บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

ในช่วงตอนเย็นเป็นเวลาเลิกงานดังนั้นเลโอนาร์ดจึงเก็บของแล้วเดินออกจากร้านอาหารทางประตูหลัง ปล่อยให้คนอื่นที่มีเวรประจำมาทำหน้าที่แทน หลังพระอาทิตย์ตกดิน ผู้คนส่วนใหญ่ก็กลับเข้าที่พักอาศัย ตัวเขาเองก็เช่นกัน ที่พักของเขาเป็นห้องเช่าเล็ก ๆ ราคาถูกและอยู่ที่ท้ายเมือง ทว่าจังหวะที่เดินผ่านร้านขายเครื่องประดับ ชายหนุ่มก็หยุดชะงักก่อนจะวิ่งถอยหลังมาเมื่อรู้สึกว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าร้านหน้าตาคุ้น ๆ

“เอราเคีย?”

“เจ้าเองเหรอ” หญิงสาวที่สวมฮู้ดหันหน้ามาตามเสียง เลโอนาร์ดจึงตรงเข้ามาคุยด้วย

“ทำไมมาอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะครับ แล้วคนที่มาด้วย…”

“เจ้าไม่ต้องพูดสุภาพกับข้าก็ได้ คุยกันธรรมดาเถอะ”

“เอ่อ...ก็ได้ แล้วผู้หญิงที่มากับเจ้าไปไหนซะล่ะ ทำไมยืนอยู่นี่คนเดียว” ทว่าเอราเคียไม่ตอบแต่มองเข้าไปในร้าน เขาจึงมองตามแล้วก็เห็นโรซาเลียกำลังเลือกเครื่องประดับอยู่

“นางอยากได้ของไปฝากพี่สาว”

“เลือกถูกร้านแล้วล่ะ ที่นี่เป็นร้านขายเครื่องประดับอันดับหนึ่งของเมืองเลย ว่าแต่เจ้าไม่อยากได้บ้างเหรอ”

“ไม่ล่ะ” เจ้าของเสียงหวานกล่าวสั้น ๆ ท่าทางไม่ทุกข์ร้อนนั้นทำให้เลโอนาร์ดทำอะไรไม่ถูก เธอดูเฉยเมยมาก ในขณะที่เขาแทบจะเก็บอาการมือไม้สั่นแทบไม่ได้

“พวกเจ้าจะกลับแล้วเหรอ”

“อยากรู้บ้านข้าหรือไง” หญิงสาวสวนกลับอย่างรู้ทันทำให้ชายหนุ่มเก็บคำพูดที่ยังไม่ได้พูดลงคอไป “ข้ากับนางไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก แต่พรุ่งนี้จะมาอีกครั้ง อาจจะซื้อของติดไม้ติดมือด้วย ถ้าเจ้ามีข่าวอะไรมาบอกเกี่ยวกับวิหารศักดิ์สิทธิ์หรือผู้กล้าก็รีบบอกเลยนะ อย่างที่นางพูดเมื่อตอนเที่ยง ตอนเข้าเมืองหลวง พวกข้าจะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง”

“พรุ่งนี้ข้าจะไปทำความสะอาดที่โบสถ์ประจำเมือง ถ้าเจ้ามีอะไรอยากถามก็แวะมาได้” เลโอนาร์ดถึงกับหลุดยิ้มด้วยความดีใจ ไม่รู้ทำไมพอได้ยินว่าเธอจะมาอีก เขาถึงตื่นเต้นนัก

“ท่านป้า ข้าซื้อของเสร็จแล้วค่ะ”

“ป้า?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินโรซาเลียเรียกเอราเคียว่าอะไร

“นางเป็นหลานสาวข้าเอง ข้าไปก่อนนะ” ปีศาจสาวในคราบมนุษย์ส่งยิ้มหวานก่อนจะจูงมือโรซาเลียเดินจากไป ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นไปนานเลยทีเดียว จนกระทั่งมีสุนัขตัวหนึ่งมาเห่าไล่เขาถึงได้สติแล้วมองตามหลังสองสาวไป

“นั่นป้าเหรอ สวยเกินไปแล้ว”

“บังเอิญไปหรือเปล่าคะ เพียงแค่วันเดียวก็เจอหน้าเขาตั้งสามครั้ง” หลังจากเดินออกมานอกเมืองได้ครู่ใหญ่ อดีตผู้กล้าจึงชวนจอมมารสาวคุยเล่นเพื่อไม่ให้บรรยากาศรอบตัวเงียบจนเกินไป

“เมืองนี้ออกจะเล็ก เจอหน้ากันบ่อยก็ไม่แปลกหรอก” จากนั้นเอราเคียก็เปลี่ยนเรื่องคุยมาเป็นเรื่องเครื่องประดับแทน “แล้วนี่ซื้ออะไรมาล่ะ”

“วันก่อนข้าเห็นท่านพี่ราโมน่าแย่งกำไลของท่านพี่เรเนสซ่าไปใส่ ข้าก็เลยอยากซื้อกำไลใหม่ไปให้น่ะค่ะ” โรซาเลียหยิบกำไลที่ทำจากแก้วขึ้นมาดู เมื่อสะท้อนกับแสงจันทร์แล้ว ทำให้เครื่องประดับชิ้นนี้ดูแวววาวมากขึ้นไปอีก

พลันเสียงฝีเท้าหลายคู่ก็ดังแว่วมาจากทุกทิศทาง สาวผมแดงจึงใช้เวทเก็บเครื่องประดับก่อนที่มือจะอยู่ในท่าเตรียมพร้อมชักดาบออกจากฝักเมื่อเห็นว่าป่ารอบตัวปรากฏร่างของโจรสวมหมวกไอ้โม่ง เอราเคียหรี่ตามองเล็กน้อยขณะกวาดสายตาไปรอบ ๆ ท่าทางเจ้าพวกนี้จะตามเธอกับหลานสาวมาตั้งแต่ออกจากเมืองแล้ว

“ถ้าไม่อยากตายก็ส่งของมีค่ามาให้หมด!”

“ข้าว่าไม่ดีนะพี่ พวกนางสวยขนาดนี้ จับไปทำเมียน่าจะดีกว่า”

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”

'หน้าตาอย่างกับปลาดุกชนเขื่อน ใครจะไปอยากเป็นเมียยะ!' โรซาเลียสบถในใจขณะชักดาบออกจากฝักได้นิดหน่อย ทว่าเอราเคียกลับยกมือห้ามเธอก่อนจะดึงฮู้ดคลุมศีรษะออกแล้วเขาคล้ายแพะก็ปรากฏบนศีรษะ และนัยน์ตาสีแดงโกเมนนั้นก็วาวโรจน์

“พวกมนุษย์ชั้นต่ำนี่น่ารำคาญจริง ๆ” เอราเคียเอ่ยเสียงเย็นก่อนที่โจรทุกคนจะเบิกตากว้าง พลันร่างทุกร่างก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนอากาศคล้ายถูกบีบคอแล้วจับหิ้วขึ้นไป “เจ้าบอกว่าพวกข้าสวยสินะ ถ้าอย่างนั้นข้าจะขอลูกตาพวกเจ้าไปเป็นการตอบแทนละกัน”

พริบตานั้นก็มีพลังบางอย่างที่มองไม่เห็นควักลูกตาของโจรทุกคนก่อนที่วัตถุทรงกลมเปื้อนเลือดจะลอยมาอยู่เหนือฝ่ามือของจอมมารสาว เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วอาณาบริเวณแต่เอราเคียไม่สนใจ เธอมองลูกตาเหล่านั้นเหมือนเด็กน้อยได้ของเล่นชิ้นใหม่ก่อนจะเดินนำหน้าหลานสาวไป ส่วนโรซาเลียก็แอบไว้อาลัยให้พวกโจรเงียบ ๆ ทันทีที่สองสาวจากไป ทุกคนจึงตกลงมากระแทกพื้นคอหักตายยกกลุ่ม

แล้วทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง!

กริฟฟินตัวใหญ่ที่ไปตามเสียงเรียกของจอมมาร ตอนนี้มันพาผู้เป็นนายกับหลานสาวถึงสนามหญ้าข้างตัวปราสาทแล้ว โรซาเลียกระโดดลงมายืนบนพื้นพลางยืดเส้นยืดสายก่อนจะหันหลังไปเห็นเอราเคียลูบหัวสัตว์อสูรเบา ๆ แล้วปล่อยให้มันเดินกลับไปหาผู้คุมที่จะพามันกลับไปที่คอกอีกที

“วันพรุ่งนี้เวลาเดิม เจ้ามาหาข้าที่นี่ เราจะไปแมนไคน์กันอีกรอบ” เอราเคียนัดแนะเวลากับหลานสาวให้เรียบร้อย “ให้ข้าใช้คนพาเจ้าไปส่งบ้านไหม หรือจะนอนค้างที่ปราสาทดี”

“ข้ากลับบ้านดีกว่าค่ะ อยากเอากำไลไปฝากท่านพี่เรเนสซ่าแล้ว”

“งั้นกลับบ้านดี ๆ นะ” จอมมารส่งยิ้มให้หญิงสาวก่อนจะเดินจากไปโดยมีข้ารับใช้มารอรับ ส่วนเธอก็ควรจะรีบกลับบ้านไปหาพี่สาวคนรองได้สักที ป่านนี้คงชะเง้อคอมองหาอยู่หน้าคฤหาสน์แล้ว

จังหวะที่โรซาเลียกำลังจะวิ่งออกจากพื้นที่สนามหญ้า พลันลมวูบหนึ่งก็พัดมาก่อนทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวจะเปลี่ยนไป อาการปวดหัวกลับมาอีกแล้วแม้จะไม่มากนักแต่นั่นก็เป็นสัญญาณบอกให้เธอรู้ว่าเศษเสี้ยวความทรงจำเริ่มปรากฏให้เธอเห็นอีกครั้ง ตอนนี้หญิงสาวยืนอยู่บนสนามหญ้าในเวลากลางวัน มีปีศาจเดินสวนไปสวนมา รวมทั้งจอมมารลำดับที่สิบหกซึ่งเพิ่งเดินผ่านเธอไปด้วย จังหวะนั้นก็มีเสียงระเบิดตูมใหญ่ดังขึ้นก่อนที่กำแพงรอบปราสาทจะพังทลาย ปีศาจหลายตนวิ่งหนีตายอย่างตื่นตระหนก แล้วหญิงสาวผมยาวสีแดงสวมชุดผู้กล้าก็กระโจนขึ้นมาบนซากปรักหักพังตามด้วยตะโกนขึ้นว่า

“ไนเจลลัส!!!” โรซาเลียในสมัยเป็นผู้กล้าเรียกชื่อผู้ปกครองซาตาน่าก่อนที่ทุกสายตาจะหันไปมองเจ้าของชื่ออย่างพร้อมเพรียง “ข้าเหงา ข้าเบื่อ ข้าเลยบุกมาหาเจ้า!”

“...”

“มาเล่น (?) กันเถอะ!”

'นั่นตัวข้าเหรอ' หญิงสาวไม่นึกว่าตัวเองจะทำบ้าบอขนาดนี้ แต่พอนึกดูดี ๆ เธอจึงนึกออกว่าเคยทำตัวแบบนี้จริง ๆ ยิ่งเทรเวน่าบอกว่าความทรงจำของเธอมีปัญหา แต่ช่วงนี้กำลังฟื้นคืนกลับมาก็ยิ่งเป็นการยืนยันว่าเธอรู้จักกับไนเจลลัสมาก่อน พอหันกลับไปมองจอมมาร เธอก็ได้ยินเขาสบถออกมาว่า

“...เชี่ย!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel