บทที่ 1
ชื่อของเธอคือ ‘โรซาเลีย โอเฟลี’ ผู้กล้าที่พ่ายแพ้จอมมารทำให้มนุษยชาติถูกกวาดล้าง หลังจากฆ่าตัวตาย เธอก็ได้พบกับเทพีผู้สร้างโลกก่อนจะถูกส่งกลับในโลกที่สองเพื่อทำภารกิจแก้ตัว ดังนั้นเธอจึงกลับมาเกิดใหม่เป็นปีศาจสาวนามว่า ‘โรซาเลีย เบอร์นาเด็ท’ และที่เธอรู้ชื่อเจ้าของร่างเพราะคุณป้าแม่บ้านเป็นคนบอกเมื่อแน่ใจว่าเธอความจำเสื่อมจริง ๆ
“เจ้าก็หน้าตาดีไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงทำให้ตัวเองหน้าจืดชืดด้วย” หลังจากแม่บ้านพามาส่งที่ห้องพัก เธอก็เข้าไปล้างหน้าล้างตาแล้วพบว่าร่างนี้เป็นหญิงสาวที่มีผมสีแดงกุหลาบยาวถึงสะโพก นัยน์ตาเป็นสีเขียว ใบหน้านั้นงดงามพอสมควร แถมรูปลักษณ์ยังเหมือนร่างเก่าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วย
เสียงเคาะประตูดังแว่วมาทำให้คนที่เพิ่งก้าวออกจากห้องน้ำชะงัก ถ้าให้เดาคงมีใครสักคนที่รู้ว่าเธอตกบันไดจะมาเยี่ยม แต่ผู้มาเยือนเป็นใครกัน เธอก็ไม่รู้ แต่ถ้าอยากรู้ก็มีแต่ต้องเชิญอีกฝ่ายเข้ามาเท่านั้น
“เชิญค่ะ”
“โรซาเลีย” ผู้มาใหม่เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าทั้งสีผมและสีตา รูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม แม้หน้าตาจะไม่สวยมาก ทว่าเมื่อมองในภาพรวมแล้วเธอก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง
“ไม่ทราบว่าท่าน…”
“ข้าเป็นพี่สาวคนรองของเจ้า ชื่อว่าเรเนสซ่า ป้าจีเซลบอกพี่ว่าเจ้าตกบันไดจนความจำเสื่อม ตอนนี้กำลังไปตามหมออยู่” ฟังจบ เธอก็เดาว่าจีเซลคือชื่อของแม่บ้านที่มาส่งเธอ ส่วนผู้หญิงที่มาเยี่ยมคงจะเป็นพี่สาวแสนดีที่รักน้อง “เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าล้างหน้าเหรอ”
“ทำไมเหรอคะ”
“เจ้าเป็นคนสวยนะ สวยกว่าท่านพี่ราโมน่าซะอีก แต่ท่านพี่ไม่ชอบคนที่สวยกว่า เจ้าก็เลยต้องแต่งหน้าให้ตัวเองเหมือนสาวหน้าจืดทุกวัน ไม่สิ ลืมไปว่าเจ้าความจำเสื่อม” เรเนสซ่ากล่าวพลางเดินไปที่โต๊ะกระจกเครื่องแป้งแล้วหาอุปกรณ์แต่งหน้า
โรซาเลียที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ก็เดาว่าบ้านหลังนี้น่าจะมีสามพี่น้องอาศัยอยู่ คนที่ชื่อราโมน่าคงเป็นพี่ใหญ่แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไม่ชอบคนที่สวยกว่า ซึ่งต้องไม่ชอบมาก ๆ แน่ ไม่อย่างนั้นเจ้าของร่างตัวจริงคงไม่ทำตัวเป็นสาวหน้าจืดทุกวัน
“มานี่มา เดี๋ยวพี่แต่งหน้าให้”
“ข้าแต่งเองดีกว่าค่ะ” เรื่องแต่งหน้า ใช่ว่าเธอทำไม่เป็น เพียงแต่รู้สึกเกรงใจจึงอยากจัดการด้วยตัวเองมากกว่า “ท่านพี่ รบกวนบอกคุณป้าจีเซลด้วยนะคะ ไม่ต้องตามหมอหรอก อีกสักพัก ความจำข้าน่าจะกลับมา”
“เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ” ท่าทางคุณพี่สาวจะกังวลเรื่องสุขภาพน้องสาวอย่างมาก
“ข้าไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ แต่ก็อย่างว่า ตอนนี้ข้าจำอะไรไม่ได้ รบกวนท่านพี่เล่าประวัติที่เกี่ยวกับตัวข้าให้ฟังได้ไหมคะ”
“ได้สิ จะให้เล่าทั้งหมดก็ยังได้เลย” ท่าทางพี่สาวคนรองเหมือนจะดีใจมากราวกับคนอยากเล่านิทานให้เด็กฟัง บางทีเธอคนนี้อาจจะเป็นพี่สาวที่สนิทกับเจ้าของร่างคนเก่ามากแน่ ๆ
จากคำบอกเล่าของเรเนสซ่า โรซาเลียจึงรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นคฤหาสน์ของขุนนางปีศาจชั้นสูงท่านหนึ่งที่เสียชีวิตไปนานแล้ว เขามีภรรยาสองคน พี่สาวคนโตและพี่สาวคนรองเกิดจากภรรยาคนแรก หลังอีกฝ่ายจากไป เขาก็ได้แต่งงานใหม่กับข้ารับใช้คนสนิทของจอมมาร และเจ้าของร่างที่เธออาศัยอยู่ก็เป็นลูกสาวของภรรยาคนที่สอง แต่เธอคนนั้นเสียชีวิตหลังคลอดลูกสาว พอเจ้าของร่างตัวจริงอายุสิบขวบ ผู้เป็นพ่อก็จากไปในระหว่างการปะทะที่ชายแดน ราโมน่าซึ่งเป็นพี่สาวคนโตก็เป็นใหญ่ในบ้าน ควบคุมทุกอย่างตามใจตัวเอง และเพราะคิดว่าแม่เลี้ยงมาแย่งความรักของพ่อไป เธอก็เลยพาลไม่ชอบน้องคนเล็กไปด้วย จะมีก็แต่เรเนสซ่าที่ดีกับเธอ
แม้จะไม่มีพ่อแม่ดูแลแถมพี่สาวคนโตของบ้านก็ไม่ยอมทำงานทำการ ทว่าการเงินก็ไม่ขัดสนเพราะภรรยาคนที่สองเป็นข้ารับใช้คนสนิทของจอมมาร ดังนั้นคนเป็นน้องเล็กจึงถูกรับเป็นหลานสาวของจอมมาร คนทั้งบ้านจึงพลอยรับอานิสงส์ไปด้วย
นี่ข้าเป็นหลานจอมมารเหรอเนี่ย หญิงสาวกล่าวในใจขณะนั่งส่องกระจก ตอนนี้เธอแต่งหน้าเสร็จแล้ว บอกได้เลยว่าเป็นสาวหน้าจืดสนิท ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ส่ายหน้าเพราะไม่มีอะไรน่าสนใจ ส่วนพี่สาวคนรองก็ยืนยิ้มกว้างพลางหวีผมให้
“ท่านพี่ ข้ากับท่านจอมมารเคยเจอกันหรือเปล่า”
“เจอสิ เจ้าน่ะไปที่ปราสาทเป็นว่าเล่นเลย ท่านจอมมารก็ใจดีกับเจ้ามากนะ ลูกสาวของคนสนิทก็แบบนี้แหละ เอ...ถ้าจะไม่ผิด วันนี้ท่านจอมมารน่าจะกลับมาจากชายแดนแล้วนะ” เรเนสซ่าเปรยขึ้นก่อนจะหันไปทางประตูเมื่อได้ยินเสียงคนเคาะดังแว่วมา
“คุณหนูเรเนสซ่า คุณหนูโรซาเลีย รีบออกมาเถอะค่ะ” เสียงที่ดังอยู่ข้างนอกคือจีเซล คุณหนูรองของบ้านวางหวีที่หน้ากระจกเครื่องแป้งแล้วรีบเปิดประตูออกไปทันที
“มีอะไรเหรอคะ”
“ท่านจอมมารมาค่ะ”
“ท่านจอมมารมาเหรอ ตายจริง รีบไปเร็ว” หญิงสาวรีบดึงแขนน้องสาวแล้วพาออกมาข้างนอกอย่างเร่งด่วน เพราะบุคคลสำคัญกำลังมา พวกเธอจะต้องลงไปต้อนรับ
สองพี่น้องวิ่งลงมาที่โถงด้านล่าง อดีตผู้กล้าเห็นว่ามีทหารปีศาจสวมเกราะเข้ามาด้านในแล้วยืนเรียงหน้ากระดานตลอดสองข้างทางที่ปูด้วยพรมแดง พี่สาวคนรองพาเธอไปยืนรอรับ ส่วนพวกข้ารับใช้ในคฤหาสน์ก็วิ่งไปประจำที่เช่นกัน
เย็นไว้โรซาเลีย อยู่ต่อหน้าจอมมารไนเจลลัส ห้ามมีพิรุธ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ เพื่อคลายความตื่นเต้น
“นี่เจ้าเกร็งขนาดนี้เชียวเหรอ”
“ทำไมเหรอคะ”
“ปกติไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย เจ้าออกจะดีใจด้วยซ้ำ โอ๊ะ พี่ลืมไปว่าเจ้าจำอะไรไม่ได้” เธอลืมไปเสียสนิทว่าน้องสาวเพิ่งตกบันไดหัวฟาดพื้นมา ดีแค่ไหนแล้วที่อีกฝ่ายยังเดินไปไหนมาได้เหมือนคนปกติ
จังหวะนั้นเหล่าทหารปีศาจก็ค้อมศีรษะทำความเคารพ ก่อนที่ร่างหนึ่งจะก้าวเดินตามพรมแดงเข้ามา โรซาเลียทำความเคารพเหมือนที่พี่สาวทำจากนั้นก็เงยหน้ามองผู้มาใหม่ แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่จอมมารไนเจลลัสแต่เป็นหญิงสาวที่มีผมสีดำยาวถึงกลางหลัง นัยน์ตาเป็นสีแดงโกเมน ใบหน้างดงามราวกับนางฟ้ามากกว่าจะเป็นปีศาจ ร่างบางอ้อนแอ้นในชุดสีดำแต่แผ่รัศมีของนางพญาออกมา แค่นี้ก็รู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเป็นจอมมาร
'ไม่ใช่จอมมารไนเจลลัสเหรอ' อดีตผู้กล้าประหลาดใจมาก เธอเคยคิดแต่ว่าจอมมารต้องเป็นชายหนุ่มที่ทรงอำนาจ แต่ไม่นึกว่าสักวันจะได้พบกับจอมมารที่เป็นผู้หญิง
“ข้าเพิ่งกลับมาจากชายแดน ได้ยินว่าเจ้าตกบันไดก็เลยรีบมาดู ไม่เป็นไรใช่ไหม ข้าเป็นห่วงแทบแย่” พอก้าวมายืนอยู่ตรงหน้า ราชินีของเหล่าปีศาจก็ดึงโรซาเลียเข้ามากอดอย่างหวงแหนดูแล้วคล้ายญาติผู้ใหญ่ที่รักและเป็นห่วงลูกหลาน
“เรียนท่านจอมมาร นางสูญเสียความทรงจำค่ะ” เรเนสซ่าเห็นท่าทางของน้องสาวก็คิดว่าเธอคงไม่คุ้นจึงรีบบอกให้ผู้มาเยือนรับทราบ
“อะไรนะ นางสูญเสียความทรงจำเหรอ แล้วนี่ตามหมอมาหรือยัง พวกเจ้าดูแลหลานข้ายังไงถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้!” เสียงหวานทรงอำนาจทำให้เหล่าข้ารับใช้ในคฤหาสน์ถึงกับหลุดสะดุ้ง บางรายก็แทบจะทรุดลงไปนั่งกับพื้นเลยทีเดียว เธอเห็นท่าไม่ดี จึงรีบจับมืออีกฝ่ายมากุม
“ข้าจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่การที่พวกเขาบอกว่าข้าตกบันได แสดงว่าเป็นอุบัติเหตุ ท่านจอมมารอย่าเอาผิดพวกเขาเลยนะคะ”
“แม้แต่คำเรียกข้าก็ยังไม่เหมือนเดิม เรียกข้าว่าป้าสิ ข้าเป็นป้าของเจ้านะ” ท่าทางจอมมารจะไม่สนใจสาเหตุที่หลานสาวความจำเสื่อมแล้ว แค่ได้ยินคำเรียกที่ไม่เหมือนเดิม เธอก็แสดงอาการหงุดหงิดทันที
“ท่านป้า” คนเป็นหลานสาวลองเรียกดู เผื่อว่าอีกฝ่ายจะอารมณ์ดีขึ้น
“ใช่แล้ว ข้าเป็นป้าของเจ้า” พริบตานั้น จอมมารสาวก็เปลี่ยนสีหน้าก่อนจะดึงโรซาเลียเข้ามากอดรอบสองอย่างรักนักรักหนา “ไม่ได้เห็นหน้าตั้งหลายวัน คิดถึงเจ้าจริง ๆ”
“...”
พระเจ้าช่วย ป้าของเธอเป็นจอมมาร!
เวลาที่อยู่กับหลานสาว ราชินีปีศาจจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารักและห่วงใยโรซาเลียมาก ตอนนี้ก็เช่นกัน พอเห็นว่าหลานเสียความทรงจำจึงรีบรินน้ำชาให้ แถมยังสังเกตท่าทางอีกเพราะกลัวว่าเธอจะลืมแม้กระทั่งเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังดีหน่อยที่สมัยเป็นผู้กล้า เธอก็เคยเรียนรู้วิธีดื่มชา เรื่องนี้จึงไม่มีปัญหา
“ในเมื่อเจ้าจำอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรามาแนะนำตัวกันใหม่เลยละกัน” จอมมารวางถ้วยชาลงบนจานรอง สายลมที่พัดเข้ามาในศาลากลางสวนทำให้เส้นผมหยักศกพลิ้วไปตามลม ยิ่งอีกฝ่ายกำลังยิ้ม อดีตผู้กล้าก็รู้สึกว่าคนตรงหน้างดงามเหมือนนางฟ้า
ทำไมจอมมารถึงสวยขนาดนี้!
“ข้าชื่อเอราเคีย อาโครอส จอมมารลำดับที่สิบห้าแห่งซาตาน่า ส่วนเจ้าเป็นหลานข้า ข้ามีศักดิ์เป็นป้าของเจ้า ถึงจะไม่ใช่ป้าแท้ ๆ แต่เจ้าก็เป็นเหมือนลูกหลานข้าคนหนึ่ง” เอราเคียยังไม่ได้แต่งงาน ทายาทที่จะเป็นจอมมารรุ่นต่อไปก็ยังไม่มีจึงไม่แปลกที่เธอจะเอ็นดูโรซาเลียมาก
ดินแดนที่ชาวปีศาจอาศัยอยู่มีชื่อเรียกว่าซาตาน่า ที่เธอรู้เพราะสมัยเป็นผู้กล้าก็เคยอ่านเรื่องราวของที่นี่มาพอสมควร รวมทั้งประวัติจอมมารแต่ละรุ่นที่ถูกบันทึกไว้ให้ผู้กล้าทุกคนได้ศึกษาด้วย แน่นอนว่าชื่อของเอราเคียทำให้คนฟังตกใจอยู่เหมือนกัน
'จอมมารเอราเคียนี่เอง แสดงว่าข้าอยู่ในสมัยแม่ของจอมมารไนเจลลัสสินะ' จากบันทึกที่เคยอ่าน คู่ต่อสู้ของเธอเป็นจอมมารลำดับที่สิบหก แต่ก่อนหน้านั้นผู้ปกครองเหล่าปีศาจเป็นผู้หญิงและเป็นแม่แท้ ๆ ของเขาด้วย
“จริงสิ ตั้งแต่ข้าไปที่ชายแดน เจ้าคงไม่ได้ออกไปไหนเลย อีกสองสัปดาห์จะมีการประลองคัดเลือกองครักษ์ เจ้าจะไปดูกับข้าไหม” เอราเคียอยากให้หลานสาวออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ไหน ๆ ก็มีโอกาสแล้วจึงเอ่ยชวน
“ไปสิคะ ว่าแต่ทำไมถึงมีการคัดเลือกองครักษ์ล่ะคะ แล้วพวกที่มีก่อนหน้านี้…” เธอหมายถึงทหารสวมเกราะดำที่ติดตามหญิงสาวมาในวันนี้
“องครักษ์พวกนั้นคงไม่จำเป็นหรอก ข้าต้องการองครักษ์ส่วนตัว”
“ท่านป้าอยากได้องครักษ์ส่วนตัวเหรอคะ”
“ใช่ นอกจากอยู่ใกล้ข้าแล้วยังต้องไว้ใจได้ด้วย อีกอย่างข้าต้องการให้องครักษ์คนนี้เดินทางไปที่แมนไคน์กับข้า ส่วนสาเหตุที่ไป ข้าก็แค่อยากรู้ว่าผู้กล้าที่จะมาสู้กับข้านั้นเป็นใคร ตอนนี้ปรากฏตัวหรือยัง พวกมนุษย์ก็ปิดข่าวเงียบเหลือเกิน” สถานที่ที่เอราเคียพูดถึงคือถิ่นของชาวมนุษย์ แน่นอนว่าจอมมารแทบทุกรุ่นที่ผ่านมาล้วนสิ้นชีพด้วยฝีมือผู้กล้าทั้งนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นจนแทบจะเป็นเรื่องปกติก็คือการต่อสู้ระหว่างผู้กล้ากับจอมมาร เนื่องจากแผ่นดินของชาวมนุษย์เต็มไปด้วยทรัพยากรและความอุดมสมบูรณ์ ในขณะที่ชาวปีศาจต้องทนอยู่ในพื้นที่ที่แห้งแล้ง สถานที่บางแห่งก็เต็มไปด้วยไอพิษ จึงไม่แปลกที่บางครั้งจอมมารก็อยากจะยึดครองแดนมนุษย์ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงต้องมีผู้กล้าไว้สังหารจอมมาร และที่ผ่านมาก็ชนะทุกครั้งจนกระทั่งถึงยุคของโรซาเลีย
กลับมาที่ปัจจุบัน สิ่งที่อดีตผู้กล้าเริ่มกังวลก็คือเอราเคียอาจจะอยากตามหาผู้กล้าให้เจอก่อนแล้วสังหารเขาทิ้งซึ่งเธอจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้และทางเดียวที่จะหยุดหญิงสาวก็มีแต่ต้องตามติดเธอ อีกอย่างตำแหน่งองครักษ์ส่วนตัวก็เป็นทางเลือกที่ดี
“ท่านป้า ข้าอยากไปประลองด้วยค่ะ”
“นี่ข้าหูฝาดหรือเปล่า เจ้าจะไปร่วมการประลอง แต่อาวุธยังไม่เคยจับแล้วจะเอาอะไรไปสู้” พอได้ยินว่าหลานสาวอยากเป็นองครักษ์ส่วนตัว เอราเคียก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเพราะเธอเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่แบเบาะ อาวุธและทักษะการต่อสู้ก็ไม่เคยเรียน แล้วจะเอาวิชาอะไรไปต่อกรกับคู่ต่อสู้ได้
“งั้นข้าจะไปฝึกต่อสู้ค่ะ นะคะท่านป้า ให้ข้าไปร่วมการประลองนะ ข้าเองก็อยากไปที่แมนไคน์เหมือนกันนะคะ นะ ๆ ไปนะ” เธอไม่รู้ว่าเจ้าของร่างตัวจริงจะอ้อนป้าแบบนี้หรือเปล่า แต่ตอนยังอยู่ในร่างเก่า สมัยเด็กเธอก็โตมากับป้าแถมยังเคยอ้อนป้าแบบนี้ด้วย
“เจ้านี่ก็ขี้อ้อนจริง เอาเถอะ ถ้าเก่งจริงก็ลองดู” ใช่ว่าเอราเคียไม่ห่วงหลานสาว แต่บางครั้งปีศาจก็จำเป็นต้องแข็งแกร่งจะได้ไม่ถูกพวกเดียวกันรังแก
ภารกิจสำเร็จไปอีกนิดแล้ว!
หลังจากที่จอมมารเอราเคียกลับปราสาท โรซาเลียจึงมีเวลาอยู่กับพี่สาวคนรองและนั่นทำให้เธอได้เล่าว่าอีกไม่นานจะมีการประคองคัดเลือกองครักษ์และตัวเองก็อยากเข้าร่วมด้วย แน่นอนว่าคนฟังไม่อยากให้เธอไปเข้าร่วม น้องเล็กของบ้านไม่เคยจับอาวุธแล้วจะเอาอะไรไปต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม ดูยังไงก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งแถมโอกาสตายก็สูงด้วย
“เจ้าล้มเลิกความคิดเถอะ อย่าไปเลย”
“ไม่ค่ะ ข้าบอกท่านป้าไปแล้ว ไม่ว่ายังไงข้าก็จะไปประลองให้ได้ ท่านพี่อย่ามาห้ามข้าเลยนะคะ”
“แต่…”
“ให้ข้าไปเถอะนะคะ ท่านพี่ นะ ๆ ข้าอยากไปช่วยงานท่านป้า” ลูกไม้ที่ใช้กับป้าในชาติก่อนรวมทั้งป้าในชาตินี้ถูกนำมาใช้กับพี่สาว เพียงแค่สบกับนัยน์ตาใสแจ๋วที่มีน้ำใส ๆ คลอเบ้า เรเนสซ่าก็ใจอ่อนยวบทันตาเห็น
แต่ยังไม่ทันได้มีใครพูดอะไรอีก พลันเสียงแปลก ๆ ก็ดังแว่วมาจากห้องที่อยู่ไม่ไกล พี่สาวคนรองทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก เธอกับน้องสาวเดินคุยกันเพลินจึงเผลอหลงเข้ามาทางปีกตะวันออกของคฤหาสน์ แน่นอนว่าส่วนนี้ทั้งสองจะไม่ผ่านมาถ้าไม่จำเป็น จะมีก็แค่พวกข้ารับใช้เท่านั้นที่เข้ามาทำงานตามหน้าที่
“โรซาเลีย เจ้าความจำเสื่อมก็เลยตกใจ ห้องท่านพี่ราโมน่าอยู่ข้างหน้านี่แหละ ส่วนเสียงแปลก ๆ นั่นก็อย่าไปสนใจเลยนะ” เรเนสซ่าถึงกับหน้าแดงเพราะอายแทนพี่สาวแท้ ๆ พอเห็นน้องสาวต่างแม่เงียบไปก็เลยนึกว่าอึ้งจนพูดไม่ออก
'ขอโทษนะคะคุณพี่สาว ข้าไม่ได้ใสซื่อขนาดนั้น แค่ไม่นึกว่าจะมีคนขึ้นเตียงกลางวันแสก ๆ ไม่สิ ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้วนี่' ถึงเธอจะเคยเป็นผู้กล้า ทำอะไรก็อยู่ในขอบเขต แต่เรื่องพวกนี้ก็ใช่ว่าไม่รู้จัก
จังหวะนั้นประตูห้องก็เปิดออกก่อนที่ชายหญิงสองคนในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยจะเซถอยหลังออกมาชนผนังทางเดินที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ฝ่ายชายเป็นใครก็ไม่รู้ แต่ฝ่ายหญิงมีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับพี่สาวคนรองเพียงแต่มีใบหน้างดงามกว่า รูปร่างมีทรวดทรงที่ยั่วยวนเพศตรงข้ามจึงไม่แปลกที่จะมีคนเข้าหาเยอะ อย่างตอนนี้ที่ราโมน่ากำลังทำเรื่องหน้าไม่อายกับผู้ชายโดยไม่สนใจน้องสาวตัวเองเลย
“กรี๊ด!” ในที่สุดเรเนสซ่าก็ทนเห็นภาพนั้นไม่ไหว เธอกรีดร้องก่อนจะหันหลังวิ่งหนีไป โรซาเลียมองตามหลังพี่คนรองแล้วจึงหันกลับมามองพี่คนโตของบ้าน
“ข้าแปลกใจนะ ไม่นึกว่าเจ้าจะทนมองข้าได้ทั้งที่เมื่อก่อนเห็นแวบแรกก็เป็นลมแล้ว” เจ้าของเสียงรู้สึกประหลาดใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่น้องสาวคนเล็กยังยืนดูอยู่ได้
“ห้องมีไม่รู้จักใช้ จะเอากับใครก็ไม่ต้องเปิดเผยให้โลกรู้หรอก อุบาทว์” อดีตผู้กล้าจงใจพึมพำให้ได้ยินก่อนจะส่ายหน้าเอือมระอาแล้วเดินจากไป
“เจ้าว่าใคร” พี่ใหญ่ของบ้านเดินตามมากระชากไหล่ตามด้วยตวาดใส่ “คิดว่าเป็นหลานจอมมารแล้วข้าจะไม่กล้าเหรอ เจ้ามันก็แค่ผู้หญิงหน้าจืดที่ไม่มีใครเอา อย่าสะเออะมามีเรื่องกับข้า ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“ว่าแต่คนอื่นหน้าจืด ตัวเองสวยนักแหละ คนที่น่าจะไม่มีใครเอาควรจะเป็นท่านพี่มากกว่า มีที่ไหนพาผู้ชายมานอนด้วยแถมยังทำกิจกรรมกลางแจ้งอีก ถ้าจะหน้าด้านขนาดนี้ ไปทำงานที่ซ่องดีกว่าไหม” เธอไม่ใช่เจ้าของร่างคนเก่าที่จะยอมให้ใครมาทำอะไรก็ได้ ถึงอีกฝ่ายจะมีศักดิ์เป็นพี่ เธอก็ไม่กลัว ถ้าอยากมีเรื่อง เธอก็ไม่ขัด
“นี่เจ้าด่าข้าเหรอ!” ราโมน่ายกนิ้วชี้หน้า
“แล้วด่าไม่ได้เหรอคะ” อดีตผู้กล้าถามกลับทันควัน
“ข้าเป็นพี่เจ้านะ!”
“ข้าก็เป็นน้องท่านนะคะ พี่ด่าน้องได้ แล้วทำไมน้องจะด่าพี่ไม่ได้ คิดว่าเป็นพี่แล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ” หญิงสาวกวาดสายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมส่งสายตาเหยียด ๆ ใส่อีก พี่คนโตของบ้านถึงกับของขึ้นจากนั้นก็วิ่งตามน้องสาวคนเล็กที่กำลังเดินหนี
“โรซาเลีย!”
“มีพี่แบบนี้ ประสาทเสียกันพอดี” รคนพูดหันกลับมาก่อนจะเอี้ยวตัวหลบ ราโมน่าที่ตวัดมือตบก็พลาดเสียหลักจนเซล้มลงกับพื้น โรซาเลียมองด้วยสายตาเหยียด ๆ แล้วเดินข้ามพี่สาวไปอย่างไม่เกรงใจ ทางด้านคนถูกหยามหน้าก็กรีดร้องด้วยความโมโห
“นังน้องเลว! กรี๊ด!!!”