ขอแค่ได้รัก - 5
'เฮียราชย์ทำอะไรอยู่คะ' ฉันที่เพิ่งกลับจากเดินห้างกับเพื่อนเลยแวะเอาของฝากมาให้แม่เขาถามขึ้นตอนที่เดินสวนเขาที่กำลังดูยุ่ง ๆ อยู่
'หากุญแจรถ' เขาตอบก่อนจะมองซ้ายแลขวา ก้มหาสิ่งที่ว่า
'อ้ะ นั่นอะไรคะ' สายตาเหลือบไปเห็นของบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะ มีผ้าสีชมพูคลุมทับอีกที
'ของขวัญน่ะ' ตอนที่ได้ยินครั้งแรกหัวใจฉันเต้นตึกตัก เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของฉันพอดี
'ของขวัญ ของใครคะ" ถามออกไปพร้อมหัวใจที่ลุ้นตาม
ขาก้าวไปข้างหน้า ยืนมองของที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมผืนสวย
'คนพิเศษ' เพียงแค่คำนี้หัวใจฉันก็สั่นระรัว
'วันพิเศษด้วยไหมคะ' ลุ้นคำตอบตัวโก่ง
'อืม อ้าว อยู่นี่เอง' เหมือนเขาจะตอบว่าใช่แล้วก็เจอของที่หา
'เจ้าจันทร์ขอเปิดดูได้ไหมคะ'
ถ้าเป็นของขวัญให้ฉันเฮียราชย์จะต้องไม่ยอมให้ดูแน่ ๆ เพราะคืนนี้มีฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบแปดปีให้ฉัน เขาจะต้องเก็บไว้เซอร์ไพรส์ฉันแน่ ๆ
'ว่าจะให้ช่วยดูให้พอดีว่าสวยไหม' จากที่ตื่นเต้นตอนนี้หัวใจฉันกลับวูบโหวงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
คนตัวโตหันมาสบตาก่อนเอ่ยเสียงราบเรียบ
'ช่วยดูหน่อยสิว่ามันสวยพอจะให้เป็นของขวัญออกเดตครั้งแรกหรือเปล่า'
ปากฉันสั่น มือฉันก็ด้วย ตามมาติด ๆ คือสั่นเทาทั้งร่างกายเมื่อได้ยินเฉลยเกี่ยวกับเจ้าของของขวัญชิ้นนี้
แต่ด้วยความที่ถูกอีกคนยืนจ้องอยู่ มือที่สั่นอยู่แล้วเลยเอื้อมไปดึงผ้าสีชมพูผืนนั้นออกช้า ๆ
ปรากฏเป็นรูปปั้นนางฟ้าที่ถูกช่างฝีมือดีปั้นออกมาอย่างประณีต รูปปั้นนี้เหมือนเทพธิดาที่มีชีวิต ปีกสีขาวสยายแผ่กางออกอย่างสวยงาม
อาจจะด้วยความที่ฉันตะลึงในความงามของมันเลยลืมตัวเผลออุ้มรูปปั้นขนาดเกือบยี่สิบนิ้วขึ้นมาถือไว้
'ระวัง!!'
เสียงเตือนดังขึ้นจนฉันตกใจ มือไม้ที่อ่อนแรงอยู่แล้วตั้งแต่รู้ว่าของชิ้นนี้ไม่ใช่ของขวัญวันเกิดฉันจึงหล่นสู่พื้นอย่างไม่ตั้งใจ
"ไปได้แล้ว"
เสียงข่มต่ำดังขึ้นพร้อมแรงกระชากจานใส่เค้กไปจากมือทำให้ฉันได้สติกลับมายังปัจจุบัน
"ออกไปอยู่ในสังคมของเธอ" เขาเน้นย้ำเป็นหนที่สอง
ด้วยความที่ฉันชอบเอาชนะและเอาแต่ใจแถมปากไวเลยเอ่ยขึ้น
"ที่เฮียราชย์เกลียดเจ้าจันทร์เพราะแค่เรื่องรูปปั้นนั่นจริง ๆ เหรอคะ?" สิ่งที่อยากรู้มาเกือบสิบปีแต่ไม่เคยได้คำตอบ วันนี้ลองเสี่ยงถามมันอีกครั้งจากคนตรงหน้า
"ถ้าเป็นเธอ"
"..."
"เธอจะรู้สึกยังไงหากมีใครมาทำลายของรักของหวง"
อึก!! โง่จริงจันทรารัตน์ โยนเบ็ดหวังให้เขาติดกับแต่ตัวเองดันถูกตอกกลับมาเจ็บปวดซะเอง
"แต่ทำไมเจ้าจันทร์รู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องนั้น" สิ่งที่ฉันทำพังมันสำคัญก็จริงอยู่ แต่เขาก็สามารถหาของขวัญชิ้นอื่นมอบให้ผู้หญิงคนนั้นของเขาแทนได้อยู่แล้ว
"ไม่มีเรื่องอื่น"
"มีสิคะ เพราะว่าเจ้าจันทร์บอกว่าชอบเฮียแล้วผู้หญิงคนนั้นมาได้ยินใช่ไหมล่ะ?" ฉันขึ้นเสียงใส่เขา
คนตรงหน้าค่อย ๆ หันกลับมาเผชิญหน้ากับฉันช้า ๆ แววตาดุดันจ้องมาที่ฉัน เขาเดินเข้ามาหาก่อนจะยัดเค้กจานนั้นกลับคืนมา
"เอาไปเก็บ ฉันไม่ชอบของหวาน"
เขาไม่ตอบคำถามฉัน เขาทำเมินเฉยใส่ฉัน เขาทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีต่อใจมาก ๆ
"ทำไมไม่คิดว่าเรื่องที่เจ้าจันทร์สารภาพรักกับเฮียเป็นการวัดใจผู้หญิงของเฮียกันล่ะ" ได้แต่ก่นถามตัวเองคนเดียว เมื่อพื้นที่ตรงนี้ไร้เงาของอีกคนอยู่ฟัง
'เจ้าจันทร์รักเฮียราชย์'
คืนพระจันทร์เต็มดวง ส่องแสงนวลอบอวนทั่วท้องฟ้าในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อนยังตราตรึงในหัวใจฉัน
'แต่ฉันมีแฟนแล้ว เรากำลังคบกันและรักกันมาก'
ประโยคปฏิเสธนิ่ง ๆ นั้นทำให้ฉันเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ
หมับ...ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันเข้าไปสวมกอดเขาเอาไว้ด้วยน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาราวเขื่อนแตก
'เป็นเจ้าจันทร์ ฮึก เป็นเจ้าจันทร์ไม่ได้เหรอคะ'
ฉันร้องไห้เหมือนเด็กที่ถูกขัดใจไม่ให้ซื้อของเล่นที่ชอบ
'เจ้าจันทร์เป็นน้องสาวของเฮียดีที่สุดแล้ว'
คำปฏิเสธที่แสนละมุนแต่หัวใจคนฟังอย่างฉันกลับแตกสลาย
เหตุการณ์ในคืนนั้นไม่มีใครรู้ว่ามีอีกคนเข้ามาเห็นพอดีและเข้าใจผิดและเกิดเป็นเหตุผลให้เฮียราชย์เปลี่ยนไปจากเดิม เวลาเจอกันเขาจะมองฉันด้วยสายตาขวาง ๆ เหมือนไม่อยากเจอ
จวบจนฉันมารู้ในวันที่ตัดสินใจจะมาเรียนต่อเมืองนอกว่าพวกเขาสองคนเลิกกันหลังจากวันที่ฉันสารภาพรักเขาเพียงแค่สองสัปดาห์ต่อมา