บท
ตั้งค่า

ตอน 3

“นายไม่รู้เหรอ เออๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“เอ้า...เมาจนเลอะ นี่กลับไหวไหม ผมไปส่งขึ้นแทกซี่มั้ย มีญาติ มีเพื่อนมาด้วยหรือเปล่าครับ เอารถมาหรือมาแท็กซี่ครับ เมาแบบนี้ต่อให้เอารถมาคงขับไม่ไหว ผมส่งขึ้นแท็กซี่ละกัน” การ์ดตัวใหญ่เอื้ออารีต่อสตรีเมา และเหงาจนต้องกรีดเสียงมั่วอาละวาด

“ไม่เอาฉันมาคนเดียว อยากดื่ม รู้ไหมอยากดื่ม ดื่มเพื่อลืมเธอ ดื่มให้ละลายความเหงา คนมันโดนทิ้ง” เธอฮัมเพลงเสียงยานๆ ให้การ์ดฟัง การ์ดได้แต่ปลง เขาเห็นคนเมาแบบนี้ทุกวันจึงไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่อย่าไปก่อกวนนักเที่ยวคนอื่นเกิดความรำคาญเท่านั้นพอ

มินตราเชื่อว่าตัวเองมีสติ แต่ที่ทำตัวบ้าๆ เพราะความเหงา คืนนี้ช่างอ้างว้างว้าเหว่ คำพูดที่ว่าใจเป็นนายกายเป็นบ่าว อันนี้ก็เข้าใจ แต่ในสภาวะแบบนี้จะให้อะไรเป็นนายเป็นบ่าวเธอไม่สนทั้งนั้น

ความเหงามันฆ่าคนได้จริงๆ อย่าได้ประมาท

การ์ดตัวใหญ่เชื่อว่าหญิงสาวสงบแล้ว เขาจึงย้อนกลับไปทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยกับลูกค้า และนักเที่ยวตามเดิม

หญิงสาวนั่งทิ้งกาย ทอดสายตา ทอดอาลัยมองท้องถนน ที่มีการประดับไฟวิบวับ ข้อความส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พราววาวแววไปหมด ทั่วท้องถนน อาคารบ้านเรือน ป้ายไฟโฆษณา ต่างมีแต่คำอวยพร รวมไปถึงดาราคนดัง ถ่ายภาพโฆษณาของขวัญปีใหม่

“คนอื่นๆ คงมีความสุขกัน มีเราสินะ ที่ต้องออกมาให้หมาเหยียบรอยในคืนเหงาๆ” หญิงสาวยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา อีกสิบห้านาทีเที่ยงคืน ฉันมาอยู่ตรงจุดที่เหงามากที่สุดได้ยังไง ดีหน่อยข้างทางมีม้านั่ง พอได้หย่อนก้นนั่งหน่อย หญิงสาวซื้อเครื่องดื่มที่ร้านสะดวกซื้อกักตุนไว้ดื่ม ตอนเขาจุดพลุเคาท์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่

เบียร์กระป๋องที่สองในจำนวนหกกระป๋องที่เพิ่งซื้อมา กำลังจะยกเพื่อกระดกลงคอ กลับมีอุปสรรคโดนมือใครสักกระชากเอาไป

“เฮ้ย...!!” หญิงสาวโวยลั่นพร้อมหันไปมองที่มาของมือฉก

“ดื่มคนเดียวจะสนุกได้ยังไง ทำตัวเหมือนคนอกหัก” หนุ่มหน้าตี๋ผิวขาวตัวสูง ยืนมองผู้หญิงที่บังอาจลวนลามเขาตอนอยู่บนเวที จนการ์ดต้องจับโยนออกมา ดูท่าทางเหงาใช่เล่น เวลาแบบนี้ผู้คนมักฉลองเตรียมเข้าสู่ศักราชใหม่ ผู้หญิงคนนี้มาทำอะไรคนเดียวเวลาแบบนี้

“ใครวะ” คนเมามองภาพไม่ชัด แต่เสียงชัดทุ้มนุ่ม เสียงเขาหล่อคล้ายเสียงนักร้องอยู่ในผับเมื่อกี้ไม่มีผิด หรือว่าเธอหูฝาดตาฝาดไอ้ตี๋หิดนั่นจะมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง คงเป็นพวกวัยรุ่นขี้หลี ลามกจกเปรต ชอบลวนลามผู้หญิงสวยอย่างเธอ

“ลวนลามผมไปแหมบๆ ลืมไวจัง” เขาทวนความจำเล็กๆ ให้กับเธอ ตอนผู้หญิงคนนั้นโดนการ์ดพาออกไป เขานึกเป็นห่วงในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิง พอแสดงเสร็จรีบลงจากเวที เร่งเดินออกมากับเพื่อนๆ สายตาเห็นเธอเข้าพอดี จึงสั่งให้เพื่อนกลับไปก่อน

หญิงสาวผู้ถูกแย่งเบียร์ไป กำลังทบทวนความเธอไปลวนลามใครมา คนอย่างเธอนี้นะ ลวนลามกระทำชำเราผู้ชาย ต่อให้เหงาตัวเท่าช้างอย่างไรก็ไม่เคยทำบ้าอะไรเทือกนั้น ใส่ร้ายกันเห็นๆ ไอ้หน้าตี๋สะดือยังมีกลิ่นมหาหิงอยู่เลย

“อ๋อ...นึกออกแล้ว นายนักร้องหน้าตี๋นี่เอง”

“ครับ ผมเกือบเสียตัวให้เจ๊แนะ”

“อุ้ย สบายใจเถอะฉันไม่ชอบเด็ก” มินตราเบะปากตาปรือๆ มองคนที่ยืน ภาพอยู่ซับซ้อนเลือนราง

“รู้ได้ยังไงว่าผมเด็ก เคยลองแล้วเหรอ” เขายั่ว

“ตัวโตก็จริง แต่มีกลิ่นความเด็ก ไปให้พ้นๆ คนเหงาจะเมา” เธอไล่เขาโดยไม่สนใจความรู้สึกอีกฝ่าย ช่างประไร ไม่เห็นต้องแคร์ ในเมื่อคนอื่นยังไม่แคร์เธอเลย แล้วเธอต้องสนใจคนอื่นให้รกสมองทำซากอะไร

“นี่ก็เมามากแล้ว พอเถอะเหงามากเหรอ งั้นอีกห้านาทีจะคืนข้ามปี ผมจะเสียสละเวลา อยู่เป็นเพื่อนร่วมเคาท์ดาวน์กับเจ๊”

“ถามว่าเหงามากมั้ย ฉันตอบเลยว่ามากกกกกกก” เธอไม่สนเบียร์กระป๋องที่โดนแย่งไป เปิดกระป๋องใหม่ยกขึ้นดื่ม อึกๆ ท่าเธอดื่มเบียร์อยู่ในสายตาเจอาร์นักร้องหนุ่มน้อยหน้าใส วัยรุ่นขบเผาะ ดื่มเบียร์ไปน้ำตาไหลไป เบียร์นี้มันช่างทำร้ายคนให้ร้องไห้ได้หรือยังไง

เจอาร์มองหน้าหญิงสาวที่โตเป็นผู้ใหญ่กว่า ขี้แงร้องไห้ขี้มูกโป่งพอกับเด็กๆ

“เจ๊ๆๆ เร็วๆ มานับถอยหลังกันอีกสิบวินาที จะต้อนรับศักราชใหม่” เจอาร์ขยับไปนั่งข้างเจ๊ขี้เหงา เมาปลิ้น ยกนาฬิกาดิจิตอลบนข้อมือขึ้นนับถอยหลัง พร้อมๆ กับชาวโลก 9 8 7 6 5 4 3 2 1

ปุ้ง....เสียงพลุ มาพร้อมกับแสงสีเสียง ทั่วท้องฟ้า พลุนับสิบ นับร้อย ต่างพร้อมใจกันจุด แสงสว่างจ้าทั่วท้องฟ้าในยามราตรี เข้าสู่วันใหม่ พ.ศ. ใหม่แล้วเจ๊ควรหายเหงาได้แล้ว

เจอาร์ตะโกนต้อนรับวันใหม่ สดใส เริงรื่น ตามวัยหนุ่มน้อย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เขากระโดดโหยงเหยง ร้องเย้วๆ ดีใจสนุกสนาน ส่วนคนเมา ไม่รับรู้อะไรเลย นอกจากยิ้มกับร่างเด็กหนุ่มกระโดดโลดเต้นดีใจในวันใหม่ที่มาเยือนหมาดๆ

“ฉันกลับละ บ๊ายบาย” คนเหงาบอกลา

“เดี๋ยวจะกลับไปไหนละเจ๊ขี้เหงา ปีใหม่ทั้งทีฉลองกันหน่อยสิ” เด็กตัวโตหน้าตี๋ขาวสะอาดเหมือนซาลาเปา ถ้าเขาถูกนึ่งไว้บนซึ้งคงน่ากินสุดๆ แต่นี่เพราะไอ้เด็กตัวโตคนนี้เป็นคน ซ้ำยังเด็กกว่ามินตรา เธอจึงเบือนหน้าหนีไม่สนคำเชิญอยู่ต้อนรับปีใหม่

ปีใหม่ที่เลวร้ายสำหรับเธอ เรื่องอะไรจะอยู่ฉลองกับคนแปลกหน้า ที่หล่อใสแบบนายนักร้อง สะดือยังไม่สิ้นกลิ่นมหาหิง

โดนผู้ใหญ่ขี้เหงาปฏิเสธ เจอาร์รู้สึกเหมือนโดนถีบหน้า เขาจึงคิดจะทำอะไรสักอย่าง นั่นไม่ใช่แค่คิดแต่เขาทำจริง

“อื้อ...นะ..นายจะ...จะทำบ้าอะไร” จากนั้นมินตราก็หมดโอกาสไต่ถาม เมื่อปากเจอาร์หนุ่มน้อยที่ยังมีกลิ่นของมหาหิง คว้าต้นคอระหงดึงผู้ใหญ่เข้ามาประกบจูบแนบชิด ตัวเขาสูงใหญ่กว่ามินตรา เธอเป็นผู้หญิงรูปร่างเพรียวบอบบาง น่าจับกดแล้วมุดเข้าหา เพียงแต่ซ่ากล้ามาเที่ยวคนเดียวมากไปหน่อย ซ้ำยังปฏิเสธคำชวนจากเขา ถือไม่ให้เกียรติกันอย่างร้ายกาจ

ดูสิพวกผู้หญิงที่อยู่ในผับ แทบจะฉีกร่างเขาแบ่งกัน ร้องเย้วๆ จะเป็นจะตาย ทันทีที่พวกเขาก้าวลงเวทีเมื่อจบการแสดง ก็กลายเป็นอาหารมือ อาการตาชะนีน้อย ใหญ่ เก้ง กวาง ต่างหมายมั่นตรงเป้าตุง ของหนุ่มวงทรีกาย

หนุ่มน้อยจูบรนราน รุกเร้าเอาคำตอบ ใช้ความใจร้อนอย่างหนุ่มน้อยวัยรุ่น ทำร้ายปากผู้ใหญ่ ปากเธอหวานสดชื่น แม้จะมีกลิ่นเครื่องดื่มหลากหลายอยู่ในปาก ทว่าพอกดจูบ บดขยี้แนบแน่น ทุกอย่างทั้งอารมณ์ ตัณหา ความต้องการ ในแบบวัยรุ่น ก็ล่อลวงดึงดูดความต้องการในกายจนทะบานพุ่งพล่าน จนอยากไปต่อให้มากกว่าการจูบ

“อื้อ...” มินตราดิ้นเพื่อต่อสู้กับการกระทำของเด็กหนุ่ม สติเธอเหลือน้อยเต็มที เนื่องจากดื่มไปมาก เมื่อดิ้นมากๆ ก็อ่อนระทวย จมอยู่ในอุ้งมือเด็กหนุ่มนักร้อง ที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ร้อนแรงฉิบหาย ร้อนเกินกว่าเธอจะต้านหัวใจตัวเองไหว ในคืนเหงา คืนเปลี่ยว ได้จูบต้อนรับศักราชใหม่มาเติมเต็มก็นับว่า ร้อนรน พานดีดหัวใจออกไปไกลโพ้น ให้พ้นจากผู้คนได้ดีเป็นบ้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel