-06- ขอความช่วยเหลือ
"ก็ท่านรอง ขี้เก๊กงายย คิกคิก" คนเมาพูดพลางหัวเราะคิกคักชอบใจไม่สนใจใบหน้าถมึงทึงของอีกคนที่แทบจะเด็ดหัวเธออยู่รอมร่อ
"...."
"ฉานก็ไม่อยากทามงานกับ เอิ๊กก~ ท่านรองหร๊อก แต่มันจำเป็นน คิกคิก"
"ทำไม!"
"ก็เพราะว่าฉานไม่อยากจ่าย อึก~ ค่าปรับงายย" รวิวรรณไร้สติจนไม่รับรู้ถึงอารมณ์คุกรุ่นของคนตรงหน้า เชื่อเถอะถ้าไม่ติดกับยัยนี่เมาทศกัณฐ์คงจับหักคอแล้วแน่นอน!
_________________________
-06- ขอความช่วยเหลือ
ทศกัณฐ์ได้แต่กรอกตามองบนอย่างเอือมระอา แทนที่จะกำจัดยัยเลขาจอมจุ้นวุ่นวายออกไปจากตัวเองได้อย่างที่ตั้งใจกลับกลายมาเป็นภาระให้เขาต้องหอบกระเตงเจ้าหล่อนกลับมาถึงคอนโดส่วนตัว ยัยขี้เมาสลัดคราบเฉิ่มเชยออกไปวาดลวดลายอยู่หน้าเวทีเรียกเสียงโห่แซวจากบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จนกลายเป็นจุดเด่น เหอะ! ยัยนี่ไม่ได้สวยงามจนได้รับความสนใจหรอก ที่กลายเป็นจุดเด่นเพราะท่าเต้นพิสดาลเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อนลวกนั่นมากกว่า สุดท้ายคนใจบุญอย่างทศกัณฐ์ต้องบากหน้าไปลากแม่สาวจอมเลื้อยออกมาจากคลับดังเช่นตอนนี้
"นี่! อย่ามาจับตัวฉัน" มือหนาปัดแขนเรียวเล็กที่เริ่มเกาะแน่นเป็นตุ๊กแกออกอย่างรำคาญพร้อมดันให้นั่งลงบนโซฟาห้องรับแขกอย่างเอือมระอา
"รวิคิดถึงพ่อกับแม่" เสียงเล็กบ่นอุบอิบเบาๆแต่ความเงียบในห้องทำให้ทศกัณฐ์ได้ยินมันชัดเจน
"รวิ? เธอชื่อรวิหรอวะ"
"ช่าย รวิเหนื่อยจังเลยค่ะแม่ขา ไม่ชอบเลย ไม่ชอบแบบนี้เลย ฮึ่ก!" ทศกัณฐ์มองคนเมาที่พูดเพ้อราวกับเจอเรื่องทุกข์ใจเงียบๆ
"...."
"รวิไม่อยากเห็น ฮึ่ก! ไม่อยากเห็นพวกนั้นเลยค่ะแม่ขา" คนตัวเล็กยังคงพร่ำบอกพร้อมน้ำตา
"เห็นอะไร?"
"ก็เห็นพวกวิญ... คร่อกฟี้~ คร่อกฟี้~"
"ยัยบ้าเอ้ย!!!" มีอย่างที่ไหนพูดกับเขาอยู่แท้ๆจู่ๆก็หลับใส่ซะงั้น
ทศกัณฐ์มองคนที่หลับใหลพร้อมเสียงกรนเบาๆแล้วส่ายหน้าระอา คิดผิดจริงๆที่ท้าให้ยัยนี่ดื่มเหล้า เขาไม่แล้งน้ำใจแม้ว่าจะรำคาญสักแค่ไหน ในเมื่อสาเหตุมาจากเขาก็ต้องรับผิดชอบจนถึงที่สุด มือหนาค่อยๆถอดแว่นอันโตออกจนเผยให้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มที่จัดว่าน่ารักสำหรับผู้ที่พบเจอ ทศกัณฐ์รู้สึกหน้ามืดตาลายขึ้นมาเสียดื้อๆ ให้ตายสิ ทำไมใจเต้นแรงจัง! ยัยเลขาเฉิ่มของเขาหน้ารักเหมือนตุ๊กตา ปากนิด จมูกหน่อยรับกับใบหน้าเรียวรูปไข่อย่างลงตัว หากไม่มีแว่นบดบังไว้ยัยนี่คงกลายเป็นผู้หญิงฮ็อตได้ไม่ยาก แม้จะไม่ได้อยู่ในหมวดสาวสวยเซ็กซี่เหมือนที่เขาเคยพบเจอ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารวิวรรณมีบางอย่างที่น่าหลงใหล ทศกัณฐ์รีบสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆทันที เขาไม่ควรรู้สึกแบบนี้ ...ไม่ว่ากับใครก็ตาม
"นอนตรงนี้ไปก่อนแล้วกันนะยัยขี้เมา" ผ้าห่มผืนหนาถูกห่มให้ความอบอุ่นคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องราวอย่างเวทนา
@เช้าวันต่อมา
คนที่ตื่นเช้าจนเคยชินเริ่มรู้สึกตัวแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ห้องพัก เฟอร์นิเจอร์ และหลายๆอย่างรอบตัวบ่งบอกว่าเธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาในห้องพักของตัวเอง
"วะ...แว่นตาอยู่ไหน ฮึ่ก! ยัยรวิเอ้ย แย่แน่ๆ" รวิวรรณหลับตาปี๋อย่างหวั่นใจ หากอยู่ที่ห้องเธอจะมีผ้าปิดตาคาดไว้เวลานอนหลับซึ่งมันผ่านการทำพิธีมาเฉกเช่นเดียวกับแว่นตาและผ้ายันต์ แต่เช้าวันนี้เธอตื่นมาพร้อมกับดวงตาที่ไร้เกาะป้องกัน
คนตาบอดยังมีทักษะการใช้ชีวิตมากกว่าคนตาดีที่ไม่กล้าลืมตาเป็นไหนๆ รวิวรรณไม่มีเวลาทบทวนตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ นาทีนี้ต้องรีบควานหาแว่นตาที่พึ่งพิงยามคับขันให้ได้ก่อนเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น
"วะ...แว่นอยู่ไหน แม่ขาช่วยรวิด้วยค่ะ" มือเรียวเล็กยังคงปัดป่ายหาของสำคัญที่คาดว่าน่าจะถูกวางไว้ไม่ไกลตัว เธอไม่ชินกับการใช้ชีวิตเป็นคนไร้ความสามารถในการมองเห็นเลยจริงๆ
'หนูต้องช่วยตากัณฐ์ด้วยนะ ฉันขอร้อง~' นั่นไง มาแล้วสิ่งที่เธอกลัวกำลังวนเวียนอยู่รอบๆตัวเธออีกแล้ว
"ยะ...อย่านะ กลัวแล้ว หนูกลัวแล้ว" รวิวรรณยกมือไหว้ปรกๆไปรอบๆตัว เธอไม่คิดว่าชีวิตจะมาถึงจุดที่ต้องอ้อนวอนขอความเห็นใจจากสิ่งไม่มีชีวิตแบบนี้
'อย่ากลัวฉัน ช่วยลูกชายฉันด้วย ตากัณฐ์กำลังตกอยู่ในอันต...'
เพล้ง!!!! โครมมม!!!!
ความซุ่มซ่ามเป็นเหตุและสังเกตได้ แม้หูจะฟังสิ่งที่วิญญาณผู้หญิงคนนั้นบอก แต่มือและเท้ายังคงทำหน้าที่ควานหาแว่นตาอยู่ดี
"เสียงอะไร! ยัยเพี้ยนเธอทำบ้าอะไรเนี่ย?" ชัดเจน เสียงของท่านรองจอมเก๊ก
"วะ...แว่นฉันอยู่ไหน ทะ...ท่านรองใช่ไหม เอาแว่นให้หน่อย" ทศกัณฐ์หยิบแว่นตาคู่ใจให้เลขาสาวแล้วถือวิสาสะจูงมือเล็กอ้อมเศษแจกันที่ตกแตกอย่างเซ็งๆ
"วุ่นวายจริงๆ เธอนี่มันตัวซวยชัดๆ" คนถูกว่าทำหน้างอง้ำ เธอสวมแว่นตาแล้วค่อยๆหันไปเผชิญหน้ากับคนต้นเหตุอย่างเคืองๆ เหอะ! ทุกอย่างจะไม่วุ่นวายเลยสักนิดหากเขาไม่มอมเหล้าเธอแบบนี้
"หายไปไหนแล้วนะ" รวิวรรณบ่นพึมพำเบาๆถึงวิญญาณแม่ของทศกัณฐ์ที่มาขอร้องเธออย่างร้อนใจ
"หาอะไรของเธอห๊ายัยเพี้ยน!"
"ก็หาแม่ของท่าน เอ่อ ปะ...เปล่าค่ะ" รวิวรรณรีบปฏิเสธคนหน้าดุทันที
"แม่อะไรของเธอ เมื่อคืนก็ทีนึงละ เพ้อถึงแม่อยู่นั่นละ"
"มะ...เมื่อคืน เอ่อ ฉันทำอะไรน่าเกลียดหรอคะ"
"เหอะ! เยอะแยะ จะเอาเรื่องไหนก่อนดีละ เธอทั้งเต้นจนคลับแทบพัง ไหนจะลวนลามฉันอีก" ทศกัณฐ์โกหกคำโตทำเอาคนถูกกล่าวหาเบิกตากว้างตกใจ
"วะ...ว่าไงนะคะ! ว๊ายยย ทำไมท่านรองไม่ใส่เสื้อผ้าละคะ" รวิวรรณหลับตาปี๋อีกครั้งเมื่อสังเกตเห็นหุ่นล่ำๆของเจ้านายหนุ่มชัดๆ เขาใส่เพียงกางเกงนอนขายาวไร้เสื้อปกปิดร่างกายส่วนบน ซิกแพคแน่นๆ ไรขนอ่อนๆบนหน้าอกเรียงตัวสวยจนถึงสะดือทำเอาใบหน้าขาวเริ่มเห่อร้อนอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"ยัยโรคจิต เธอมองจนฉันจะทะลุอยู่แล้วนะ!" ทศกัณฐ์ถอยหลังห่างจากคนตัวเล็กที่แทะโลมเขาด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจ
"ทะ...ท่านรองก็ไปใส่เสื้อผ้าสิคะ ฉะ...ฉัน เอ่อ จะกลับแล้ว"
"เหอะ! จะไปไหนก็ไป เสียเวลาพักผ่อนจริงๆ" ทศกัณฐ์บ่นอย่างหัวเสียแล้วรีบสาวเท้าเข้าห้องไปนอนต่อ
"อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งฉันจะมาปลุกนะคะ" รวิวรรณตะโกนบอกคนในห้องแล้วรีบพาตัวเองออกไปจากคอนโดหรูหราของเจ้านายหนุ่มทันที
ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงสิบนาทีรวิวรรณก็พาตัวเองกลับมาถึงคอนโดที่พักในย่านเดียวกัน แม้จะพยายามไม่คิดถึงคำพูดจาแปลกๆของวิญญาณผู้หญิงคนนั้นแต่ก็ห้ามความรู้สึกส่วนลึกไม่ได้จริงๆ
'ช่วยลูกชายฉันด้วย ตากัณฐ์กำลังตกอยู่ในอันต...' อันตรายหรอ? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายหนุ่มของเธอกันแน่
________________________
