บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

ผู้กล้ามีหน้าที่หลักคือปราบจอมมารรวมทั้งเป็นผู้นำในการปกป้องมนุษย์จากเหล่าปีศาจ ขณะเดียวกันการเป็นผู้กล้าก็มีกฎต้องห้าม โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีข้อห้ามเยอะกว่าผู้ชาย ไม่ว่าจะได้รับการฝึกฝนที่หนักกว่า จะคบใครเป็นเพื่อนต้องมีคนที่ไว้ใจได้รู้เห็น ต้องเป็นพรหมจรรย์จนกว่าจะทำหน้าที่สำเร็จ ยิ่งกว่านั้นห้ามมีสัมพันธ์กับปีศาจเพราะจะถือว่าแปดเปื้อนความมืดแล้วใช้พลังไม่ได้แถมยังโดนอำนาจศักดิ์สิทธิ์ในร่างกัดกินร่างกาย จิตใจ และความทรงจำ

โรซาเลียไม่ค่อยมีเพื่อนนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนรู้จัก ทว่าสิ่งที่ความทรงจำแสดงให้เห็นนั้นคือสิ่งที่เธอไม่นึกว่าตัวเองจะทำแต่ก็เพราะนึกออกว่าตัวเองทำจริง ๆ เธอจึงไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีอย่างเช่นตอนนี้ ที่เห็นตัวเองในสมัยเป็นผู้กล้ากำลังตะโกนให้ชาวบ้านเขารับรู้ว่าเหงาจึงบุกมาเล่น (?) กับจอมมารถึงปราสาท

“ใครก็ได้เอายัยผู้กล้านี่ไปเก็บที!!!” ไนเจลลัสซึ่งหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคายอดหอคอยปราสาทถึงกับตะโกนลั่นเลยทีเดียว

“นี่! แค่ข้าแวะมาหาเฉย ๆ นะ เป็นผู้ชายซะเปล่า ทำไมต้องไล่ผู้หญิงออกจากบ้านด้วย!” โรซาเลียโวยวายขณะปีนตามขึ้นมา “แค่จะชวนไปเล่นข้างนอก (?) เท่านั้นเอง เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ค่อยมีเพื่อน”

“แล้วเป็นบ้าอะไรถึงบุกมาหาข้าบ่อย ๆ งานการไม่มีทำหรือไง ข้าต้องเสียค่าซ่อมกำแพงไปเท่าไหร่แล้ว เจ้ารู้บ้างไหม!”

“ก็ข้าเหงานี่!”

“...”

“อีกอย่างเกิดน้ำท่วมทางภาคใต้ของแมนไคน์ ข้าก็เลยได้เป็นตัวแทนจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ไปช่วยดูแลประชาชนที่นั่นพร้อมพวกทหาร สามวันมานี้ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลย!”

“...”

'ข้าเคยขอข้าวจากจอมมารด้วยเหรอ' โรซาเลียในปัจจุบันถึงกับหน้าเหวอหลังจากเห็นตัวเองทำท่าโวยวายด้วยความหิว ยิ่งเสียงท้องร้องดังกลบเสียงลมที่พัดบนที่สูงก็ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าเธอหิวมาก ขืนปล่อยไว้เธอคงได้แทะหลังคาปราสาทเป็นอาหารแน่

พลันภาพรอบกายก็เปลี่ยนไป จากตอนแรกเป็นบริเวณยอดปราสาท ตอนนี้หญิงสาวมายืนอยู่ในห้องอาหารที่ตัวเองในช่วงเวลานั้นกำลังยัดเสบียงลงกระเพาะเหมือนคนอดอยาก ไนเจลลัสที่นั่งมองอยู่ก็ทำหน้าเหมือนคนเห็นตัวประหลาด

“สตูเนื้อวัวอร่อยมาก ได้กินแล้วชื่นใจ”

“ข้านึกได้ว่าเจ้าชอบกินเลยเอามาให้ ถ้ากินอิ่มแล้วก็กลับแมนไคน์ไปซะ แค่เจ้านั่งเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ ปีศาจใต้อาณัติข้าก็อยู่ไม่สุขแล้ว”

“ทำไมจะต้องขับไล่ไสส่งกันด้วย แค่มาขอข้าวกินมื้อเดียวเอง” โรซาเลียทำหน้าบูดพลางใช้ช้อนตักเนื้อวัวเข้าปาก “อีกอย่าง วันนี้เป็นวันเกิดข้าด้วย ตอนนี้ข้าอายุยี่สิบเอ็ดแล้วนะ ไม่คิดจะแนะนำให้ข้าไปฉลองที่ไหนบ้างเหรอ”

“วันเกิดเจ้า?”

“ข้าลืมไป ข้าไม่เคยบอกเจ้านี่ แต่ช่างเถอะ ตั้งแต่มาเป็นผู้กล้า ข้าก็ไม่เคยได้ฉลองเหมือนคนอื่นอยู่แล้ว” โรซาเลียทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไนเจลลัสสังเกตเห็นว่านัยน์ตาสีเขียวคู่นั้นฉายแววเศร้าหมองแวบหนึ่ง

“สุขสันต์วันเกิด” ประโยคที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากจอมมาร ทำให้มือที่กำลังตักอาหารถึงกับชะงักทันที “ข้าได้ยินว่ามนุษย์จะชอบให้ของขวัญในวันเกิด แต่ข้าไม่มีของขวัญให้หรอกนะ เอาเป็นว่าจะเลี้ยงอาหารปลอบใจละกัน อยากกินสตูเนื้อวัวมากแค่ไหนก็เชิญ ข้ามีเติมให้”

“จะเลี้ยงข้าวข้าเหรอ?”

“ไม่พอใจหรือไง”

“เปล่า ข้าดีใจมาก” น้ำเสียงของโรซาเลียสั่นเครือ เธอสูดน้ำมูกก่อนจะกวาดอาหารในชามลงกระเพาะจนเกลี้ยง ส่วนมือข้างหนึ่งก็ยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ “แค่นี้ก็เหมือนได้ฉลองวันเกิดแล้ว ตั้งแต่เป็นผู้กล้ามา ถึงวันเกิดทีไรก็ไม่มีใครมาพูดว่าสุขสันต์วันเกิดสักที ของขวัญก็ไม่เคยได้ มีเจ้าเป็นคนแรกนี่แหละที่เลี้ยงข้าวข้า”

หลังจากกลายเป็นความหวังของมนุษยชาติ วันนี้เป็นวันแรกที่เธอได้เจอเรื่องดี ๆ ที่ทำให้ตัวเองมีความสุข โรซาเลียในปัจจุบันมองภาพเหตุการณ์นั้นโดยไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เธอจำเหตุการณ์ช่วงนี้ได้แล้ว วันนี้ในความทรงจำเป็นวันเกิดอายุครบยี่สิบเอ็ดปี หลังจากเสร็จงานช่วยเหลือประชาชน เธอก็ปลีกตัวออกมาหวังจะไปฉลองวันเกิดให้ตัวเอง แต่อยากหาเพื่อนร่วมฉลองสักคนจึงบุกมาที่ซาตาน่าแล้วก่อกวนจอมมารจนเจ้าตัวเลี้ยงอาหารปลอบใจซึ่งนั่นก็ยังดีกว่าไม่ได้กินเค้กฉลองวันเกิด

“ข้ากับเจ้ารู้จักกันมาก่อนจริง ๆ เหรอ” เธอรู้ว่าความทรงจำของตัวเองมีปัญหา แต่ไม่นึกว่ามันจะเป็นเอามากขนาดนี้ “ทำไมข้าถึงจำแต่ว่าเจ้าทำร้ายข้าล่ะ” เธอถามขณะมองไปที่ตัวต้นเหตุซึ่งเป็นแค่ภาพในความทรงจำ

“นี่เจ้าอาการหนักขนาดนี้เลยเหรอ” เสียงหนึ่งตอบกลับมาทำให้หญิงสาวเบิกตากว้างก่อนจะหันมามองตรงหน้า อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะตัวยาวที่คั่นระหว่างกลาง ไนเจลลัสยืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องมาที่เธอ โรซาเลียหันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ผู้ชายที่เป็นภาพความทรงจำก็ยังนั่งอยู่

“ไนเจลลัส...” เธอรู้ตัวแล้วว่าจิตของตัวเองถูกแทรกแซง และคนคนนั้นก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอ “เป็นไปไม่ได้ เจ้าไม่มีทางข้ามมาที่โลกนี้ได้” อดีตผู้กล้าพึมพำพลางถอยหลังไปชนผนัง

“ก่อนที่เจ้าจะตาย เจ้าจำได้ว่าอะไร” เขาถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด โรซาเลียรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ แววตาของเขาเหมือนคนที่ผ่านเรื่องหนักหนาสาหัสมาไม่มีผิด “ไอ้พลังศักดิ์สิทธิ์เฮงซวยนั่นทำอะไรกับความทรงจำของเจ้า”

“ข้า...”

“ทำไมเจ้าไม่รอข้า เจ้ารู้ไหมว่าข้าหาทางรักษาเจ้าได้แล้ว แต่เจ้าก็ตายหนีจากข้าไปทั้งที่สัญญาว่าจะมีชีวิตต่อไป ตอนนี้ไอ้พวกวิหารศักดิ์สิทธิ์บรรลัยนั่นก็ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายเจ้าอีกแล้ว ทำไมล่ะ ทำไมเจ้าต้องฆ่าตัวตาย ทำไม!!!”

“ข้าไม่รู้ ไม่รู้จริง ๆ ท่านเทรเวน่าบอกว่าความทรงจำข้ามีปัญหา ข้าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคลอดลูกตอนไหน แม้แต่เรื่องของเจ้า จริง ๆ แล้วเป็นยังไงกันแน่ ข้ายังไม่รู้เรื่องเลย!!!”

“โรซาเลีย”

“!!!” เสียงเรียกของพี่สาวคนรองทำให้เจ้าของชื่อรู้สึกตัว ตอนนี้เธอยืนอยู่หน้ารั้วคฤหาสน์ นอกจากเรเนสซ่าแล้วก็แม่บ้านจีเซลและเด็กรับใช้คนอื่น ๆ ที่มารับเธออยู่หน้าบ้านเช่นกัน

“เป็นอะไร เห็นยืนเหม่อ พี่เรียกสามครั้งแล้วทำไมไม่ตอบ แล้วทำไมเหงื่อแตกอย่างนี้ ตกใจเรื่องมาหรือเปล่า หน้าซีดเชียว หรือว่าใครทำอะไรเจ้า”

“ข้าไม่เป็นไรค่ะ” ตอนนี้เธอกลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริง บางทีเมื่อกี้เธออาจเดินกลับมาบ้านโดยไม่รู้ตัวก็ได้ แต่ที่แน่ ๆ ไนเจลลัสที่โผล่มาโวยวายใส่เธอนั้นหายตัวไปแล้ว

“เข้าบ้านกันเถอะ” เรเนสซ่าจูงมือน้องสาวเข้าไปในรั้ว ส่วนพวกเด็กรับใช้ก็พากันปิดประตูรั้วและลงกลอนให้เรียบร้อยก่อนจะทยอยกันกลับไปทำงานตามหน้าที่ต่อ

มนุษย์มีความเชื่อว่าหลังจากตายแล้ว วิญญาณจะออกร่างแล้วไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง บ้างก็เชื่อว่าไปอยู่กับพระเจ้าบนสวรรค์ บ้างก็เชื่อว่ายังวนเวียนอยู่ในสุสาน บ้างก็เชื่อว่ามีชีวิตใหม่ในโลกหลังความตาย บ้างก็เชื่อว่าอาจจะหายไปและไม่รับรู้อะไรอีก แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง เขาก็อยากคุยกับเธออีกสักครั้ง ยิ่งคราวก่อนเฟลิคบอกว่าเห็นแม่ แถมยังมีพลังบางอย่างขว้างแจกันใส่ เขาก็มั่นใจว่าวิญญาณของโรซาเลียต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง

สามปีผ่านไปหลังจากที่เธอตาย ไนเจลลัสก็พยายามหาวิธีติดต่อเธอด้วยเวทมนตร์เก่าแก่ที่ค้นเจอในหอสมุด เรื่องหาสื่อกลางไม่ใช่ปัญหา เป็นไปได้ว่าเธออาจยังเชื่อมต่อกับร่างเก่าของตัวเองอยู่ ดังนั้นเขาจึงใช้ร่างของเธอเป็นสื่อนำทางก่อนที่มันจะดึงเขาเข้าไปในจิตของเธอ

“ข้าทำได้แค่นี้เองเหรอ” จอมมารลำดับที่สิบหกพึมพำขณะมองพื้นที่เต็มไปด้วยอักขระสีแดง แล้วยังมีกระดาษมากมายกระจายอยู่เต็มห้อง ทั้งหมดนั้นก็เวทมนตร์ติดต่อวิญญาณทุกบทที่เขาหามา ส่วนตรงหน้าเขาก็คือร่างไร้ลมหายใจของโรซาเลีย

พลันเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังก่อนที่เด็กชายผมสีแดงยาวประบ่าวัยสามขวบจะวิ่งต้อย ๆ เข้ามาพร้อมขวดยาสมานแผลที่อุตส่าห์ไปหยิบมาให้

“ท่านพ่อ ข้าเอายามาให้”

“รู้ความจริง ๆ” เจ้าตัวรับขวดยามาแต่ยังไม่ใช้ทำแผลที่แขนสองข้างซึ่งเป็นรอยกรีดยาว แน่นอนว่าเขาสร้างบาดแผลนั้นเองแล้วนำเลือดไปเขียนอักขระเวททั่วห้องนี้

“ท่านพ่อบอกว่าจะหาท่านแม่ แล้วหาท่านแม่เจอไหมครับ” เฟลิคถามอย่างใสซื่อ ไนเจลลัสถอนหายใจก่อนจะหันมามองเด็กชายตามด้วยดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด

“หาเจอแล้ว รู้ด้วยว่าอยู่ไหน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel