ตอนที่4 ปฐมบทแห่งตํานาน
กล่องพัสดุใบใหญ่สีดำสนิทวางอยู่หน้าประตูห้องพักของเขา ชายวัยกลางคนในชุดพนักงานส่งของยืนอยู่หน้าประตูห้องในมือของชายคนดังกล่าวถือบางสิ่งอยู่ กระจก สี่เหลี่ยม ซึ่งมันคือแท็บเล็ตในยุคปัจจุบัน
ธันวา เปิดประตูรับกล่องพัสดุจากพนักงานส่งของ ด้วยรอยยิ้ม
ก่อนที่ชายผู้ซึ่งเป็นพนักงานส่งของจะกล่าวอย่างเป็นมิตรว่า
"รบกวนเซ็นชื่อลงในช่องนี้ด้วยครับ"
ธันวาพยักหน้าก่อนจะรับเเท็บเล็ต มาจากพนักงานก่อนที่เขาจะวาดเส้นเขียนชื่อของตนลงไปในช่องดังกล่าวพร้อมกับส่งมันคืนไปให้กับเขา ก่อนจะกล่าวออกมาว่า "ขอบคุณ"
พนักงานหันมายิ้มให้กับเขาพลางรับเเท็บเล็ตจากมืออของธันวาเเล้วเดินจากไป
ภายในห้องพัก ธันวายืนมองเครื่องเกมเครวินรูปทรงคล้ายหมวกที่มีสายหลอดแก้วเชื่อนต่อกับถังพลังงานสารอาหาร
อารมณ์ต่างๆผสมปนเปกันจนยากอธิบายออกมาเป็นคำพูด ก่อนเขาจะถอนหายใจออกมา พลางกล่าวกับตัวเองด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย "ธันวา อนาคตเป็นของนาย นายเลือกจะเดินในเส้นทางที่เเตกต่างตัวนายจะไม่อาจย้อนกลับหลังได้อีกต่อไป "
สายลมพัดเข้ามา กระทบใบหน้าของชายหนุ่มเเสงอาทิตย์ สาดส่องลงจากท้องฟ้า ภายใต้ตึกสูงนับไม่ถ้วน เมื่อมองออกไปจากหน้าต่าง บริเวณชั้นสองของห้องพักอาศัย มันจะไม่มีสิ่งใดเหมือนในครั้งอดีตอีกต่อไป สิ่งสำคัญมากที่สุดคือ butterfly effect มันจะเกิดขึ้นอย่างเเน่นอน ในเส้นทางที่เขาเดินนั้น มันไม่มีอะไรเเน่นอน เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเเปลงมัน ซึ่งผลกระทบของเส้นเวลาจะไม่เหมือนเดิมในอดีตที่ผ่านมา หลายเหตุการณ์ในอดีตจะไม่มีทางเกิดขึ้นมา ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นตัวเขาเเละลอเอลเป็นศูนย์กลาง ของเรื่องทั้งหมดในอดีต ดราดอนกิลนี้จะเป็นเช่นไรเขาไม่อาจรู้ได้จนกว่าเวลาเหล่านั้นจะมาถึง
รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของธันวา เขาสลัดความโกรธแค้นไปทั้งหมดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งความรู้สึกของการได้เกิดใหม่และได้ทำในสิ่งที่แตกต่างจากเดิมมันอาจจะดีกว่าครั้งในอดีตที่ผ่านมาเขาไม่ต้องมาสนใจใครทั้งนั้นที่จะจูงจมูกของตัวเขาอีกต่อไปบุคคลเหล่านั้นบริษัทเทเลน ซึ่งเคยมีอิทธิพลต่อชีวิตของเขาในอดีตบัดนี้มันไม่มีอีกต่อไปแล้วฉันเป็นนายชีวิตของตัวฉันเองฉันไม่ต้องการให้ใครมามีอำนาจกุมชะตาชีวิตของฉันอีกต่อไปนั่นคือปณิธานอันแรงกล้าของชายหนุ่ม
เวลาไหลย้อนกลับทุกอย่างทุกสิ่งที่เขาเคยทำมาอย่างครั้งในอดีตจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด
เสียงกระดิ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนถึงผู้มาเยือนซึ่งมันก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขของเขาลอเอลชายผู้ติดตามเขาไปในทุกที่ไม่ว่ามันจะเป็นนรกหรือสวรรค์บุคคลคนนี้จะยืนเคียงข้างเขาต่อสู้ไปพร้อมกับเขาเผชิญชะตากรรมชีวิตที่ไม่อาจกำหนดได้ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นเขาจะยืนหยัดขึ้นต่อสู้และยืนอย่างมั่นคงเพื่อสิ่งที่ดีกว่าในอนาคตไปพร้อมกับชายผู้ที่เป็นซึ่งเหมือนกับเพื่อนและน้องชายในคนคนเดียวกัน
หลังจากที่เขาเปิดประตูพร้อมกันนั้นปรากฏใบหน้าของเด็กหนุ่มอันคุ้นเคย
"ลูกพี่ ไหนเครื่องเกมของผมกัน?" ลอเอลกล่าวอย่างตื่นเต้น
ธันวาส่ายหัวก่อนจะพูดว่า
"ใจเย็นไอ้น้องชายนายจะได้รับมันอย่างเเน่นอนก่อนอื่นเข้ามาก่อนสิเรามีเรื่องหลายอย่างที่ต้องพูดคุยกันก่อนที่นายจะได้รับมันไป"
ลอเอล ขมวดคิ้วก่อนจะก้าวเดินเข้าไปภายในห้องของธันวา อย่างไรก็ตามเขากลับรู้สึกว่า ธันวาเปลี่ยนไปมาก เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวของลูกพี่ตนกันเเน่
รอยยิ้มสีหน้าเเละน้ำเสียงที่เเสดงออกมาถึงความมั่นใจของธันวา ทำให้ลอเอลรู้สึกว่าเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับCEO บริษัทขนาดยัก
ธันวายื่นหนังสือสัญญาฉบับหนึ่งให้กับลอเอลก่อนจะกล่าวกับเขา
"เอาล่ะลอเอลอ่านเจ้านี่เเล้วเซ็นมันลงไปซะมันคือสิ่งที่นายควรจะได้รับในเมื่อนายตัดสินใจเลือกที่จะติดตามฉัน"
ลอเอลหยิบหนังสือสัญญาจากมือของธันวาก่อนที่เขาจะอ่านมันในเวลาต่อมา เขาอ้าปากค้างเมื่ออ่านมันจบลงหลายต่อหลายครั้งด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อในตัวของธันวา สัญญาฉบับนี้มันเหมือนกับความฝันผลประโยชน์มหาศาลจากเวิอร์ชอปที่มอบให้ตัวเขามันน่าอัศจรรย์เกินกว่าเวิอร์ชอปใดจะมอบให้กับตัวเขาได้ รายได้และสวัสดิการที่ได้รับจากธันวา มันเกินกว่านักศึกษาจบใหม่ควรจะได้รับถึงสามเท่าตัว
ลอเอลกล่าวถามอย่างตื่นเต้น
"ลูกพี่จะให้เงินเดือนฉันสามพันเครดิตจริงๆเหรอ?"
ธันวาเผยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะพยักหน้าเเล้วกล่าวว่า
"เเน่นอนนั้นคือส่วนของยอดภูเขาน้ำเเข็งเมื่อเวลาผ่านไปนายจะได้รับมันเพิ่มเติมอีกหลายเเสนเครดิตต่อเดือน เเละเมื่อเช้านี้ฉันได้โอนเครดิตให้ตัวนายเเล้วในบันชีของนายหนึ่งพันห้าร้อยเครดิต"
ลอเอลตกตะลึงในคำตอบที่เขาได้รับจากธันวาก่อนที่เขาจะรีบหยิบมือถือของตนขึ้นมาตรวจเช็ตยอดเงินในบันชี ซึ่งมันปรากฏยอดเครดิตในบันชีของเขาเพิ่มขึ้นมา1500เครดิตดั่งคำกล่าวอ้างของธันวา
ลอเอล เริ่มมีน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาของเขาก่อนจะกล่าวขอบคุณซ้ำเเล้วซ้ำเล่าเเต่เขาก็มีคำถามที่สงสัยมันเเละอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
"ลูกพี่ไปปล้นธนาคารมาหรือยังไงกันถึงได้มีเงินมากมายขนาดนี้"
ธันวามองหน้าของลอเอลที่มีน้ำตาไหลรินสองข้างเเก้มพลางหัวเราะในคำถามของน้องชายตน อย่างไรก็ตามเขาก็ตอบคำถามเเต่โดยดีปราศจากการปิดบังใดๆ
"ฉันมีเงินเก็บอยู่นิดหน่อย มากกว่าสามเเสนเครดิต เเละมีบางส่วนที่ฉันไม่อยากจะพูดถึง"
ลอเอลตกใจกับคำพูดของธันวา สามเเสนเครดิต มันมากเกินกว่าเงินเดือนของCEOบริษัทขนาดใหญ่เสียอีก
"พี่มีเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน?"
ลอเอลถามออกมาด้วยความตกตะลึงอารมณ์อันหลากหลายถูกฉายผ่านดวงตาของเขา
"มันเป็นเงินประกันจากการเสียชีวิตของพ่อเเม่ฉันนายไม่ต้องคิดมากหรอกกับเรื่องเงินปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเองไม่ต้องกังวลไปหรอก"
"ว่าเเต่ ลูกพี่ ในสัญญาของเวิอร์ชอปเรามันไม่มีชื่อของเวิอร์ชอประบุไว้นี่นา"
ธันวาหัวเราะลั่นก่อนจะกล่าวว่า
"ฉันลืมมันไปเสียสนิท "
ก่อนที่เขาจะเดินไปที่หน้าต่างของห้องพัก พลางคิดใคร่ครวญถึงชื่อของเวิอร์ชอปที่ตนกำลังจะสร้างขึ้นมา สายลมอุ่นๆกระทบกับใบหน้าของชายหนุ่มก่อนที่เขาจะมองออกไปนอกหน้าต่างยังท้องฟ้าสีคราม หมู่เมฆร่องรอยไปตามกระเเสอากาศ
ลอเอลมองดูธันวา เหม่อลอยอย่างไร้จุดหมายที่หน้าต่างของห้องพัก ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้ายที่มุมปากของเขา
" สุดเส้นขอบฟ้า ฉันจะให้ชื่อมันว่าสุดเส้นขอบฟ้า "
ลอเอลพลันเผยรอยยิ้มออกมา เพราะตัวเขาเองก็ชอบมันเช่นกัน
"สุดเส้นขอบฟ้า สุดเส้นขอบฟ้า ฟังดูมีพลังมากเลยลูกพี่"
ก่อนที่ลอเอลจะยกนิ้วให้กับธันวา