Tequilla Love 1 : ดารากับข่าว
ณ งาน Event เปิดตัวห้างสรรพสินค้า
“มีคนในใจมั้ย เพื่อนสนิทคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ ~”
เสียงของนักข่าวสาวประจำช่องข่าวใหญ่ยิงคำถามใส่เมื่อได้โอกาสหลังจากดึงตัวฉันมาสัมภาษณ์ได้ คำถามเดิม ๆ ที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ต้องเตรียมตัวตั้งรับกับมันอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ให้ทำไงได้ละก็ฉันมันเป็นบุคคลสาธารณะหรือเรียกกันง่าย ๆ ‘ดารา’ นั่นแหละ
“เพื่อนสนิทก็เป็นเพื่อนสนิทค่ะ จะให้เป็นมากกว่านี้ไม่ได้ ~” ถึงปากจะยิ้มระหว่างตอบคำถาม แต่ภายในใจกำลังกรีดร้องให้กับข่าวไร้สาระ
หยุดจับคู่ฉันกับมาร์ตินีได้แล้ว! ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย!
“เขามีสิ้นสุดทางเพื่อนมากันเยอะแล้วนะคะ คุณยี่หวายังไม่ยอมเปิดตัวสักที” นักข่าวอีกคนพูดขึ้น ซึ่งนั่นทำให้คนอื่น ๆ เริ่มส่งเสียงเชียร์ให้ฉันพูดไปตามกัน
“ไม่มีให้เปิดน่ะสิ” จะให้เปิดตัวกับอะไร? ผีบ้าน ผีเรือนหรือไง เฮ้อ...
“ระดับตัวแม่ ตัวมารดาของวงการจะไม่มีใครมาขายขนมจีบบ้างเหรอคะหรือว่าเพราะติดเพื่อนสนิทคนนั้นเลยไม่มีใครกล้า” ทุกสายตาจับจ้องมายังฉัน คำถามแบบเปิดหัวแล้วปล่อยฉันตายเลยนะแม่ ๆ นักข่าวทั้งหลาย
“บอกตรง ๆ ยี่หวาไม่ได้มีใคร ไม่มีคนคุย ไม่มีใครมาจีบ ส่วนมาร์ตีนีก็เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนอย่างที่ทุกคนรู้” พยายามพูดอย่างร่าเริง แม้ว่าในใจจะกรีดร้องสุดเสียงเหมือนดังคนบ้า
ข่าวนี้กลับมารุนแรงอีกแล้ว มาร์เอาฉันตายแน่!
“ระดับคุณยี่หวาพวกเราไม่อยากเชื่อเลย”
“ยี่หวาสนใจเรื่องงานอย่างเดียวเลยตอนนี้ เรื่องแฟนไม่ได้คิดเอาไว้เลยค่ะ แต่เดี๋ยวยี่หวาต้องขอตัวก่อนนะทุกคน มีไปถ่ายงานต่อ”
“โห ~ หลอกถามตั้งนานไม่มีหลุดเลยจริง ๆ” เสียงนักข่าวบ่นกันเบา ๆ ในระหว่างที่ฉันเดินผ่านพวกเขา ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวก็รีบเข้ามาพาออกไปทันที
“ข่าวนี้กลับมาอีกแล้วมาร์บ่นหูดับแน่ยี่หวา” ‘พี่ไหม’ ผู้จัดการส่วนตัว ที่ดูแลทุกอย่างตั้งแต่ชีวิตการทำงานจนชีวิตส่วนตัว ก็ฉันมันตัวคนเดียวไม่มีใคร
“ทำไงได้ มาร์มันน่าจะชินแล้วมั้ง” ฉันไม่ใช่พึ่งมามีชื่อเสียงสักหน่อย ก็ถูกจับตามาตลอดในฐานะ ‘เด็กกำพร้าที่พาตัวเองมาอยู่จุดสูงสุด’ ฟังดูละครชีวิตสักหน่อยแต่มันคือเรื่องจริง
‘ยี่หวา’ ชื่อที่ทุกคนรู้จักในฐานะ ‘ดารา’ ชื่อดังลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย เด็กกำพร้าที่มีแมวมองไปเจอตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ข่าวเสียหายไม่เคยมี เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนในทุกด้าน
ทั้งเรื่องการเรียนที่สอบชิงทุนเข้าศึกษาโรงเรียนชื่อดัง มีแต่ลูกหลานคนใหญ่คนโต ไฮโซมีระดับเข้าเรียนกันและในปีนั้นฉันเป็นคนเดียวที่ได้ทุนอีกด้วย
อีกเรื่องที่ทุกคนรู้จักฉันก็คือ ‘เพื่อนสนิทผู้หญิงเพียงคนเดียว’ ของลูกชายคนโตตระกูล ‘ภิสรินธรณ์’ ทายาทนักธุรกิจรวยติดลำดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งมันควรจะเป็นความสัมพันธ์ที่มันควรจะมีแค่นั้น แต่ยิ่งเรามีอายุมากขึ้นกลับยิ่งเป็นจุดสนใจของความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน
“เหมือนเป็นข่าวประจำตัวไปแล้ว เป็นพี่ก็ต้องชิน” พี่ไหมพูดอย่างเห็นใจ ในขณะที่เราทั้งสองคนกำลังเดินไปยังลิฟต์ ตลอดทางที่แฟนคลับขอถ่ายรูปเป็นระยะ ซึ่งฉันไม่มีปัญหาสำหรับเรื่องนี้เลยถ้าเป็นพวกเขายังไงก็ไม่ได้ไปไหนต่อแล้ว ที่บอกนักข่าวว่ามีงานมันก็แค่เรื่องโกหก
“พี่ยี่หวา ~ ขอถ่ายรูปได้มั้ยคะ”
“ได้อยู่แล้ว มาเลยค่ะ ~”
ณ ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า เวลา 18.45 น.
ครืด!
“อาทิตย์หน้ายี่หวาไม่มีคิวงานนะ” ทันทีที่ก้าวขึ้นมานั่งภายในรถตู้ พี่ไหมพูดขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถเคลื่อนตัวออกไป
“เยี่ยม” ฉันหลับตาลงด้วยความเหนื่อยทั้งที่ปากก็ตอบกลับผู้จัดการส่วนตัวไป
“จะเยี่ยมอะไร ตัวเองเป็นคนบอกให้พี่ไม่รับงานให้เอง”
“ก็เยี่ยมที่ไม่มีงานไง”
ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการฉันก็โหมงานอย่างหนักไปทั้งเรียนด้วย กระทั่งเรียนจบก็ยังบ้างานไม่หยุด จนตอนนี้เหมือนกำลังอิ่มตัวแล้วและมีความคิดที่จะหาเวลาพักให้ตัวเองบ้าง ซึ่งคิดเอาไว้ว่าจะพักช่วงประมาณอายุ 30 ปี มีเวลาอีก 4-5 เดือนที่จะเคลียร์ตัวเอง
“ยี่หวาจะพักงานในวงการจริง ๆ เหรอ” พี่ไหมถามขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันถูกตั้งคำถาม
“ใช่ค่ะ แต่พี่ไหมไม่ต้องกลัวนะ ถ้ามีเรื่องอะไรให้หนูช่วยก็บอกได้เลย ส่วนพี่ชัยหนูยังจ้างพี่เป็นคนขับรถเหมือนเดิมนะคะไม่ต้องกลัวไป” ดวงตากลมเปิดขึ้น แล้วหันไปมองยังผู้จัดการกับคนขับรถของตัวเอง
“หรือว่าข่าวจะเป็นเรื่องจริง ส่วนใหญ่ดาราที่พักงานวงการก็หนีไปแต่งงาน สร้างครอบครัวกันทั้งนั้น” พี่ไหมมีสีหน้าตกใจไม่น้อยกับความคิดตัว แล้วยังกล้าที่จะพูดมันออกมาอีกด้วย
“พี่ไหม เป็นไปอีกคนแล้ว เฮ้อ...ท้อใจที่จะพูด” ร่างบางพลิกตัวหันหลังให้ทันทีหลังพูดจบ แต่พี่ไหมยังพูดไม่หยุด
“เรื่องแบบนี้พี่สามารถรับรู้แล้วไม่บอกใครนะ” ฉันปล่อยให้พี่ไหมพูดอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนตัวเองจัดการส่งข้อความหาเพื่อนบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น
ยี่หวา : เรื่องข่าวกูขอโทษ
ติ๊ง!
มาร์ตินี : ชิน
คิดเอาไว้แล้วว่าต้องตอบอะไรแบบนี้ ก็ต้องชินแหละ ข่าวมันมาเรื่อย ๆ ไม่หยุด ไม่ว่าฉันจะมีข่าวกับใครทุกคนจะถูกกลบด้วยเรื่องของมาร์ตินีทั้งหมด พูดให้ตายก็ไม่มีใครอยากเชื่อว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน แม้แต่น้องชายเพื่อนฉันยังไม่เชื่อเลย พาให้เราไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่สมัยเรียน
สบายใจหน่อยที่เด็กนั่นไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ ไม่งั้น...ฉันเหนื่อยที่ต้องต่อปากต่อคำกับเขาแน่
ติ๊ง!
เสียงข้อความดังขึ้นอีกครั้ง ดวงตากลมโตก้มมองรายชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอก็พบว่ามันคือเพื่อนฉันเอง
มาร์ตินี : ลืมบอก เตเรียนจบแล้ว
ยี่หวา : แสดงความยินดีด้วย
จะกลับมาไทยมั้ย...นี่ฉันต้องปะทะอีกแล้วเหรอเนี่ย จากนี้หลีกเลี่ยงได้ก็จะทำ ไม่อยากคุยกับเด็กนั่นเท่าไหร่หรอก
มาร์ตินี : กำหนดกลับเตกูไม่แน่ใจ เดาใจมันยากแต่คร่าว ๆ น่าจะไม่เกินสองอาทิตย์นี้ แล้วก็กูมีเรื่องจะให้ช่วยค่อยนัดคุยกัน
ยี่หวา : เออ ได้
สองอาทิตย์จากนี้เหรอ...
เอาเถอะ ฉันโตมากพอที่จะระงับปากตัวเองได้กว่าเมื่อก่อนอยู่แล้ว