บทย่อ
'สายน้ำจะไม่มีวันไหลกลับ และสายน้ำสายนี้จะมีเพียงแค่เธอคนเดียว' . . "เรียกหมอมาเก็บดีเอ็นเอไปตรวจสิ ถ้าเจอว่าเป็นอสุจิของฉันกับหญิงอื่นก็ฟ้องหย่าได้เลย" นี่เขากำลังท้าทายฉันอยู่ใช่ไหม? "คุณท้าต๊อปเองนะคะ คุณธารธารา" สามเดือน...ที่ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากับผู้ชายที่ชื่อ 'ธารธารา' สามเดือน...ที่เปลี่ยนมาใช้นามสกุล 'พญาไพรพงษ์' มันคือสามเดือนที่เหมือนฉันตกนรกทั้งเป็น!
Intro
"แกจะไปไหน!?"
เสียงแม่ฉันตะโกนถามไล่หลัง
"ต๊อปจะไปจากบ้านหลังนี้!" ฉันตอบแม่ด้วยร่างกายที่สั่น ลมหายใจฟืดฟาดด้วยความโมโห
"ถ้าเธอก้าวออกไปแม้แต่ครึ่งฝ่าเท้า ค่าสินสอดสิบล้านต้องมากองอยู่ตรงนี้ ตอนนี้!"
ดวงตาเรียวคมตวัดมองเจ้าของคำพูดอย่างควันออกหู
ฉันเกลียดเขาที่สุด!
คนที่ชอบเอาแต่เรื่องสินสอดทั้ง ๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าแม่ฉันเอาเงินจำนวนนั้นไปใช้ไถ่บ้าน 'พฤกษาสกุล' ของครอบครัวเราไปเกือบหมดมาขู่ทุกครั้งที่ฉันจะหนีจากเขา
"งั้นก็จ้างทนายมาฟ้องหย่ากันเถอะค่ะ" หมดความอดทนกับคำขู่ของเขาแล้ว
หลังจากแต่งงานกันมาสามเดือน ในที่สุดฉันก็ได้รู้จักความรู้สึกสุดจะกลั้นมันเป็นแบบไหน
มันก็เป็นอาการแบบนี้ไง แบบที่ฉันกำลังท้าทายมัจจุราชตรงหน้า
"ฉันทำอะไรผิด?"
ยังมีหน้ามาถามด้วยใบหน้าเรียบเฉยทั้ง ๆ ที่เขาเหยียบหน้าฉันด้วยการทิ้งคราบเกรอะกรังสีขาวขุ่นของเขากับหญิงชั่วให้มันเปรอะเปื้อนที่นอนของเราสองคน
ทิ้งไอ้ของโสโครกนั้นไว้เป็นหลักฐานแสนหยามหน้าฉันไว้ไม่พอ ยังมาตีหน้าซื่อถามหาเหตุผลการหย่ากับฉันอีก
"แบบผิวไม่เรียบที่ทิ้งอยู่ข้างเตียงพอจะเป็นหลักฐานได้ไหมคะ?" ถามเสียงเย้ยหยันกลับไป
เมื่อคืนฉันกลับจากบ้านชะเอมเพื่อนสนิทเกือบเที่ยงคืน เพราะช่วยเธอตัดเย็บเสื้อผ้าที่ลูกค้าออร์เดอร์มาจากต่างประเทศ
แทนที่กลับมาเหนื่อย ๆ จะได้นอนหลับสบายบนเตียงนุ่ม ๆ แต่พอเปิดประตูห้องนอนที่คอนโดส่วนตัวเข้าไปถึงกับหน้าซีดปากสั่นเมื่อสภาพห้องผิดปกติไปทุกกระเบียดนิ้ว
เก้าอี้ที่ควรอยู่มุมห้องกลับวางอยู่ปลายเตียง มีเชือกที่เหมือนเพิ่งถูกคลายออกจากสิ่งของบางอย่างกองอยู่กับพื้น
มองเลยขึ้นไปบนเตียง ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ แถมยังมีคราบที่ไม่ต้องเดาหรือถามใครก็รู้ว่ามันคือคราบน้ำอะไรแห้งเกรอะกรังเต็มไปหมด
พื้นข้างเตียงนอนก็มีกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดถูกเปิดใช้งานแล้วทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
บรรยายมาขนาดนี้ฉันต้องบอกแบบตรง ๆ เลยไหมว่าห้องที่สามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายใช้หลับนอนด้วยกันทุกคืนเกิดอะไรขึ้นในขณะที่คู่สมรสอย่างฉันไม่อยู่ที่คอนโดแค่ครึ่งวัน
"เรียกหมอมาเก็บดีเอ็นเอไปตรวจสิ ถ้าเจอว่าเป็นอสุจิของฉันกับหญิงอื่นก็ฟ้องหย่าได้เลย"
นี่เขากำลังท้าทายฉันอยู่ใช่ไหม?
"คุณท้าต๊อปเองนะคะ คุณธารธารา"
เขานิ่งและเย็นเหมือนชื่อของเขาที่แปลว่า 'สายน้ำ'
"คุณธาราเขาไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกลูก กลับขึ้นไปเคลียร์กันบนห้องดี ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ"
หางเสียงที่แม่ใช้คุยตอนมีสามีลูกอยู่ด้วยช่างหวานหู ต่างจากตอนที่ตะโกนไล่หลังฉันเมื่อตะกี้จริง ๆ
"ต๊อปไม่มีอะไรจะเคลียร์ค่ะ" แม้จะยืนคุยยืนระบายมาเยอะแล้วแต่ฉันก็ยังคงมีอาการหายใจแรงและสั่นอยู่
การแต่งงานของเราสองคนเป็นเหมือนการถูกคลุมถุงชนจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะปล่อยให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีตัวเองที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องแล้วไป 'นอนเอา' กับใครที่ไหนก็ได้โดยที่ยังถือทะเบียนสมรสเป็นชื่อเราสองคนอยู่
"ฉันจะรอบนห้อง"
"..."
"แค่ห้านาที"
คนที่เงียบหลังจากท้าทายและข่มขู่ฉันก่อนหน้าเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
เข้าใจดีเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันไม่ทำตามเวลาที่เขากำหนด
"รีบ ๆ ตามคุณธาราไปสิ แกมีปัญญาหาเงินสิบล้านมาคืนเขาหรือไง!?"
แม่กระชากทั้งน้ำเสียงทั้งต้นแขนฉันให้ตามคนที่เพิ่งเดินดุ่ม ๆ กลับขึ้นไปบนชั้นสอง
ถ้าไม่ติดว่าคนข้าง ๆ คือแม่ผู้ให้กำเนิด ฉันก็อยากจะตอกกลับท่านไปว่า...
'แล้วใครให้เอาเงินเขาไปใช้จนหมดล่ะ'
ถ้าไม่กลัวขี้กลากขึ้นหัวติดว่าจะกลายเป็นลูกทรพีฉันคงพูดไปแล้วว่า...
'ทุกอย่างเป็นความผิดแม่ที่เชื่อคนอื่นจนเขาโกงไปหมดตัว จนต้องหอบลูกขึ้นพานถวายคนรวยเพื่อปลดหนี้'
"ต๊อปจะทนครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย... สุดท้ายจริง ๆ นะคะ"
ได้แต่ยืนพรูลมออกจากปากอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
สามเดือนที่ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากับผู้ชายที่ชื่อ 'ธารธารา'
สามเดือนที่เปลี่ยนมาใช้นามสกุล 'พญาไพรพงษ์'
มันคือสามเดือนที่เหมือนฉันตกนรกทั้งเป็น!