบราณเหรอวะ?! หรือที่จริงก็แค่หวงพี่สาว?”
“ถามเหมือนมึงไม่หวงนุ่มนิ่มอ่ะ?” สายฟ้าเลิกคิ้วมองพัตเตอร์
“ก็หวง แต่สุดท้ายกูจะยอมรับการตัดสินใจของน้องกู ไม่ว่าเขารักใคร...ก็ยอมรับได้”
“จำคำพูดมึงไว้ด้วยล่ะ เข้าข้างในกัน...ป่านนี้เมโกะเมายับแล้วมั๊ง” ว่าแล้วสายฟ้าก็เดินนำพัตเตอร์เข้าไปในคลับฟาโรห์
?????
“กลับคอนโดคุณลุงนะคะ คืนนี้หนูอยากอยู่กับคุณลุงทั้งคืนเลย” ฉันส่งเสียงออดอ้อน ขณะที่กำลังนั่งอยู่บนรถของคุณลุง
“ไม่ได้ หนูจะค้างกับลุงได้ยังไงวีนัส?” แล้วก็ตามเคย คุณลุงปฏิเสธฉันเสมอ
“ทำไมจะไม่ได้คะ? เมื่อก่อนหนูยังไปนอนค้างที่คอนโดของคุณลุงตั้งบ่อยๆ” ฉันนิ่วหน้ามองคุณลุงอินทรีย์ที่เวลานี้เขาดูเครียดยังไงก็ไม่รู้
“เพราะหนูโตแล้วไง เพราะหนูเป็นผู้หญิงและลุงก็เป็นผู้ชาย เราไม่ควรอยู่ด้วยกันสองต่อสอง...” คำตอบของคุณลุงทำให้ฉันอดจะยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ
“คุณลุงมองว่าหนูเป็นผู้หญิงเหรอคะ?”
“หนูเมาเหรอวีนัส? ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง” คุณลุงอินทรีย์ทำเปลี่ยนเรื่อง
“พ่อแม่ไปเที่ยวอิตาลีกับเพื่อนๆ สายฟ้าก็กลับดึก บางคืนก็ไม่กลับ หนูไม่อยากนอนคนเดียวค่ะ ถ้าไปที่คอนโดของคุณลุงไม่ได้ งั้นคุณลุงมาค้างที่คอนโดหนูได้ไหมคะ?” ฉันส่งเสียงออดอ้อนอีกครั้ง
“วีนัส”
“หรือคุณลุงมีใครซ่อนอยู่ที่คะ? คุณลุงมีแฟนใช่ไหม? รักคนอื่นมากกว่าหนูแล้วเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่แบบนั้นเลย”
“งั้นคืนนี้ค้างด้วยกันนะ แล้วหนูสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังคุณลุงทุกอย่างเลย”
“...” คุณลุงนิ่งเงียบ
“กว่าเราจะได้เจอกัน...คุณลุงรู้ไหมคะว่าหนูต้องทนคิดถึงคุณลุงยังไง ถ้าคุณลุงคิดถึงใครสักคนจริงๆ คุณลุงจะรู้ว่ามัน...”
“โอเคค่ะ โอเควีนัส...เราจะไปค้างที่คอนโดของคุณลุงกัน ตกลงไหมคะ?”
“ค่ะ ตกลง”
สเต็ปแรกคืออ้อน อ้อนไปเรื่อยๆ สเต็ปที่สองคือตั้งคำถาม สเต็ปที่สามคือตัดพ้อ โอดครวญว่าความคิดถึงและการรอคอยมันเป็นน่าเศร้าแค่ไหน ฉันใช้สามสเต็ปนี้กับคุณลุงมาตลอด และฉันก็รู้ดีว่าคุณลุงจะยอมฉันเสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ต่อให้คุณลุงจะมองว่าฉันเป็นเด็กดื้อเอาแต่ใจตัวเองก็ช่าง ฉันยอม...ยอมให้ใครก็ตามมองว่าฉันงี่เง่า เพราะถ้ามันแลกกับการที่ฉันจะได้อยู่ใกล้ๆคุณลุง...มันคุ้มค่ามากที่สุดแล้ว
