บท
ตั้งค่า

พันธะสวาท_1 : เรื่องเล่าจากอดีต

From the past

เรื่องเล่าจากอดีต

“ไอ้เด็กเหลือขอ! บ้านจนไม่พอ ริขโมยของคนอื่นเขาอีก! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้เด็กเลว!!”

เด็กหญิงผมเปียน้ำตาไหลรินเปื้อนใบหน้า แต่ต้องทนกัดปากตัวเองแล้วหอบของที่หยิบติดมือมาไว้ให้แน่น แล้วรีบวิ่งไปให้ไกลที่สุด หากเธอหนีได้สำเร็จพ่อของเธออาจจะรอด แต่ถ้าไม่สำเร็จ.. พ่อของเธออาจจะ..

ขวับ!

“อะ โอ้ยย!” รองเท้าแตะลอยตามแรงขว้างกระทบใบหน้าของเด็กสาวเต็มๆ ถึงจะเจ็บขนาดไหนก็หยุดวิ่งไม่ได้เด็ดขาด

“ไอ้เด็กเหลือขอ!! ใครก็ได้จับมันที!!”

“..อย่านะ” เด็กสาวกัดปากพลางมองซ้ายมองขวา เธอพยายามวิ่งสุดแรงที่มี เพราะความจนทำให้เธอเลือกไม่ได้แบบนี้ แต่ชีวิตของคนเป็นพ่อเดิมพันอยู่ที่ของในถุง

ถ้ามีเงินพาพ่อไปโรงพยาบาลได้ หนูก็ไม่ทำแบบนี้หรอก

ขวับ! อีกครั้งที่มีสิ่งของบางอย่างกระทบกับลำตัวของเธออย่างจังถึงขั้นล้มลงไปกองกับพื้น ยาในถุงและของที่ขโมยมากระจัดกระจายไปรอบๆตัว

“โดนละ!”

“อย่านะ.. ฮึ่ก~ “

เด็กสาวพยายามคลานทั้งอย่างนั้น เก็บของที่กระเด็นกระจายไปรอบตัวเท่าที่แรงจะทำไหว และขณะที่ของชิ้นสุดท้ายกำลังจะถูกหยิบ

ฝ่าเท้าหนาๆของเจ้าของร้านยาก็เหยียบที่มือของเธอทันที

“ตัวเท่าลูกหมา ริจะเป็นขโมยรึ๊? พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไง!”

“..อึ่ก ถะ ถ้าคุณทำอาชีพเพื่อช่วยชีวิตคนจริงๆ ปละ ปล่อยหนูไปเถอะนะ”

“เหอะ! ทำไมฉันต้องช่วยแก แกขโมยของฉัน ยังมีหน้าจะให้ฉันช่วยอีกงั้นหรอ!”

“พ่อของหนู”

“ไม่ใช่ปัญหาของฉัน ฉันเปิดร้านฉันก็ต้องการเงิน หยุดคิดเองเออเองสักทีว่าคนเป็นหมอเป็นเภสัชต้องช่วยเหลือทุกคนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน!”

“อึ้ก~”

“ถ้าไม่มีเงิน.. ฉันจะส่งแกให้ตำรวจ!”

“อย่านะคะ! พ่อของหนู พ่อของหนูกำลังแย่!”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ปัญหาของฉัน เงินจ๊ะอีหนู เป็นหมอก็ต้องการเงินโน๊ะ!”

กึก! ตัดมาที่ด้านร้านอาหารตามสั่งข้างทาง มีเด็กชายคนนึงวัยที่โตกำลังดี อายุก็น่าจะมากกว่าเด็กสาว เขาวางแก้วกับโต๊ะจนเสียงดัง เขาได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว และรับไม่ได้กับตรรกะใจร้ายของผู้ใหญ่กับเด็กคนนึงที่พยายามจะยื้อชีวิตพ่อตัวเอง ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นหมอแท้ๆ แต่ถึงจะเป็นหมอหรือเภสัชก็เถอะ กลับไร้ซึ่งสามัญและจิตใต้สำนึก

เด็กชายลุกขึ้นและพูดอะไรสักอย่างกับป้าร้านขายข้าว..

“หนะ หนูไม่มี อึ่ก~”

ขณะที่เด็กสาวนั่งหมดหวังอยู่ที่พื้นถนน.. และกำลังคิดว่าจะทำด้วยวิธีไหนดีถึงจะสามารถเอายาที่ขโมยมา เอาไปให้พ่อได้ เธอเป็นแค่เด็กสาว เด็กน้อยผมเปียตัวเล็กๆเองนะ เป็นแค่เด็กที่ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแค่สองคน เป็นแค่เด็กที่หาวิธีจะช่วยพ่อ.. ทำไม ผู้ใหญ่ถึงใจร้ายแบบนี้

“ทั้งหมดเท่าไหร่” แต่จู่ๆก็มีเสียงปริศนา เสียงเด็กชายคนนึง.. เขาถามออกไปก่อนจะยืนขวางและคั่นกลางระหว่างคนใจร้ายกับเด็กสาวผู้น่าสงสาร

“..จะจ่ายให้หรือไง?”

“ถามว่าเท่าไหร่” เสื้อผ้าและการแต่งตัวของเด็กคนนี้ดูมีฐานะมากๆ.. จะเรียกว่าเด็กได้ไหม เขาดูอายุมากกว่าแต่ก็ไม่ถึงขั้นโตขนาดนั้น

“..349”

“เงินแค่นี้มีค่ากว่าชีวิตคน?”

“…..”

“แถวนี้มีร้านยาที่ไหนอีกไหม หรือโรงพยาบาลเเถวนี้นะ มีไหม?” เขาหันไปถามเด็กสาวน้ำตาเปื้อนหน้า

“มะ ไม่มีค่ะ”

“แล้วพ่อเธอเป็นอะไร?”

“…พะ พ่อเป็นไข้ค่ะ แต่ไข้สูงมาก เป็นมาหลายวันแล้ว พ่อทำงานหนักแล้วกะ”

ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขายกมือห้ามราวกับว่าไม่ต้องการให้ฉันพูดต่อ เงินที่คลี่ออกมาจากกระเป๋าเหมือนจะเกินจำนวนยาที่เด็กสาวขโมยมา

“จัดยาให้เธอ”

“..ก็แค่นั้น” เจ้าของร้านยารับเงินไปอย่างไร้ซึ่งคำโต้ตอบ แค่มีเงินสินะ เงินซื้อได้ทุกอย่าง..

เป็นเด็กชายตรงหน้าที่เดินเข้าหาร่างน้อยที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับถนน เด็กชายนั่งยองๆก่อนจะวางมือที่หัวเล็กๆของเด็กสาว

“….”

“ไม่เป็นไรแล้ว”

“..ทำไม พี่ถึงยอมช่วยหนูละ หนูเป็นขโมยนะ ฮึ่ก~”

“ก็ถึงทำให้เธอไม่ต้องเป็นขโมยนี่ไง”

“….”

“ไม่ใช่ผู้ใหญ่ทุกคนที่จะใจดีกับเด็กหน้าตาน่ารักอย่างเธอนะ”

“….” ไม่นานนักคุณหมอที่ฉันเข้าใจก็เดินกลับมาพร้อมกับถุงยา เขายื่นให้กับเด็กคนนี้ ก่อนจะมีป้าร้านขายข้าวเดินเข้ามาสมทบ

“ของหนูจ๊ะ”

“ขอบคุณครับ” แล้วเด็กชายก็รับถุงยาและข้าวกล่องไว้ ก่อนจะหันมายื่นให้เด็กสาว

“ฉันให้ ข้าวสองกล่องแล้วก็ยา ขอให้พ่อหายไวๆนะ”

“..ขะ ขอบคุณนะ”

“ฉันคาร์เตอร์”

“..ธะ ธิชา” สายตาของฉันมองเห็นเข็มกลัดที่อกข้างขวา.. มันเป็นเข็มกลัดของโรงเรียนคนรวยชื่อดังแห่งหนึ่ง

“ไปนะ”

ฉันทำได้แค่พยักหน้า แล้วคาร์เตอร์ก็เดินกลับไปที่ร้านข้าวโดยมีผู้ชายคนนึงเดินตามประกบเขาไม่ห่าง

“ขะ ขอบคุณมากๆเลยนะ! หนูจะไม่ลืมพี่เลยยยย!!”

และนี่คือเรื่องราวของฉัน.. ฉันชื่อ ธิชา เด็กสาวในวันนั้นที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตด้วยความพยายามจนมาถึงวันนี้ วันที่ฉันสามารถสอบชิงทุนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศได้ มหาวิทยาลัยชื่อเดียวกันกับเข็มกลัดของเด็กผู้ชายคนนั้น มหาวิทยาลัยที่เป็นอีกเครือของโรงเรียนชื่อเดียวกัน เอแบค

และตอนนี้ฉัน.. กำลังยืนมองรูปของเขา เติบโตมาอย่างดีเลยนะ เปลี่ยนไปมากขนาดไหนฉันก็จำเขาได้ แววตาที่แสนดีและอบอุ่นแบบนี้ เค้าโครงใบหน้าลางๆ จะเปลี่ยนไปก็แค่สีผม… ผมสีน้ำเงินและแว่นตากรอบบางใส…

คาร์เตอร์

ภัทศรกรณ์ อนันต์อัครศาล

เจ้าของมหาวิทยาลัย เอแบค แห่งนี้…

“หนูเจอเขาแล้วนะพ่อ” ธิชาหยิบจดหมายในกระเป๋าขึ้นมา จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของคนเป็นพ่อ.. ที่ฝากฝังไว้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต ว่าถ้าฉันเจอเขาอีกครั้ง จดหมายนี้จะต้องถึงมือเขาให้ได้ในสักวัน

ใช่ค่ะ.. ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะถุงยาและข้าวกล่องในวันนั้น ยื้อชีวิตพ่อฉันได้ยาวนานเป็นสิบๆปี

_______________

ถึง.. ผู้มีพระคุณ

_______________

ธิชายิ้มบางๆให้กับลายมือของคนเป็นพ่อ เป็นการจ่าหน้าซองที่โบราณคร่ำครึกมากสำหรับเธอ..

•???•

แตกโป๊ะแล้วนะคะ สำหรับเรื่องของพี่คาร์เตอร์~

พันธะสวาท เป็นเรื่องที่2ใน เซ็ตสวาท นะคะ เซ็ตนี้จะมีทั้งหมด4เรื่อง ฝากด้วยนะคะ☺️

1.DEBT LOVE | หนี้สวาท [เรียวxเวล]

2.TIE LOVE | พันธะสวาท [คาร์เตอร์xธิชา]

3.???

4.???

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel