EP19 จะทำอะไรก็ได้
EP19
.
.
.
-ไอติม-
หลังจากที่กลับมาจากผับ SG ฉันก็พาตัวเองมาอยู่ที่สวนสาธารณะที่ประจำของเรา ไม่คิดเลยว่าสามวันก่อนเรายังมานั่งคุยกันแต่มาวันนี้กลับไม่มีโอกาสนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว ปกติตอนที่ฉันคิดมากหรือไม่รู้ว่าจะหันไปขอกำลังใจจากใครหันไปข้างกายก็มีเพียงพี่แมท มันรู้สึกดีมากเลยที่มีใครคอยรับฟังเราตลอด เราเลิกกันไปไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้สึก มันรู้สึกขาดใครสักคนที่คอยซัพพอร์ตอยู่ข้างๆ
"คิดอะไรอยู่หรอ" เสียงของมิวทักขึ้น เธอเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้างกาย
"ทบทวนอะไรเรื่อยเปื่อย" พูดจบก็เหม่อมองปลายหญ้าที่พลัดไสวไปตามลม ก่อนจะมาที่นี้มิวโทรมาถามว่าอยู่ไหน เราเลยนัดเจอกันที่นี้เพราะเธอบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย
"เท้าโดนอะไรมาอ่ะติม"
"อุบัติเหตุหน่ะ"
"คงไม่ได้คิดทำร้ายตัวเองหรอกใช่ไหม"
"ติมไม่ทำแบบนั้นหรอก…" แม้มันเคยจะเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งก็ตามแต่มันคงจะไม่เกิดขึ้นรอบสองอีกแน่นอน
"เมื่อคืนกลับยังไง ทำงานโอเครึเปล่า" มิวถามด้วยความเป็นห่วงแล้วยกมือขึ้นลูบไหล่เบาๆ
"ก็ดี มีแขกสนใจติมด้วย"
"แล้วยอมรึเปล่า"
"เขาเสนอเงินมา สามล้าน"
"ห๊ะ…สะ…สามล้าน?"
"อื้อ" ใบหน้าพยักตอบ ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผู้ชายคนนั้นสนใจอะไรถึงได้ทุ่มเงินเยอะขนาดนั้นเพื่อแลกกับตัว ฉันไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์อะไร ทำไมเขาถึงอยากได้ตัวมากขนาดนั้นก็ไม่รู้
"นั้นมันเยอะกว่าเด็กนั่งดริ้งทุกคนในร้านรวมกันอีกเลยนะ"
"สถานการณ์ทุกอย่างมันบีบบังคับไปหมดเลยมิว" ฉันตอบออกไปด้วยแววตาเจือความเศร้าถึงจะตอบตกลงแต่มันก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี ไม่รู้ว่างานจะเริ่มเมื่อไหร่ นิสัยใจคอผู้ชายคนนั้นจะเป็นยังไง มันกลัวไปหมด
"ถ้ามีคนมาเสนอเลี้ยงดูเยอะขนาดนั้นฉันก็คงไม่ปฏิเสธ มันไม่ผิดหรอกติม แกไม่ได้มีใคร หรือไปแย่งของใครมาสักหน่อย"
"แต่ติมไม่รู้เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง"
"อย่างน้อยๆผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่คนที่แกเกลียดที่สุดไม่ใช่หรอ มันไม่ทันตั้งแต่ที่แกตัดสินใจเซ็นสัญญาทำงานที่นี้แล้ว" มันก็ใช่อย่างที่มิวพูด มันสายไปฉันตอบตกลงและรับเงินของเขามาแล้ว และอีกอย่างมันอาจจะทำให้ฉันไม่ได้เจอหน้าเขาอีกก็ได้ ผู้ชายที่ชื่อลิสท์เจม…
-END-
.
.
.
เกาะ SENT TAVERN
"ที่นี้สร้างเสร็จเร็วกว่าที่คิดนะ" เจคอปเอ่ยขึ้นในตอนที่พวกเขากำลังเดินอยู่บนสะพานเชื่อมและหยุดอยู่ตรงกลางที่ธงปักอยู่ ชายวัยกลางคนชาวยุโรปกวาดสายตามองทั่วมุมพร้อมกับหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องดูตึกและสถานที่ส่งออกสินค้า คาสิโน และผับ ทุกอย่างมันครบครันและแปลกตากับสถานที่แบบนี้ในไทย
"เหมือนยกลาสเวกัสมาอยู่บนเกาะ" แดเนียลพูดขึ้น เขามาที่นี้เพื่อมาชมผลงานของลิสท์เจมและเตรียมเข้าร่วมงานเปิดตัวของ SENT TAVERN
"ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่มีนาย" ปากพูดพร้อมกับยื่นกล้องส่งคืนให้การ์ดที่คอยยืนควบคุมทุกอย่างทุกสี่ด้าน
"แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สามปีถึงสร้างโปรเจกต์นี้ขึ้นมาได้"
"งานหินขนานี้นายยังทำได้ ฉันภูมิใจในตัวนายนะ ทุกอย่างเหมือนเสกได้" เจคอปพูดแล้วเดินเข้าไปตบไหล่มือขวาอย่างลิสท์เจม
ใช่…ตลอดการติดคุกของเขาข้อหาพยายามฆ่ามันควรจะโทษประหารหรือไม่ก็ติดคุกตลอดชีวิตแต่ลิสท์เจมกลับถูกจำคุกในข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครองและถูกจำคุกอยู่ที่อเมริกาเพียงสามปี ข้อหาที่เขาก่อมันเหมือนราวกับไม่เคยเกิดขึ้น สามปีที่อยู่ในนั้นเขาต้องสืบเรื่องของกรมตำรวจและหาข้อมูลอีกหลายอย่างเกี่ยวกับหนึ่งนักโทษที่เคยเป็นอดีตมือขวาของฝ่ายคู่แข่งเรื่องการก่อตั้งโปรเจกต์ใหม่แหล่งทุ่มเงินที่เกาะบนพัทยา และอีกหลายอย่าง หลังจากนั้นข้อมูลก็ถูกส่งออกผ่านเจ้าหน้าที่ควบคุมเพื่อสุ่มการทำโปรเจกต์เงียบๆ จนครบกำหนดลิสท์เจมก็ถูกปล่อยตัว…เขาถึงถูกขนานนามว่า นักโทษVIP…
"ผมคิดว่าใครก็ทำได้นะ" แดเนียลแย้งขึ้น พร้อมกับมองลิสท์เจมด้วยหางตาอย่างไม่พอใจนัก
"ไม่มีใครง้างปากมือขวาของนายนั้นได้หรอก อย่าเก่งแต่พูดเลยแดน"
"แด๊ด!" เหมือนถูกตบหน้าด้วยมือใหญ่เมื่อถูกผู้เป็นพ่อสวนกลับทันควัน ทำให้รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อร้าย
"ถ้าแกทำได้ฉันคงไม่ให้เจมทำงานนี้"
"…" แดเนียลได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วเบือนสายตามองไปทางอื่น เขาไม่อยากมีเรื่องหรือทะเลาะกับผู้เป็นพ่อให้มากจึงต้องเก็บกลั้นอารมณ์เอาไว้
"แล้วนายจะกลับอเมริกาตอนไหน"
"คงอีกนาน"
"ฉันอยากให้นายรีบกลับไปช่วยงานที่อเมริกา"
"ผมยังสะสางเรื่องยังไม่เสร็จ"
"เรื่องที่ว่าใช่เด็กคนนั้นรึเปล่า?" เจคอปหรี่ตาถาม สายตาของลิสท์เจมเมื่อคืนตอนเห็นไอติมอยู่บนตักแดเนียลมันบ่งบอกชัดเจนว่าชายหนุ่มกำลังหึงหวงเหมือนคนที่เคยรู้จักกันมาก่อน ใครมองก็รู้แล้วว่าทั้งสองต้องเกี่ยวข้องกันไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง
"เรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับคุณ"
"ฉันแค่อยากถามในฐานะที่เราทำงานด้วยกัน"
"ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยคุณจะเห็นผมอยู่ลาสเวกัสเอง" ลิสท์เจมตอบเสียงนิ่ง พอมีชื่อของคนตัวเล็กสอดแทรกเข้ามาในบทสนทนามันก็เริ่มหงุดหงิดไม่น้อย
"โอเค นายคงจะอยู่ที่นี้ต่อจนถึงวันงานใช่ไหม"
"ผมจะกลับก่อน" ตอบเพียงเท่านั้นก็ปลีกตัวเดินออกมาตามแนวสะพานเพื่อจะกลับไปยังที่พักของตนเอง อีกหนึ่งสัปดาห์ที่เหลืออยู่เขาจะส่งคนตามไอติมตลอดถ้าเธอทำอะไรที่มันมากเกินไป ไอติมก็คงต้องถูกจับมาขังไว้จนกว่าเขาจะกลับ…
…
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
ผ่านมาราวสัปดาห์ตั้งแต่รับเงินจากผู้จัดการร้าน SG มาไอติมก็ไม่ได้ไปทำงานที่ร้านอีกเลยเธอรอผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาแต่ก็ไม่มีวี่แวว มีเพียงข้อความจากแอคเค้าท์ปริศนาที่ทักมาคุยด้วยและบอกว่าตนเองเป็นเจ้าของเงินนั้นที่ซื้อเธอ และบอกว่าตนเองติดงานอยู่ต่างประเทศจึงมาหาไม่ได้ มันเป็นแบบนี้มาราวหนึ่งสัปดาห์แล้ว…
??? : เลิกเรียนรึยัง?
??? : วันนี้กลับแล้ว เดี๋ยวไปหา
ดวงตาคู่สวยกวาดอ่านข้อความบนหน้าจอด้วยหัวใจที่เต้นระทึก แค่อ่านจากข้อความเธอยังสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล วันนี้แล้วหรอที่จะได้เจอหน้าจริงๆสักที ทำไมมันถึงรูัสึกไม่ค่อยดีจังนะ หลังจากที่เห็นข้อความนั้นไอติมก็พาตัวเองไปยังจุดนัดหมายที่เขาส่งมาให้ เป็นคอนโดหรูชื่อคุ้นหู หญิงสาวพยายามจะไม่คิดอะไรมากจนกระทั่งแท็กซี่ขับมาจอดที่หน้าคอนโด DAGON
"ถึงแล้วหนู"
"ขอบคุณค่ะ" ไอติมดึงตัวเองออกมาจากห้วงความคิดแล้วหยิบธนบัตรออกมาจ่ายตังขาเรียวก้าวลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปข้างในล็อบบี้ จังหวะที่เท้ากระทบกับพื้นก็ยิ่งเร่งให้หัวใจเต้นรัวเร้ากว่าเดิม คอนโดนี้มันเหมือนคอนโดที่ลิสท์เจมอยู่เลย แต่เขาหายไปเป็นอาทิตย์แล้วหรือว่าความจริงคนที่ซื้อเธอเป็นใครกันแน่ ในสมองคิดปลายเล็บก็จิกลงที่กระโปรงนักศึกษาปากบางเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ในขณะนั้นเองเสียงไลน์ก็เด้งเข้ามา…
Lien!
ร่างเล็กหยุดแน่นิ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดอ่านมันส่งมาจากผู้ชายคนเดิม…
??? : ห้อง 111 เปิดเข้ามาฉันรอเธออยู่
ห้องตองหนึ่งแบบนั้นหรอ ห้องนั้นมันมีเจ้าของแล้วนิ ห้องของลิสท์เจมหรือความจริงแล้วเธอกำลังโดนหลอก คิดได้แบบนั้นเธอก็แทบจะไม่มีแรงก้าวขาเข้าไปข้างในดวงตาคู่สวยหลุบมองพื้นพร้อมกับนึกคำพูดของคุณผู้จัดการ แขกคนแรกที่สนใจเธอก่อนแบบนั้นหรอ ใช่สิ…คนที่จองเธอก่อนผู้ชายคนนั้นคือลิสท์เจม ไอติมกำลังโดนหลอกทั้งที่คิดว่าจะหลุดพ้นแต่มันกลับกลายเป็นว่าเข้าใกล้เขามากกว่าเดิม…
??? : เข้ามาสิ กลัวอะไร?
"อึก…" ข้อความเด้งขึ้นมาบนหน้าจอมือถืออีกครั้งร่างเล็กสะดุ้งตกใจเท้าเรียวจำใจเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องของลิสท์เจมแล้วเปิดมันเข้าไป ประตูไม่ได้ล็อก ตอนนี้เป็นช่วงเย็นทำให้ภายในห้องมืดสลัวเพราะไม่ได้เปิดไฟ ไอติมกวาดสายตามองหาร่างของเจ้าของห้องความเงียบสงัดทำให้ได้ยินเสียงลมหายใจของตนเองดังเป็นระยะ
"ปิดประตูสิ" เสียงนิ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ไอติมสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเธอปิดประตูเอาไว้แล้วยืนอยู่ตรงนั้น สายตามอบตามเสียงก็พบเงาของร่างหนาที่นั่งชันขาข้างหนึ่งอยู่บนพื้นพร้อมกับควันบุหรี่ที่ลอยคละคลุ้งออกมา เหงื่ออาบทั่วตัวจนมันวาว ร่างกายมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้ ทำเอาคนมองหายใจไม่ทั่วท้อง
"พี่เป็นคนวางแผนทั้งหมดหรอคะ" ปากบางถามออกไปเสียงสั่น
"แล้วคิดว่าไงล่ะ" ปากตอบมือก็บีบหมัดแน่น ชายหนุ่มนึกโมโหหากไม่ใช่เขาจ่ายไอติมก็คงจะยอมขายเหมือนเดิม ทำเหมือนตัวเองไม่มีเจ้าของ ทั้งที่เขาก็คอยยํ้าอยู่ตลอดว่าเป็นอะไร...
"พี่หลอกติม…"
"ทำไม ผิดหวังหรอที่ไม่ใช่ผู้ชายคนอื่น?" ไม่พูดเปล่าร่างหนายังหยัดกายลุกขึ้นเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อกระชากร่างเล็กเข้ามาหาตนเอง
"ติมแค่ไม่อยากยุ่งกับพี่...." ใบหน้าหวานเบ้ด้วยความเจ็บมือบางพยายามจับมือหนาออก
"คงไม่มีวันนั้นหรอก ตอนนี้ฉันซื้อเธอมาด้วยเงิน ชีวิตเธอฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้ จะสั่งให้ไปตายเธอก็ต้องทำ..."
.
.
.
ลูกสาวชั้นคงชํ้าตายก่อนพอดี?
